Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Inspire Story
•
ติดตาม
24 ม.ค. 2021 เวลา 11:00 • นิยาย เรื่องสั้น
เมื่อผมต้องทำงานคนเดียวตอนกลางคืน บนเรือเก่า ..ep.1
.
เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วที่ผมตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่อู่เรือ ซึ่งผมทำงานที่นี่มาครบ 10 ปีพอดี ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นความฝันในเส้นทางของตัวเองด้วยการออกมาทำธุรกิจเล็กๆ
.
หลังลาออกผมกะว่าจะพักสักสองเดือนเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง ซึ่งมันทำให้ผมมีเวลาว่างมากขึ้น และในช่วงบ่ายแก่ๆวันหนึ่งราว 4 โมงเย็น ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเล่นหยอกล้อกับเจ้าแม็ค สุนัขตัวโปรดของผมอยู่นั้น
.
ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา ผมเหลือบตาไปมองมันเป็นเบอร์แปลก แต่ผมก็กดรับสาย
2
.
ผม : สวัสดีครับ
เสียงปลายสาย : (เสียงชายแก่) สวัสดีใช่วิลเลี่ยม อซาโร่ หรือเปล่า
ผม : ใช่ครับ ผมวิลเลี่ยม อซาโร่ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ
เสียงปลายสาย : (เสียงชายแก่) สวัสดีผมมาร์ติน ผมรู้มาว่าคุณทำงานสำรวจ และวางแผนชำแหละแยกชิ้นส่วนเรือใช่ไหม
ผม : ใช่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ
เสียงปลายสาย : (เสียงชายแก่) ผมมีงานให้คุณทำ สำรวจ แล้ววางแผนชำแหละเรือเก่า คุณสนใจไหม ผมจะให้คุณคืนละ 3,500 us แต่คุณต้องทำตามกฏของเรา ถ้าคุณสนใจให้คุณมาหาผมที่อู่เรือ เวลา 16.00 น. ในวันเมื่อรืนที่จะถึงนี้
.....อ่อ ถ้าสนใจโทรมาถามรายละเอียดที่อยู่อู้เรือกับผมได้ตลอดเวลานะ เราจะคุยรายละเอียดงานกันที่นั่นทีเดียว
ผม : ขอบคุณครับ ถ้าผมสนใจผมจะติดต่อคุณกลับไปนะครับ (เงินดีแบบนี้ไม่สนใจก็บ้าแล้ว ...ผมคิดในใจ)
.
เมื่อวางสายจากคุณมาร์ติน ผมไม่ลังเลที่จะทำงานนี้ ก็แหงแหละคืนเดียวตั้ง 3,500 us สองคืนก็ 7,000 us ถ้าสามคืนก็ 10,500 us เน้นๆ แถมทำแค่สำรวจ และวางแผนชำแหละเฉยๆ ไม่ต้องออกแรงชำแหละเอง...ไม่เอาก็บ้าแล้ว
.
เงินที่ลุงมาร์ตินเสนอมา มันเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าที่ผมเคยได้รับมาเลยทีเดียว หรือ ต่อให้ผมทำงานเป็นลูกจ้างอู่เรือเดิมที่ผมเคยทำ ทั้งเดือนผมก็ไม่เคยได้เท่านี้
.
วันพรุ่งนี้ผมจะโทรไปคอนเฟิร์มคุณมาร์ติน และถามที่อยู่อู่เรือ
.
ด้วยความยั่วยวนของจำนวนเงินที่คุณมาร์ตินเสนอมาให้ผม มันทำให้ผมมองข้ามกฏที่คุณมาร์ตินเกริ่มมาก่อนหน้านี้ไปสนิท.....แต่ชั่งเถอะ ก็เงินมันดีนี่นา กฏที่คุณมาร์ตินกำหนดมาอาจไม่หนักหนาสำหรับผมก็ได้
.
วันต่อมาผมโทรหาคุณมาร์ติน ผมตอบรับงานนี้ และได้ที่อยู่ของอู่เรือมาเรียบแล้ว คุณมาร์ตินจะอธิบายรายละเอียดงานผมในวันนัดพบที่จะมาถึงเร็วๆนี้
.
เมื่อถึงวันนัดหมาย ผมเตรียมตัว และของที่จำเป็นติดตัวมาด้วย เพราะคิดว่าเป็นงานที่จะต้องเร่งแน่ๆดังนั้นผมอาจจะไม่ได้กลับบ้านสัก 2-3 วัน
.
ผมเดินทางมาถึงอู่เรือราวๆ 15.50 น. มันเลยทำให้ผมมีเวลาเล็กน้อยที่จะสำรวจบริเวณรอบๆอู่เรือ อู่เรือค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากเมือง ระยะทางจากอู่เรือถ้าจะไปถนนหลักราวๆเกือบ 7 ไมล์เห็นจะได้
.
รอบๆอู่เรือมีต้นไม้ขึ้นรกเต็มไปหมด ชายฝั่งแถบนี้ต้นปาล์มเยอะมาก แถมบรรยากาศค่อนข้างเงียบเชียบใช้ได้เลย ฝั่งตรงข้ามอู่เรือก็จะมีโกดังเก่าๆอยู่ 2-3 แห่ง และอู่เรืออื่นๆอีก 2 แห่ง อีกแห่งปิดกิจการไปแล้ว ส่วนอีกแห่งก็ดูรกๆไม่ต่างจากอู่เรือที่ผมมาพบลุงมาร์ติน
.
ภายในอู่เรือ ที่ผมมาพบลุงมาร์ตินดูจากสภาพน่าจะเปิดมาไม่ต่ำกว่า 40-50 ปี จนเลยจุดรุ่งเรืองของกิจการไปแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างเก่าทรุดโทรม แต่ก็ยังมีการใช้งานอยู่บ้างแต่คงไม่บ่อยนัก
.
“สวัสดี นั่นใช่อซาโร่ไหม”
.
เสียงเรียกผมจากด้านหลัง ผมหันกลับไปหาเสียงเรียกนั้นทันที และพบกับชายแก่ที่มีท่าทีงกๆเงิ่นๆกำลังเดินใกล้เข้ามา
.
ผม : ใช่ครับ ผมวิลเลี่ยม อซาโร่ นี่คือคุณมาร์ตินใช่ไหมครับ (ดูจากภายนอกแล้วลุงมาร์ตินน่าจะอายุราวๆ 60-70 ปี...ผมคิดในใจ)
.
คุณมาร์ติน : ใช่แล้วไอ่หนุ่ม เอาล่ะ ตามผมมาทางนี้
.
ผมเดินตามคุณมาร์ตินเข้าไป ระหว่างทางที่เดินตามคุณผมก็เหลือบตาแอบมองสำรวจบริเวณอู่เรือ ผมเดิมผ่านโกดังเก็บเรือที่ตั้งขนาบข้างทางเดินทั้งสองด้านที่มีหญ้าขึ้นรกพอประมาณ
1
.
โรงเก็บเรือ A จะอยู่ขวามือ ส่วนโรงเก็บเรือ B จะอยู่ซ้ายมือ ภายในโรงเก็บเรือทั้งสองค่อนข้างมืด แต่ก็พอมีแสงสว่างลอดเข้าไปเล็กน้อย จนสังเกตเห็นว่ามีเรือเก่าอยู่เพียง 2-3 ลำ และซากชิ้นส่วนเรือเก่าจำนวนมากวางกองกันอยู่
.
เมื่อเดินมาถึงปลายโกดังเก็บเรือ B ก็เลี้ยวซ้ายไปอีกราวๆ 50 เมตร (ตรงไปจะเป็นริมอ่าว) ซึ่งจะเดินไปเจอรับร่องน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดลึกเข้าในบริเวณอู่เรือ และในร่องน้ำนั้นก็มีเรือเก่าลำหนึ่งจอดนิ่งอยู่
.
ทันทีที่ผมมองเห็นเรือ ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณมาร์ตินพาผมเดินมาถึงแคมป์ (เป็นตู้คอนเทนเนอร์) ที่ตั้งอยู่ริมร่องน้ำด้านล่างเรือเก่า
.
ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากแคมป์
.
คุณมาร์ติน : อ้าวจะกลับแล้วหรอเฮนริเก้
เฮนริเก้ : ใช่ พอดีเอ่อวันนี้ผมมีธุระในเมืองนิดหน่อยครับ ผมเลยต้องรีบออกก่อนเวลา
คุณมาร์ติน : อ้อ งั้นฉั้นไม่รบกวนแกละนะเฮนริเก้ เชิญตามสบายเลยนะ
.
จากนั้นคุณมาร์ตินหันมาที่ผม พร้อมกับบอกว่านี่คือ จอร์ช เฮนริเก้ นอกจากลุงที่ทำงานอยู่ที่นี่มาตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว เฮนริเก้เขาเป็นพนักงานที่เหลืออยู่คนสุดท้าย เขาทำงานที่อู่เรือมา 16 ปีแล้ว แต่เขาทำงานแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น ตั้งแต่ 8.00 -17.00 น. แต่วันนี้เขามีธุระก็เลยรีบขอตัวออกไปก่อนน่ะ
.
