25 ม.ค. 2021 เวลา 09:24 • ความคิดเห็น
ยังไงกันนะที่เรียกว่าไต้หวั้นน ไต้หวัน ?
Cr: Pinterest
สวัสดีค่ะทุกคน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกสรรพสิ่งหยุดชะงักโดยเฉพาะในเรื่องของภาคท่องเที่ยวที่ดูทรงแล้วจะกระทบมากที่สุด
แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ ในเมื่อเราออกไปไหนไม่ได้ เราก็มาย้อนเวลาเที่ยวไปกับจูคนนี้คนเดิมนะคะเย้
วันนี้จูจะนำสิ่งที่แบบว่า ไต้หวั้นน ไต้หวันมาแชร์กับทุกคนค่ะ พร้อมแล้วเราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
Cr:Juu
ทุกคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าใบเสร็จเงินใช่ไหมละคะ แต่จูขอบอกก่อนเลยว่าใบเสร็จเงินที่ได้รับจากประเทศไต้หวันนั้นแปลกและพิเศษมากๆเลยค่ะ อ้ะ เป็นยังไงเราไปดูกันน
คือไม่ว่าใครจะซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น 7/11 เหมือนๆบ้านเรา หรือ มินิมาร์ทต่างๆ ล้วนแต่จะได้รับสลิปใบเสร็จรับเงินทั้งนั้น แต่เอ้ะๆ! ขอย้ำเน้นๆเลยว่าอย่าเพิ่งโยนทิ้งถังขยะไปเฉยๆนะคะ
‘เพราะว่าทุกใบเสร็จมีค่าเสมอค่ะ’ หู้ยพูดไปเหมือนรักโลก ความจริงคือเรานั้นแหละที่โลภ แฮร่’ อย่างที่จูบอกค่ะ ทุกใบเสร็จมีค่า ค่าที่ว่าก็คือฉลากกินแบ่งหรือหวยนั้นเองค่ะ ซึ่งที่ไต้หวันเนี่ย ไปวัดหลงซานทีไม่ต้องไปขอเลขหวยจากเทพเขานะคะ เพราะต่อให้ไปอยู่ใต้หวันสัก 2 อาทิตย์ ใบเสร็จจะเก็บสะสมได้เป็นกองๆเลยหล่ะค่ะ
แล้วหวยของเขาเนี่ย จะประกาศรางวัลทุกๆ 2 เดือน คือเรียกได้ว่าช้อปไปเถอะค่ะ โอกาสได้คืนมาสูงอยู่แล้ว ยิ่งเราเก็บไว้ทุกๆใบเสร็จ แน่นอนค่ะเราอาจจะไม่ได้โชคดีได้แค่รางวัลเดียวนะเออออ
Cr:Juu
มาต่อกันเรื่องใต้หวั้นใต้หวันเรื่องที่ 2 คะ ซึ่งตามภาพประกอบที่จูแปะไว้เลยค่ะ ‘มาไต้หวัน ไม่พ้นฝน’ และอากาศที่ไต้หวันจะไม่แน่ไม่นอนเลยค่ะเพื่อนๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญมากๆก็คือ ไม่ว่าจะออกจากที่พักสิ่งที่ต้องพกไปก็คือร่มนั่นเองคะ สำคัญมากๆๆๆ เพราะถ้านางได้ตก นางจะตกแบบไม่เกรงอกเกรงใจใดๆเลยค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนตก 40% จะไม่มีที่ไต้หวันค่ะทุกคน เน้นอีกรอบนะคะ ร่ม ค่ะ ร่มม
ขอแอบกระซิบหน่อยว่าสำหรับท่านใดที่เดินทางมาที่ประเทศไต้หวันเพื่อท่องเที่ยว หรือธุระส่วนตัวอะไรก็ตามแต่ จูขอแนะนำให้พกร่มจากประเทศไทยไปด้วยนะคะ โหลดไว้ไต้เครื่องบินก็ได้ค่ะ เพราะราคาร่มที่นี้แพงหูฉีกมากกก อย่ามาหวังน้ำบ่อหน้าแบบจูนะทุกคน ค่าร่มนี้เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ว่าคุณภาพสินค้าก็จะดีมากเหมาะสมกับราคานะคะ รวดลายน่ารักๆเยอะเลยก็มี จูต้องขอแนะนำสำหรับคนงบน้อยนะคะ พกไปเองดีกว่าค่ะ แต่ถ้าใครที่ตั้งใจจะมาซื้อร่มคุณภาพดีๆ ลายสวยๆ ทนแดดทนฝน ต้องมาเลือกที่ไต้หวันเลยค่ะ ถูกใจแน่นอน
