21 ม.ค. 2021 เวลา 00:47 • สุขภาพ
"วัคซีนโควิด-19" รัฐผูกขาด ไม่เสรี???
เพราะในสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ระบาด..."วัคซีนไม่ใช่สินค้าปกติ" ล่าสุด ผอ.องค์การอนามัยโลก ออกมาขอให้ประเทศร่ำรวย "หยุดกักตุนวัคซีน"!!!
ออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนไม่ได้เป็นประชาสัมพันธ์รัฐบาล ไม่ได้เป็นประชาสัมพันธ์ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)แต่เขียนในฐานะที่ได้ตามทำข่าวโรคระบาดครั้งใหญ่ รวมถึงการจัดหา"วัคซีน"มาใน 2 ยุคของโรคทางเดินหายใจระบาดใหญ่ คือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 และโควิด-19นี้ จึงขอนำความเข้าใจของตัวเองที่ติดตามเรื่องนี้...มาบอกเล่า
1.ทำไมรัฐต้องเป็นคนจัดหาวัคซีนเอง???
1.1สธ.มีประสบการณ์เรื่องวัคซีน...ที่สำคัญในช่วง"ไข้หวัดใหญ่2009"ระบาดทั่วโลก...ตอนนั้นเราต้องพึ่งพาวัคซีนจากต่างประเทศทั้งหมด...ซึ่งเมื่อวัคซีนต่างประเทศทำสำเร็จ...เราหาซื้อไม่ได้ (จำไม่ได้ว่าเพราะบริษัทส่วนใหญ่ขายให้ปท.รวยหรือเพราะราคาแพงหรือเพราะวัคซีนมีน้อย)...แต่โรคนี้โชคดีมียาเฉพาะรักษาคือโอเซลทามิเวียร์ซึ่งองค์การเภสัชกรรมก็ผลิตได้
1.2 ผลจากครั้งนั้น ทำให้ไทยคิดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนเอง เพราะโรคทางเดินหายใจจะระบาดใหญ่อีกแน่ๆ(ในวงการแพทย์มักพูดกันว่าโรคทางเดินหายใจจะมีการระบาดใหญ่แทยจะทุก 10 ปี)...เราจึงต้องเตรียมพึ่งตนเองในเรื่องวัคซีน...จึงมีการอนุมัติให้องค์การเภสัชฯจัดสร้างโรงงานวัคซีนที่อ.ทับกวาง จ.สระบุรี...ยุคแรกเริ่มจะใช้เทคโนโลยี"เชื้อตาย"ในการผลิต(เทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนโควิดของซิโนแวค)...แต่ผ่านมาจนตอนนี้เข้าปีที่ 12 ...โรงงานนี้ก็ยังไม่ได้ผลิตในระดับอุตสาหกรรมออกมาใช้เลย(เพราะอะไรค้นหาข่าวเก่าได้ เรื่องนี้ค่อนข้างมหากาพย์)
1.3 มาถึงการระบาดของโควิด...จากประสบการณ์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่...ทำให้ไทยมีบทเรียนว่าจะต้องมีแผนจัดหาวัคซีนและทำการ "จองซื้อวัคซีนล่วงหน้า"...ตั้งแต่อยู่ในขั้นตอนวิจัย-ทดลอง(ยังไม่รู้ออกหมู่หรือจ่าวัคซีนจะสำเร็จหรือไม่)...จึงจะทำให้"คนไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีน"ในเวลาใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ...เพราะถ้าไปรอซื้อตอนวัคซีนวิจัยเสร็จ...ในช่วงระบาดเช่นนี้จะไม่มีวัคซีนมาขายให้ไทยแน่(ประสบการณ์มีชัดแล้วตอนไข้หวัดใหญ่ระบาด)
1.4 ทั้งหมดจึงเป็นที่มาและคำตอบว่า "ทำไมรัฐต้องจัดหาวัคซีนเอง"....นั่นก็เพราะ "ต้องทำการจองซื้อวัคซีนล่วงหน้าตั้งแต่วิจัยไม่เสร็จยังไม่รู้จะหัวก้อย"!!!>>>แล้วจะมีเอกชนไทยรายไหนจะเสี่ยงลงทุน????(และที่ผ่านมาเมืองไทยก็ไม่น่าจะมีเอกชนไหนลงทุนด้วยการจองซื้อวัคซีนตั้งแต่ยังไม่รู้ผลการวิจัยวัคซีน หรือถ้าใครรู้ว่ามีเอกชนไทยไหนจองซื้อล่วงหน้าแบบที่รัฐทำ...วานแย้งหรือแจ้งผู้เขียนด้วย)...รวมถึงท้องถิ่นต่างๆที่หอบเงินมาให้รัฐด้วย
2.รัฐผูกขาด ทำไมไม่ให้แข่งขันเสรี???
