22 ม.ค. 2021 เวลา 10:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🧍‍♂️เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของ มาร์ค วัทนีย์ นักบินอวกาศนาซ่า ผุ้เป็นทั้งนักพฤษศาสตร์ วิศวกรเครื่องกล และอดีตนักโบราณคดีที่ติดค้างอยู่บนดาวอังคารเพียงลำพัง ........
ดาวอังคาร...
ดาวอังคาร (Mars) เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นอันดับที่ 4 ในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมด ห่อหุ้มด้วยชั้นแมนเทิลที่เป็นหินหนืดหนาประมาณ 1,600 กิโลเมตร และมีเปลือกแข็งเช่นเดียวกับโลก ดาวอังคารมีสีแดงเนื่องจากพื้นผิวประกอบด้วยออกไซด์ของเหล็ก (สนิมเหล็ก) พื้นผิวของดาวอังคารเต็มไปด้วยหุบเหวต่างๆ ดาวอังคารมีบรรยากาศเบาบางมาก ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนใหญ่ซึ่งเกิดจากการระเหิดของน้ำแข็งแห้ง
ภายหลังคำสั่งยกเลิกภารกิจและอพยพทีมสำรวจทั้ง 5 ของน่าซ่ากลับสู่โลก เนื่องจากเกิดพายุครั้งใหญ่
ในความจริงการเกิดพายุบนดาวอังคารแรงสุดๆก็เพียงแค่ลมเบาๆปะทะหน้าเพราะดาวอังคารมีความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศน้อยมาก ถ้าเทียบกับโลก
เมื่อเกิดพายุมาร์คเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของทีมที่ไม่สามารถกลับสู่ยานลำเรียง จนถูกสันนิฐานว่าเขาอาจไม่รอดชีวิตเขาไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือกลับมายังโลกได้ มาร์คจึงจำเป็นจะต้องใช้ทุกทักษะประสบการณ์ที่มีมาผสมผสานไปกับทุกองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อคิดหาหนทางขอช่วยเหลือ ขณะเดียวกันกับที่ก็ต้องหาวิธีดำรงชีวิตให้อยู่รอด เขาพยายามปลูกมันฝรั่งในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
คำถามคือดินบนดาวอังคารปลูกพืชได้จริงไหม "ดิน" บนดาวอังคารนั้นประกอบไปด้วยทราย ฝุ่น และเศษหินที่ถูกบดเป็นชิ้นเล็กๆ การที่จะปลูกได้ไม่ใช่มีเพียงวัตถุต้นกำเนิดดินเท่านั้นแต่ต้องมีสารอินทรีย์ และจุลินทรีย์ต่างๆ
การเตรียมดิน
โดยมาร์คเตรียมดินสำหรับเพาะปลูก🍀🌿บนดาวอังคาร ได้เริ่มจากดินจากโลกซึ่งเขาเตรียมไปด้วยอยู่แล้วในภารกิจการศึกษาทางพฤกษศาสตร์ที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบ ภายในดินจากโลกนี้มีจุลชีพจำนวนมากที่อาศัยอยู่ และขั้นตอนแรกที่ต้องทำก็คือเพิ่มจำนวนดินโดยการเพิ่มจำนวนจุลชีพที่อยู่ในดิน ซึ่งทำได้โดยการนำเอาดินบนโลกผสมกับดินบนดาวอังคาร และเติม "สารอินทรีย์" ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนได้ปริมาณดินที่สามารถเพาะปลูกมันฝรั่งได้
อจท.
แต่สุดท้าย ฮับก็ระเบิดทำให้จุลชีพตายไม่สามารถเพาะปลูกได้
ติดตามต่อตอนถัดไปนะคะ😊
โฆษณา