Cr: Juu
พูดถึงไม่ได้คือเรื่องของอาหารการกินค่ะทุกคน อาหารที่ไต้หวันราคาค่อนข้างแรงเอาเรื่อง (เทียบกับสกุลเงินไทยบาท) แต่ปริมาณที่ได้นี้นึกว่าแม่ค้าประชดค่ะ ให้เยอะจริงเยอะจัง เยอะจนกินไม่เคยจะหมด เพราะฉะนั้นเห็นราคาอาหารแรงๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ สมปริมาณแน่นอนค่ะ
อ้ะ ไหนๆก็พูดถึงเรื่องอาหาร ต้องบอกก่อนว่ารสชาติอาหารที่ไต้หวันจะค่อนข้างติดจืดนะคะ หรืออาจจะเพราะเราคนไทยติดรสชาติเจ้มจ้นก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นใครไม่สันทัดกับรสชาติแบบไต้หวันๆก็ต้องทำใจนิดนึงนะคะ ท่องเข้าไว้ค่ะ ร้านไหนถาม ‘นี่ เยาว หล่า มา?’ ตอบให้ไวค่ะ ‘ฮ่าว หวอ เยาว หล่า’ ท่องแพทเทิร์นนี้ไว้ค่ะทุกคน สำหรับคนชอบเผ็ดแบบอิชั้นนน เตือนหนึ่งง
Cr: Juu
เรามาพูดถึงองค์ประกอบของอาหารกันดีกว่าค่ะ ที่ไต้หวันเวลาทานข้าวทุกร้านจะให้เป็นตะเกียบ 1 คู่ พร้อมกับช้อนชาที่ใหญ่กว่าหน้าอิชั้น ไม่ได้ประชดค่ะเพราะช้อนที่นี้ใหญ่จริงใหญ่จังมาก ไม่ทราบว่ากลัวคุณลูกค้าจะซดน้ำซุปไม่สะดวกหรืออย่างไร แต่ก็นั้นแหละคะทุกคน นี่คือความใต้หวัน
ขอเม้าหน่อยนะคะ ด้วยการที่เราติดชินเป็นคนชาวไทยแลนด์ เวลาสั่งอาหารแล้วเรามักจะติดเดินไปหยิบช้อนและตะเกียบเอง หรือว่าบริการตนเองใช่ไหมคะ? แต่โน โน อย่าทำที่นี้ค่ะ เพราะอินี่เคยทะเลาะกับมนุษย์ป้าที่หวงช้อนหวงตะเกียบยิ่งกว่าลูกในใส้ของตัวเอง จริงๆนะคะทุกคน จูไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำลูกค้าอย่างอิชั้นถึงจะหยิบตะเกียบเองไม่ได้ เพราะไม่ว่าเราจะเดินไปหยิบมากี่รอบ คุณป้าแกก็จะเดินมาบ่นพรึมพร่ำแล้วเอาไปเก็บไว้ที่เดิมค่ะ อันนี้ข้องใจมากป้า ได้กลับไปจะไปรัวไทยถามนะคะ หงุดหงิดใจหนึ่งงง
Cr: Juu
อ้ะ ยังไม่จบเรื่ององค์ประกอบการกินกันค่ะทุกคน ซึ่งอันนี้ต้องขอเตือนๆหน่อยเลยว่า ‘ทุกร้านอาหารที่ไต้หวัน จะมีเสริฟแค่น้ำชาเท่านั้นนะคะ’ จดค่ะทุกคนน แล้วชาที่ว่านี่คือบางร้านหวานหนักมาก
แนะนำให้พกน้ำเปล่าไว้ล้างคอด้วยนะคะ เพราะชาวไทยๆอย่างเราแล้วเนี่ย ปกติทานข้าวเสร็จก็จะดื่มน้ำเปล่าต่อ แต่ที่ไต้หวันคือต้องมีน้ำตาตกบ้างละคะ อ้ะๆ ราคาน้ำเปล่าที่ร้านสะดวกซื้อจะยิ่งทำให้คุณทั้งหลายร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกค่ะ แต่จูมีทริคเล็กๆน้อยๆมาแนะนำนะคะ
การใช้ชีวิตอยู่ที่ไต้หวันควรพกแก้วน้ำส่วนตัวไว้ติดตัวตลอดเวลาค่ะ เพราะที่ไต้หวันจะมีเครื่องบริการน้ำดื่มไว้เกือบทั่วทุกมุม ยิ่งในมหาวิทยาลัยหรือบริเวณสาธารณะยิ่งมีเยอะคะ อย่าหาทำไปซื้อน้ำตามร้านสะดวกซื้อเองนะคะ เตือนหนึ่งงง
