22 ม.ค. 2021 เวลา 08:38 • สุขภาพ
การคุมกำเนิดที่คุณควรรู้‼️
Ep.2ยาเม็ดคุมกำเนิด
EP.2ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน) จะช่วยยับยั้งการตกไข่ แปรสภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกให้ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้ มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น จนเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนตัวของอสุจิ
ประเภทของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดมี 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนรวมกับฮอร์โมนเดี่ยว
1. ฮอร์โมนรวม (Combined oral contraceptive pill) เป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจนรวมกันในเม็ดเดียว
ข้อดี
-หาซื้อได้ง่าย
-หลังหยุดกินแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้เลยในเดือนถัดมา
ประจำเดือนมาสม่ำเสมอตามปกติ
-ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งมดลูกและรังไข่
ข้อเสีย
-ต้องมีวินัยในการกินยาให้สม่ำเสมอ
-ใช้ยาต่อเนื่องเกิน 5 ปี เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก
2. ฮอร์โมนเดี่ยว (Progestogen only pill) เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว ทำออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน มักใช้ในแม่ที่ให้นมบุตร
ข้อดี
-หาซื้อได้ง่าย
-แม่หลังคลอดที่ให้นมลูกใช้ได้
-หลังหยุดกินแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้เลยในเดือนถัดมา
ข้อเสีย
-จะไม่มีประจำเดือนเป็นรอบๆ อาจไม่มีประจำเดือนเลย หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย
วิธีการกินยาคุม
คือ กินทุกวันวันละ 1 เม็ด กินตามลำดับของลูกศรที่ชี้ไปเรื่อยๆ จนหมดแผง
ยาคุมแบบ 21 เม็ด (มีแต่ชนิดฮอร์โมนรวม) : ถ้ากินหมดแผงแล้วก็ให้เว้นไป 7 วัน แล้วเริ่มกินยาแผงใหม่ในวันที่ 8
ยาคุมแบบ 28 เม็ด : กินให้ครบจนหมดแผงแล้วเริ่มกินแผงใหม่ได้เลย (แนะนำให้กินแบบนี้จะได้ไม่ลืมกินแผงใหม่)
ผลข้างเคียง
-ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้
-คัดตึงเต้านม
-น้ำหนักขึ้น
-หน้าเป็นฝ้า
ขอบคุณข้อมูล
โฆษณา