21 ม.ค. 2021 เวลา 00:41 • ความคิดเห็น
คนที่ “เก่งแบบเป็ด” อ่านบทความนี้แล้วจะมีกำลังใจ
33
โลกคนทำงานอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ specialist และ generalist
11
Specialist คือคนที่รู้ลึกในด้านใดด้านหนึ่งเอามากๆ ตามสุภาษิตรู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล
20
Generalist คือคนที่ทำได้ทุกอย่าง ให้วิเคราะห์ก็ได้ ให้เขียนก็ได้ ให้พรีเซนต์ก็ได้ ให้ประสานงานก็ได้
23
แต่คนกลุ่มนี้มักจะมีปมลึกๆ ว่าตัวเองไม่เก่งอะไรจริงๆ เลยสักอย่าง ชอบเรียกตัวเองว่าเป็นเป็ด บินก็สู้นกไม่ได้ เดินก็สู้ไก่ไม่ได้ ว่ายน้ำก็สู้ปลาไม่ได้อีก
48
คนที่เก่งแบบเป็ดก็เลยขาดความมั่นใจ และพกความกังวลว่าตัวเองจะยังเป็นที่ต้องการของคนตลาดอยู่มั้ย
23
ในฐานะที่ผมเองก็เป็นเป็ดตัวหนึ่งที่ไม่เคยทำงานตรงสาย ก็เลยอยากเชียร์ตัวเองและเพื่อนพ้องเป็ดให้มีความมั่นใจขึ้นสักเล็กน้อย
36
เพราะแม้ว่าคนที่เป็น specialist จะมีประสิทธิภาพและผลิตงานออกมาได้มาก แต่งานหลายอย่างของ specialist ก็กำลังถูก AI เข้ามาทำหน้าที่แทน
20
สิ่งที่ AI ทำแทนไม่ได้ อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้นี้ คืองานที่ต้องอาศัยความเป็นมนุษย์ เพราะแม้ AI จะวิเคราะห์มะเร็งปอดจากภาพเอ็กซ์เรย์ได้เก่งกว่าคุณหมอ แต่ AI ไม่สามารถสรรหาคำพูดที่เหมาะสมเพื่อให้คนไข้ที่กำลังเสียขวัญมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาได้
61
พี่แท็ป รวิศ หาญอุตสาหะ เคยมา WeShare ไว้ว่า คนสมัยก่อนจำเป็นต้องรู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียวแบบตัว I พอยุคถัดมาก็ควรจะรู้แบบตัว T คือรู้กว้างในหลายๆ เรื่องและรู้ลึกหนึ่งเรื่อง แต่คนยุคถัดไปน่าจะต้องเก่งแบบตัว Y เหมือน Robert Lang นักฟิสิกส์ที่โปรดปรานการพับกระดาษแบบ Origami และนำสองศาสตร์มารวมกันจนพบวิธีการพับแผงโซล่าร์เซลล์ในอวกาศให้นาซ่า
55
การนำศาสตร์หลายๆ อย่างมาบูรณาการกันก็เป็นสิ่งที่ AI ยังทำแทนไม่ได้เช่นกัน Alpha Go อาจจะเล่นโกะเก่งกว่ามนุษย์คนใดบนโลกใบนี้ แต่ Alpha Go ไม่สามารถวาดรูปหรือแต่งเพลงได้ ต้องใช้ AI ยี่ห้ออื่นมาทำแทน
34
อีกจุดอ่อนหนึ่งของ specialist ก็คือเมื่อเขาใช้เวลากับด้านใดด้านหนึ่งมาก เขาก็จะมีความ “แหลม” ในตัวเอง อาจจะทำบัญชีเก่งมากแต่ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรืออาจจะเรียนจบด็อกเตอร์มาแต่ขาดความสามารถในการสื่อสารเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ
44
ซึ่ง generalist จะไม่เป็นแบบนี้ เพราะมีความ well-rounded จากการได้ลองทำหลายสิ่งหลายอย่าง มีคอมมอนเซ้นส์ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และมีความยืดหยุ่นกว่าในการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพราะไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็นสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้
42
ซึ่งความยืดหยุ่นหรือความ elastic เป็นคุณลักษณะที่สำคัญมากๆ สำหรับโลกหลังโควิดที่ขับเครื่องบินอยู่ดีๆ ก็อาจต้องมาเปิดร้านขายอาหารเดลิเวอรี่
25
กล่าวโดยสรุปก็คือการเป็นเป็ดนั้นไม่ใช่เรื่องแย่และอาจจะมีแต้มต่อกว่า specialist ด้วยซ้ำ สำคัญคือเราต้องขยันและหมั่นฝึกฝนตนเองโดยไม่ลืมว่าสุดท้ายแล้วเราต้องทำงานกับมนุษย์และทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์
41
เราต้องหัดบูรณาการความรู้จากหลายแขนงเพื่อสร้างจุดแข็งที่คนอื่นหรือ AI ไม่อาจเลียนแบบ
18
แล้วเป็ดอย่างเราจะยังมีที่ยืนอย่างสง่างามในยุคสมัยแห่งความไม่แน่นอนครับ
22
โฆษณา