หนึ่งในพฤติกรรมของราคาหลักทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถใช้ในสังเกตุและจับจังหวะการทำราคาของนักลงทุนรายใหญ่คือ "การหลุดหลอก (Shakeout)"
การหลุดหลอก หรือ Shakeout คือการที่นักลงทุนรายใหญ่ทุบให้ราคาหลักทรัพย์ "หลุดแนวรับเดิม" อย่างรวดเร็วและทำจุดต่ำสุดใหม่เพื่อหลอกให้นักลงทุนรายย่อยเข้าใจผิด ว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่มีปริมาณอุปสงค์เพียงพอที่จะพลักดันราคาให้เคลื่อนที่ขึ้นอย่างที่นักลงทุนคาดการณ์ได้ การ Shakeout เป็นหนึ่งในอาวุธชิ้นสำคัญที่นักลงทุนรายใหญ่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ 2 ประการ
1.เพื่อทดสอบว่าในตลาดยังมีอุปทานเหลืออยู่มากน้อยเพียงใดเนื่องจากหากในตลาดยังมีอุปทานหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จะส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่ไล่ราคาขึ้นไปอย่างรวดเร็วได้ยาก เพราะเมื่อนักลงทุนรายใหญ่ต้องการไล่ราคา นักลงทุนรายใหญ่ก็จำต้องซื้ออุปทานที่หลงเหลืออยู่มากนั้นในราคาที่สูง จึงจะสามารถทำให้ราคาเคลื่อนที่ไปถึงราคาเป้าหมายได้ สาเหตุที่ Shakeout เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบอุปทานได้ก็เพราะเมื่อราคาหลุดแนวรับเดิมนักลงทุนรายย่อยจะเริ่มถูกกระตุ้นให้เกิดความกลัวว่าราคาขายจะต่ำลงไปอีกจนอาจส่งผลให้กำไรลดลงอย่างมากหรือเกิดการขาดทุนได้ หากราคาหลักทรัพย์หลุดแนวรับและนักลงทุนรายย่อยมีความต้องการขายหลักทรัพย์ตัวดังกล่าวอยู่แล้ว (กล่าวคือนักลงทุนรายย่อยถือหลักทรัพย์ตัวดังกล่าวเพื่อรอเวลาขายอยู่) ก็มีโอกาสสูงที่นักลงทุนรายย่อยจะขายหลักทรัพย์ตัวดังกล่าวทิ้งทันทีเพราะความกลัวว่าราคาจะยิ่งต่ำลงไปกว่าเดิม
2.เพื่อเก็บสะสมหลักทรัพย์เพิ่มในราคาที่ต่ำลงกว่าเดิม อันจะส่งผลให้การขาย ณ บริเวณราคาเป้าหมายได้กำไรที่สูงขึ้น นักลงทุนรายใหญ่ทราบดีว่าหากราคาหลักทรัพย์หลุดแนวรับเดิม จะส่งผลให้เกิดแรงขายกลับเข้ามาในตลาด นักลงทุนรายใหญ่จึงใช้จังหวะนี้ในการเก็บสะสมหลักทรัพย์เพิ่มในราคาต่ำ
อย่างไรก็ตามนักลงทุนรายย่อยจะทรายได้อย่างไรว่าการหลุดแนวรับที่เห็นเป็นการหลุดแนวรับจริงๆหรือการหลุดหลอกจากนักลงทุนรายใหญ่?
จุดสังเกตุคือ หลังจากที่ราคาหลุดแนวรับไปแล้วหากราคาหลักทรัพย์วิ่งย้อนกลับมายืนเหนือแนวรับ "อย่างรวดเร็ว" ก็มีความเป็นไปได้สูงที่การหลุดแนวรับที่เห็นจะเป็นเพียงการหลุดหลอก
เข้าสู่หน้าเว็ปไซต์หลักได้ที่ --> https://ibextraders.com/
ติดตามเฟสบุคได้ที่ --> https://m.facebook.com/IBEXTrader
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