Cr: Juu
รถเมล์บริการประชาชนที่นี้ยิ่งกว่าฟ้าด 8 ค่ะ ทุกคนนนน จูอยากจะกีดร้องให้กับสิ่งๆนี้ดังๆ คือการขึ้นรถเมล์ประจำทางสิ่งเดียวที่ต้องทำคือการจิกเล็บเท้าเข้าไว้นะคะ อิชั่นจิกจนเป็นเล็บขบมาแล้วนะเอ่ออ
เพราะรวดลายลีลาการขับรถเมล์ของไต้หวันจะมีอยู่สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือความโนสนโนแคร์ประชากรในรถค่ะ
แต่ๆๆๆ ต้องเข้าใจนะคะที่พนง.ขับรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบนี้ก็เพราะว่าทางคนขับต้องรักษาเวลาจอดท่ารถให้ตรงเป๊ะๆทุกท่าค่ะ เรื่องตรงเวลาจูขอชื่นชมแรงๆไปเลย แต่บางทีการที่เราต้องมาคอยจิกเท้าในสภาพรถที่คนแน่นแบบ แน้นนนนนน สิ่งนี้อิชั้นรับไม่ได้ค่ะ
เพราะฉะนั้นขึ้นรถเมล์ทุกคนสายตาต้องไว เจอที่ว่างต้องรีบพุ่ง และพูดภาษามินเนียนให้เนียนที่สุดนะคะทุกคน เก็ทนะ?
Cr: Juu
ขออนุญาตไม่เซนเซอร์ภาพใดๆนะคะ 5555 คือที่เอามาให้ดูเนี่ยมันคือเจ้า 2 ข้อความข้างล่างค่ะ ซึ่งมันหมายถึงว่าใน 1 ปีเนี่ย ทางรัฐบาลไต้หวันเขาจะเตรียมซ้อมรบทางอากาศ ซึ่งประชาชนชาวไทยอย่าไปเดินตาสีตาสาชี้นกชี้ไม้ชี้ท้องฟ้ากลางแจ้งในเวลานั้นกันนะคะทุกคน ไม่โดนยิงใส้แตกก็โดนปรับเป็นล้านค่ะ 555 เพราะฉะนั้น เมื่อทางไต้หวันจะจัดการซ้อมรบ เขาจะส่งข้อความเตือนเพื่อให้ประชาชนที่น่ารักเข้าบ้านอยู่เงียบๆนะคะ จุ๊ๆอย่าเสียงดังถ้าไม่อยาเสียตังค์ค่ะทุกคน เชื่อจู
ถ้าถามถึงประสบการณ์การซ้อมรบสุดเคร่งของทางไต้หวันจากจูแล้ว เรียกได้ว่าอิชั้นไม่กล้าแม้แต่ชะโงกหน้าสวยๆไปตรงระเบียงเลยค่ะ กลัวโดนปรับแรงมากแม่ เลยอดดูการซ้อมรบฟังแค่เสียงและสุดท้ายก็เผลอหลับไป สรุป จูกลับไทยครบ 32 นะคะ และเศษเงินอีกนิดหน่อยที่ไม่ได้เหลือเพราะโดนปรับ แต่โดนเพราะของกินมันล่อตาค่ะ เศร้ามาก
Cr:Juu
เรื่องจริงของที่นี่ก็คือ น้ำแข็งคืออัลไลคนไต้หวันไม่รู้จักกก จริงค่ะทุกคน จูขอให้จำคำๆนี้ไว้เลยนะคะ ‘หวอ เยาว ตัว ปิง’ (ขอเพิ่มน้ำแข็งค่ะ) คือถ้าตามร้านดีๆหน่อยเขาก็จะมีให้เลือกระดับความหวาน ระดับน้ำแข็ง อะไรแบบนี้เราก็จะสบายหน่อย แต่ถ้าได้ไปที่ท้องถิ่นๆหน่อย เราจะทำได้แค่การชี้นิ้วสั่งน้ำค่ะ ป้ายแนะนำเครื่องดื่มคือไม่มีอยู่จริงในแถบนี้นะคะ
ขอแอบเตือนนิดนึง เทสสำหรับจูแล้ว จูยังรู้สึกว่าน้ำต่างๆที่ไต้หวันนั้นหวานมากๆ ไม่ว่าเราจะสั่งระดับน้ำตาล 50% ก็ยังคงหวาน ข้อนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่ทานหวานน้อยแบบจูนะคะ ท่องค่ะ ‘หวอ เยาว เถา ชาง ตัว ปิง’ จำเป็นแพทเทิร์นไปค่ะ รอดด!!