2.1 จนเมื่อปลายปีที่แล้ว เริ่มมีผลวิจัยในคนระยะ3เบื้องต้นของแต่ละบริษัทออกมาประกาศประสิทธิผลของวัคซีน...ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตราฯ ซิโนแวค สปุทนิค ซิโนฟาร์ม....ช่วงนี้ที่เอกชนไทยเริ่มขยับ...แม้แต่ซีพีที่ว่ายักษ์ใหญ่แล้วยังเพิ่งเข้าซื้อหุ้นซิโนฯเมื่อไม่นานนี้เอง(ขณะที่รัฐเตรียมการจองวัคซีนล่วงหน้ามาตั้งแต่ราวกลางปี2563)
2.2 เมื่อเอกชนเริ่มขยับ...ถามว่าภาวะโรคระบาดเช่นนี้...กะมาซื้อวัคซีนตอนสำเร็จแล้ว...บริษัทผู้ผลิตไหนจะมีขายให้เอกชนไทย...ในเมื่อวัคซีนถูกจองล่วงหน้าตั้งแต่วิจัยยังไม่เสร็จหมดแล้ว(อาจจะมีได้ของซิโนแวคมั้ง เห็นรัฐไปเจรจาขอซื้อสำเร็จมาได้ด่วน 2 ล้านโดส ไม่รู้เอกชนไทยไหนเจรจาได้อีกบ้าง)
2.3 เพราะฉะนั้น ในภาวะโรคระบาดเช่นนี้...วัคซีนนับว่าเป็นสินค้าไม่ปกติ...ไม่ใช่มีเงินแล้วจะหอบไปซื้อจากต่างประเทศแล้วได้สินค้ามาทันที...หากเอกชนไทยมีคำสั่งซื้อไปบ.ต่างประเทศตอนนี้...กว่าจะได้ก็อีกนาน เพราะคิวจองแน่น
2.4 แต่ถ้าเอกชนไหนไปเจรจาขอซื้อมาได้...ถ้าบ.ต่างประเทศที่สั่งซื้อนั้นไม่มีสาขาในไทย...ภาคเอกชนนั้นจะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนตัวนั้นกับอย.เอง...พร้อมกับยื่นขออนุญาตเป็นผู้นำเข้า...แต่จนตอนนี้(20ม.ค.64)ก็ยังเอกชนไทยไหนมายื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนตัวใด (เพราะรับรู้กันดีว่าในตลาดวัคซีนโลกขณะนี้ต่อให้มีเงินก็หาซื้อยากมากกกกก)
2.5 กรณีทำไมสยามไบโอไซฯได้รับเลือกให้เป็นบ.รับถ่ายทอดเทคโนโลยี ทำไมไม่ให้เอกชนรายอื่นแข่งขันเสรี ??? นั่นเพราะบ.เอกชนอื่นไม่มีศักยภาพกำลังการผลิตตรงตามที่แอสตราต้องการฯและแอสตราฯก็เป็นผู้เลือกบ.สยามฯเอง
อ่านได้จากข่าวนี้....
2.6 แม้แต่องค์การเภสัชกรรมฯที่บอกว่ามีโรงงานผลิตวัคซีนที่ทับกวางนั้น...ก็ไม่มีศักยภาพพอตรงนี้...เพราะแอสตราฯต้องการให้บ.ที่จะรับถ่านทอดเทคโนโลยีเป็นฐานการผลิตให้ปท.อื่นในอาเซียนด้วย จึงต้องการกำลังผลิต 200 ล้านโดสต่อปี บวกกับเทคโนโลยีวัคซีนของแอสตราฯนั้นใช้ "ไวรัล แวคเตอร์"ขณะที่โรงงานวัคซีนองค์การฯเดิมจะใช้เทคโนโลยี"เชื้อตาย"นั้น แม้จะสามารถพัฒนาให้รองรับการผลิตวัคซีนในเทคโนโลยีอื่นได้ แต่กำลังการผลิตไม่พอตามที่แอสตราฯต้องการ (แต่อนาคตโรงงานนี้สามารถใช้ผลิตวัคซีนในเทคโนโลยีอื่นได้ เพราะตอนนี้มีการวิจัยทดลองอยู่หลากหลายเทคโนโลยีมาก...ในไทยมีอยู่ราว 7-8เทคโนโลยี )
2.7 อนาคตบ.สยามไบโอไซฯจะเป็นผู้ผูกขาดขาย"วัคซีนโควิด19"....การซื้อขายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างแอสตราฯกับรัฐ ส่วนบ.สยามฯเป็นผู้รับจ้างผลิตของแอสตราฯ...ดังที่กล่าว อนาคตหากรัฐไทยไม่ซื้อวัคซีนนี้ต่อจากแอสตราฯ...เขาก็ขายให้ประเทศอื่นๆในอาเซียนที่สนใจจะซื้อได้...เพราะตั้งใจใช้ที่นี่เป็นฐานผลิตภูมิภาคนี้อยู่แล้ว...แต่ถ้ารัฐไทยจะเจรจาและซื้อวัคซีนต่อจากแอสตราฯต่อไป...ก็ไม่แปลกอะไร...หากวัคซีนของแอสตราฯนั้น...มีความปลอดภัย ประสิทธิภาพดี และราคาไม่แพงเหมือนยี่ห้ออื่น หรือเหตุผลอื่นๆ...ตามแต่คณะกรรมการวัคซีนจะพิจารณาในอนาคต(ก็เป็นหลักการเลือกซื้อสินค้าทั่วไปที่จะต้องพิจารณาเลือกตัวที่โอเคที่เราพอใจ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา