23 ม.ค. 2021 เวลา 06:51 • ประวัติศาสตร์
ไหนๆก็ทำงานเกี่ยวกับตัดผมแล้ว ทุกคนเคยสังเกตกันมั้ยว่าไฟหมุนๆที่อยู่หน้าร้านตัดผมมันมีที่มาที่ไปยังไง วันนี้เลยไปหาประวัติของไฟหมุน หรือที่วงการช่างทำผมเรียกกันว่า บาร์เบอร์โพล มาให้อ่านกันครับ💈
ยุคกลาง(ช่วงเวลาระหว่างศตวรรษที่ 5-15) ชาวยุโรปได้รวมอาชีพช่างตัดผมกับศัลยแพทย์อยู่ด้วยกัน งานของศัลยแพทย์ช่างตัดผม ได้แก่ 1. การเลือกเหาจากศีรษะ 2.การเล็มหรือโกนหนวดเครา และการตัดผม 3. ถอนฟันการผ่าตัดเล็กน้อย และ 4. การเจาะเลือด เนื่องจากงานส่วนใหญ่เป็นงานต้องใช้ใบมีด
🏥ที่มาของสัญลักษณ์ สีแดง และขาว มากจาก ศัลยแพทย์ต้องทำงานผ่าตัดโดยพาดแถบผ้าพันแผลไว้ที่แขน 2 เส้น เส้นแรกไว้พันแขนผู้ป่วยระหว่างถ่ายเลือด (ตัวแทนของสีแดง) อีกเส้นไว้พันหลังงานเสร็จเรียบร้อย(ตัวแทนของสีขาว) เพื่อเป็นการสื่อสารกับผู้คนว่าเป็น Barber-Surgeons “ร้านคุณหมอ (ที่รับตัดผม-โกนเคราด้วย)”
💥จนกระทั่งในปีคศ. 1745 ในที่สุดก็ได้มีการแยกอาชีพออกจากกันอย่างสิ้นเชิง โดยช่างตัดผมเองก็ได้นำมาปรับเปลี่ยนต่อยอด เพื่อสร้างเป็นสัญลักษณ์ที่จะสื่อสารกับผู้คนให้เข้าใจว่ า 💇🏻‍♂️นี่คือ “ร้านตัดผม” โดยการทำเป็นเสาทาสีเป็นเกลียวเลียนแบบ เป็นสีขาว-แดง ดูเหมือนริบบิ้น เมื่อข่าวสารข้อมูลสัญลักษณ์ได้แพร่หลายจากยุโรปไปยังอเมริกา ช่างตัดผมชาวอเมริกาได้มีการประยุกต์เพิ่มสีธงชาติของประเทศ จึงเพิ่มสี น้ำเงิน (ตามสีธงชาติ) เข้าไป เป็นสีขาว สีแดง และสีน้ำเงิน จนถึงปัจจุบัน
 
💈 ณ ปัจจุบันBarber pole ได้มีพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ด้วยดีไซน์ความทันสมัย เติมระบบไฟฟ้าเข้าไป (ไฟหมุน) สามารถที่จะเปิดปิดได้ เมื่อไฟหมุน หมายถึง “ร้านเปิดให้บริการ” อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนดีไซน์ บางก็ ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทรงกระบอก รวมถึง เป็นCustom ตามรูปแบบโคมไฟ (เติมกระดาษสีขาว แดง และน้ำเงินเข้าไป) สิ่งเล็กที่มีความหมาย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เราชาวช่างตัดผมส่วนใหญ่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ Barber pole ทุกร้านยังคงต้องมี
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมานะครับหวังว่าจะเป็นความรู้ให้ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ 🙏🏻💛💙
Ref : A History of the Barber’s Pole
โฆษณา