วงการแพทย์ตื่นเต้น !! วัคซีนโควิดของบริษัท Novavax กระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่าของบริษัท Pfizer 6.75 เท่า
จากรายงานการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิดของบริษัท Novavax ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ได้มีความคืบหน้าเข้ามาอยู่ในการวิจัยเฟสสาม อันเป็นระยะสุดท้ายแล้ว คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้
ผลจากการศึกษาวิจัยในเฟสสอง พบว่าระดับภูมิคุ้มกัน ที่เกิดจากการกระตุ้นของวัคซีน Novavax ที่ขนาดห้าไมโครกรัมขึ้นสูงถึง 3906 หน่วย
เมื่อเทียบกับของบริษัท Pfizer ซึ่งขึ้น 578 หน่วยบริษัท Moderna 654 หน่วย
แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือระดับภูมิต้านทานที่ถูกกระตุ้นจากวัคซีน ส่วนประสิทธิภาพหรือความสามารถในการป้องกันโรค จะต้องรอผลการวิจัยอีกหนึ่งถึงสองเดือน จึงจะทราบผล
แต่คาดได้ว่า เมื่อระดับภูมิต้านทานสูงมากขนาดนี้ ก็น่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไม่ด้อยกว่าของบริษัท Pfizer (95%) และวัคซีนของบริษัท Moderna(94.1%)
Novavax ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Protein-based คือใช้ส่วนของโปรตีนไวรัสมากระตุ้นร่างกาย
เป็นเทคโนโลยี Recombinant Nanoparticle และได้เติมตัวเร่ง(Adjuvant) ชื่อว่า Matrix-M ให้เกิดระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้นไปกว่าวัคซีนตามลำพัง
โดยวัคซีนนี้ จะฉีดสองเข็มห่างกัน สามสัปดาห์ ข้อดีของวัคซีนนี้คือ เป็นเทคโนโลยีที่เคยใช้มาแล้ว ทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะปลอดภัยสูงคือ ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัย ในระดับเดียวกับวัคซีนเชื้อตาย(Inactivated) และเก็บรักษาง่าย
โดยใช้ตู้เย็นธรรมดาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
ชื่อของวัคซีนคือ NVX-CoV2373
ขณะนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยบริษัทเอสเค
ไบโอซายน์(SK Biosciences) ซึ่งมีศักยภาพสูงเหมือนสยามไปโอซายน์ คือสามารถรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัท AstraZeneca มาผลิตวัคซีนได้นั้น
ได้เริ่มเจรจา ที่จะรับเทคโนโลยีของบริษัท Novavax มาผลิตวัคซีนด้วยเช่นกัน ยังตกลงกันไม่เรียบร้อย
ถ้าสำเร็จ ก็จะได้รับวัคซีนมาเพิ่มอีก 40 ล้านเข็ม(โดยการผลิตเอง)
ก็จะทำให้เกาหลีใต้ ซึ่งมีการจองแบบ ต้องยอมรับความเสี่ยง ว่าอาจจะสูญเงินทั้งหมด โดยไม่ได้วัคซีนถ้าวัคซีนเกิดไม่สำเร็จ
กลายเป็นมีความหวังว่าจะมีวัคซีน 146 ล้านเข็ม เพียงพอเหลือเฟือสำหรับประชาชน
โดยโควต้าที่มีอยู่แล้วนั้น มาจากโครงการ COVAX บริษัท Pfizer Moderna AstraZeneca และ Johnson & Johnson
ลำดับของการพัฒนาวัคซีนของ Novavax คือ
มกราคม 2563 เริ่มทำการวิจัย
พฤษภาคม 2563 เริ่มการทดลองในมนุษย์เฟสหนึ่ง
กรกฎาคม 2563 สหรัฐให้ทุนวิจัย 1.6 พันล้านเหรียญ
สิงหาคม 2563 การวิจัยเฟสสองในอาสาสมัคร 2900 คนในแอฟริกาใต้
กันยายน 2563 การวิจัยเฟสสาม ในอาสาสมัคร 15,000 คนของอังกฤษ และในเดือนเดียวกันนี้เองทางบริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก(อินเดีย) ซึ่งผลิตได้ถึงปีละ 2,000 ล้านเข็ม ชื่อ The Serum Institute of India
28 ธันวาคม 2563 ทดลองเฟสสามกับอาสาสมัคร 30,000 คนในประเทศสหรัฐอเมริกา
ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย บริษัท Novavax จะสามารถส่งวัคซีนให้กับสหรัฐได้ 100 ล้านเข็ม
ให้อังกฤษ 60 ล้านเข็ม
และออสเตรเลีย51 ล้านเข็ม
เนื่องจากประเทศต่างๆเหล่านี้ ได้ยอมเสี่ยงจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวนมหาศาลนับหมื่นล้านบาท ซึ่งมีความเสี่ยงว่า ถ้าวัคซีนไม่สำเร็จ หรือมีผลข้างเคียงสูงจนไม่สามารถฉีดให้กับประชาชนได้
ก็จะสูญเงินไปทั้งหมดโดยไม่ได้อะไรเลย
ประเทศไทยเรา ไม่สามารถจะทำลักษณะดังกล่าวได้ เพราะเราจะสูญเงินนับหมื่นล้านบาทไป ซึ่งทุกคนคงยอมรับการสูญเสียเงินมากขนาดนี้ไม่ไหว
จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความระมัดระวัง สูงกว่าประเทศร่ำรวยดังกล่าวข้างต้นครับ
Reference
ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม
- 84
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