Cr: Juu
ยังคงอยากจะเน้นย้ำเรื่องเจ้าบัตร Easy Card จริงๆค่ะ จูเคยโพสต์อธิบายรายละเอียดไว้ในบทความ ท่องโลกกว้าง @Taiwan with Juu’s Journey ไปแล้ว (อยากรู้เพิ่มเติมสามารถตามไปอ่านได้ในบล็อคเลยค่ะ) เพราะบัตร Easy Card คือ Easy สมคำล่ำลือมากแม่
อยากใช้บริการรถเมล์ ไม่ได้พกบัตรมาอดขึ้นนะยู
อยากใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินไม่ได้พกบัตรมา ก็อดอีกนะจ้ะยู
อยากปั่นจักรยานชิลๆ ไม่ได้พกบัตรมา ก็อด อด อด ไปอีกนะคะ
สรุปได้เดินกลับไม่รู้ด้วยนะ เตือนหนึ่งงงง
Cr: Juu
เรื่องนี้ก็สำคัญมากค่ะแม่ค่าา เรื่องของเลนรถซึ่งแน่นอนว่าแตกต่างจากเมืองไทยยิ่งนัก การเดินทางโดยใช้ท้องถนนเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะคะ หรือแม้กระทั่งการจะข้ามถนน เราเองต้องดูรถให้ดีก่อนถึงจะข้ามได้ ปกติแล้วแทบจะทุกแยกในไต้หวันจะมีสัญญาณไฟจารจรอยู่ทุกมุมมืด ใช่ค่ะ แม้แต่ทางข้ามจาก 7/11 ไปซื้อชานมไข่มุกอีกฝั่งซึ่งห่างกันเพียงแค่ 5 ก้าว ทางไต้หวันเขาก็จะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ ต้องมีสัญญาณให้คนข้ามนะคะ ว่าเขาไม่ได้เด้อ
ใดๆก็คือการจะข้ามถนนควรใช้สัญญาณไฟจารจรเพื่อความปลอดภัยดีที่สุดนะคะ เพราะชาวไต้หวันขับรถที่นี่ก็คือไม่เกรงกลัวมนุษย์ใดๆทั้งสิ้นนะคะ เราเซฟตัวเองดีที่สุดค่ะ เชื่อจู
เอาละคะทุกท่าน วันนี้จูก็ได้มาแชร์เรื่องราวเล็กๆน้อยๆไว้เตือนรวมถึงแนะนำเกี่ยวกับเรื่องไต้หวั้น ไต้หวัน มาให้ทุกท่านได้อ่านเล่นๆเพลินๆกันนะคะ ยังไงก็ขอขอบพระคุณที่ติดตามและให้กำลังใจจูคนนี้มาตลอด ทุกท่านสามารถคอมเม้นแนะนำได้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ และถ้าจูมีเวลาว่างๆอีก จูจะแวะมาเขียนบทความ ไต้หวั้น ไต้หวัน แบบนี้อีกนะคะ ขอบพระคุณค่าา
จู เจอร์นี่
โฆษณา