Blockdit Logo (Mobile)
OrdinaryKid
•
22 ม.ค. 2021 เวลา 14:23 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
American Psycho (2000) เล่าหนังสบาย Analyze โดย OrdinaryKid
American Psycho (2000)
-- มีโอกาสได้กลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง บอกได้ว่ายังคงสร้างความประทับใจแบบแปลกๆในความตลกร้ายและการเล่นกับความคิดที่ดูแล้วสะท้อนถึงวิถีชีวิตสภาพสังคมจากอดีตที่เป็นเช่นไร มายุคนี้ก็ยังคงเช่นนั้นหาเปลี่ยนไม่ เพราะนิสัยและพฤติกรรมของมนุษย์สุดประเสริฐอย่างเราๆ ธรรมชาติขีดกรอบมาไว้แล้วอย่างกับเป็นวัฐจักร ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองและการแสดงออกจะดีร้ายแค่ไหนในการจัดการกับอารมณ์ ผมมองว่ามันอาจขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานในตัวเอง ได้แก่ การถูกอบรมสั่งสอน การเรียนรู้และความนึกคิดของคนเรา รวมไปถึง สภาพแวดล้อมที่เคยสัมผัสมา
ซึ่งก็ยังมีข้อสงสัยในสิ่งต่างๆที่ยังต้องเรียนรู้และหาคำตอบต่อไปกับคำถามที่ผุดขึ้นในหัว หลังจากมองผ่านความคิดและการกระทำของตัวละครเรื่องนี้แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่ไกลตัวเลย พบเห็นได้จากคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแต่ละวัน อาทิ
1.คนเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้มากแค่ไหนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย?
2. ถ้าความร่ำรวยไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง งั้นคุณยังต้องการสิ่งใด?
3. จุดอิ่มตัวของคนเราขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก สถานการณ์ แรงกระตุ้น และเหตุจูงใจต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวใกล้ตัวของคนเรายุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
- ว่าด้วยเรื่องราวของ แพทริค เบทแมน ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม หน้าที่การงาน ฐานะการเงิน (เศรษฐีนิสัยประหลาดจากแบทแมน Trilogy 555) มาดผู้ดี ติดเนี๊ยบ และความเพอร์เฟ็คต์ในหลายๆ อย่าง รักการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ภาพลักษณ์ตอนกลางวันเขาเป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น เหมือนคนทำงานทั่วไป แต่เมื่อยามราตรีมาเยือน เขาคือผลของความผันผวนในสมการด้านลบที่พยายามปลดปล่อยด้านมืดภายในจิตใจออกมา นับวันยิ่งมากขึ้นจนมันทำให้เขาอาจเสียความเป็นตัวเองตลอดไป
จากที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่แรกในวงสนทนาที่หนังเปิดประเด็นออกมาและมีความน่าสนใจอยู่พอตัว คือสังคมมีการแข่งขัน แม้จะในระดับชนชั้นไหนก็ตาม ทุกคนพึงปรารถนาที่จะเป็นที่หนึ่ง การแก่งแย่งชิงดี ความอิจฉาริษยา การเสียดสีทางสังคม ลัทธิบริโภคนิยม และความต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกด้านของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง แม้หนังเรื่องสร้างมาเมื่อปี 2000 แต่การจิกกัดสังคมผ่านหนังเรื่องนี้ก็ยังคงสืบต่อมาเรื่อยๆ
และความเป็น Profectionist แบบสุดโต่งของแพทริคนี่เอง ที่ทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งความต้องการมากขึ้นเท่าไหร่ ตัวตนของเขายิ่งเหลือน้อยลงไปทุกที และมันทำให้ไม่มีใครสามารถจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขาได้จริงๆหรอก
ด้วยความละเอียดอ่อนทางด้านวัตถุ และรสนิยมแบบชั้นสูง ทำให้เกิดเป็นไฟภายในจิตใจที่ไม่มีวันมอดและดูเหมือนจะคุกรุ่นจนลุกโชนได้ทันที พร้อมจะแผดเผาออกมาเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่า
รวมไปถึงสัญชาตญาณดิบที่แสดงออกถึงความรุนแรงยามค่ำคืนอันขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก
โดยรวมเนื้อหาของเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย แต่การตีความถือว่ายาก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการเก็บข้อมูลไปวิเคราะห์และคิดต่อของคนดูเอง ฉากตลกร้ายและโหด สามารถพบเจอได้ตลอดช่วงกลางของหนัง ใครจิตอ่อน ไม่ชอบหนังแนวเครียด โหด หลีกเลี่ยงไว้เป็นดี ถ้าชอบแนวจิตวิเคราะห์ไม่ควรพลาด
สิ่งที่เด่นชัดอีกอย่างโดยไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ นั่นคือ แม้แพทริคของเรา ที่มีสภาพจิตใจไม่มั่นคงนัก แต่ยังมีมุมผ่อนคลายอารมณ์โดยการฟังเพลง หนังสื่อให้เห็นว่าตัวเอกของเรา รักและชื่นชอบการฟังเพลงขนาดไหน ไม่ว่าจะห้องนอน ยันห้องทำงานยังต้องมีแผ่นซีดีอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละเพลงที่คัดสรรมาประกอบฉาก มีแต่ของดีทั้งนั้นบอกเลย และรสนิยมความชอบเรื่องเพลงที่หลากหลาย และการวิจารณ์เพลงของเขานั้นเรียกได้ว่าหากใครที่หูไม่ถึงหรือไม่ละเอียดอ่อนกับบทเพลง อาจมองว่าดูน่าเบื่อในการพูดพล่ามถึงความดีเลิศประเสริฐศรี
และความคลาสสิคของบทเพลง ใครที่เป็นคอเพลงน่าจะชอบพอสมควร ในด้านการวิจารณ์ ความหมายในแต่ละบทเพลง และศิลปะในการพรรณนาอย่างเหนือชั้น
---> สุดท้ายนี้ สิ่งผมชอบมากที่สุดคือหนังสอดแทรกเรื่องประเด็นการนิยมฟังเพลงแบบลิขสิทธิ์แผ่นแท้ไม่ใช่แผ่นผีหรือแผ่นก็อป ซึ่งไม่แค่เฉพาะแพทริคเท่านั้นที่นิยม โดยเมื่อเทียบกับยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นไปทาง Digital download ซะมากกว่าเพื่อความสะดวกในการพกพา หากว่าคุณไม่ใช่คนประเภทยึดติด แต่ความรู้สึกหรือมูลค่าทางจิตใจมองว่ายังไงๆมันก็ไม่อาจเทียบได้กับสิ่งของที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้แน่นอน
โฆษณา