เอาล่ะ อาซาโร่ ฉั้นหวังว่านายจะเตรียมตัวมาดีละนะ นายเอาของเข้าไปเก็บในแคมป์ให้เรียบร้อยซะ แล้วเราจะมาบรีฟงานกัน แล้วจะพาเดินสำรวจเรือเล็กน้อย
.
เฮ้ยนี่ลุงรีบหรอ ผมยังไม่ทันได้นั่งพักเลย มาเหนื่อยๆแท้ๆ แหงแหละจ้างแพงขนานนั้นคงใช้ให้คุ้มละสิ ...ผมได้แต่คิดในใจ
.
เมื่อเอาของเข้าไปไว้ในแคมป์เรียบร้อย ผมเดินมาหาลุงมาร์ตัน ลุงเองก็ไม่รอช้ารีบอธิบายเปิดประเด็นขึ้นมาทันที
.
เรือเก่าลำนี้เป็นเรือที่คุณท่านซื้อมาเป็นทอดที่ 4 เมื่อ 6 ปีที่แล้ว คุณท่านคือเจ้าของอู่เรือแห่งนี้ ท่านสร้าง และดูแลกิจการที่นี่เพียงคนเดียวเนื่องจากภรรยาท่านก็เสียชีวิตตั้งแต่ 25 ปีที่แล้ว ในวันที่คุณท่านเสีย ท่านออกจากอู่เรือเป็นคนสุดท้ายตอนพลบค่ำ เพราะมัวแต่ขลุกอยู่กับเรือเก่าลำนี้
.
ท่านชอบเรือเก่าลำนี้มากๆ และตอนกลับคุณท่านก็ประสบอุบัติเหตุไม่ไกลจากอู่เรือนัก ปกติคุณท่านไม่ใช่คนที่ขับรถเร็ว ถนนที่เข้ามายังอู่เรือรถก็ไม่เยอะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับคุณท่าน เพราะที่นี่พออาทิตย์ตกดินมันก็มืด และค่อนข้างเปลี่ยวมากแล้ว จึงไม่มีใครเห็นตอนที่เกิดเหตุ
.
ในยุครุ่งเรืองที่นี่เต็มไปด้วยเรือไม่น้อยกว่า 30-40 ลำ จอดแน่นเอี๊ยดเต็มอู่ มีพนักงานเกือบๆ 50 คน แล้วก็เข้าสู่ยุคถดถอย จนคุณท่านมาเสียชีวิต ที่นี่ก็เหมือนจะถูกปิดเกือบถาวรก็ไม่เชิง โดยเหลือไว้เพียงพื้นที่สำหรับทำงาน เพื่อจัดการกับเรือเก่าที่คุณท่านซื้อมาให้แล้วเสร็จ ที่นี่ก็จะปิดยาวตลอดกาล
.
คุณท่านเป็นคนที่ชอบสะสมของเก่า หรือ ของสะสมโบราณ เลยตั้งใจซื้อเรือลำนี้มาแยกชิ้นแล้วเอาของภายในเรือที่ยังมีสภาพดีอยู่ออกมาเก็บสะสมไว้ ส่วนตัวเรือจะแยกชิ้นขายเป็นเศษเหล็ก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร คุณท่านด่วนจากไปเสียก่อน
.
นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงต้องสำรวจเรือก่อน แทนที่จะชำแหละมันไปตั้งแต่แรก การสำรวจเรือลำนี้ ผู้สำรวจจะต้องลิสต์บันทึกรายการสิ่งของสภาพดีที่จะถอด หรือย้ายออกมา เพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องสะสมของเก่าที่คฤหาสน์คุณท่าน
.
เมื่อย้ายของเก่าที่อยู่ในสภาพดีออกจากเรือหมดแล้ว จากนั้นเราจะชำแหละเรือขายเป็นเศษเหล็ก เราจะได้จบภารกิจนี้เสียที
.
หลังคุณท่านเสียลูกสาวทั้ง 2 คน ไม่ได้สานต่อกิจการอู่เรือ ซึ่งได้หันไปทำธุรกิจอื่นๆกับครอบครัวสามีแทน โดยมอบหมายให้ฉั้นจัดการกับภารกิจนี้ให้แล้วเสร็จ
.
ลูกทั้ง 2 ของคุณท่านกะว่าเมื่อจัดการกับเรือลำนี้เสร็จก็จะปิดอู่เรือ แล้วขายทอดตลาด ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่สภาพอู่เรือจะอยู่ในสภาพค่อนข้างทรุดโทรม จนแล้วจนรอดเราก็ยังไม่สามารถจัดการกับเรือลำนี้ได้สักที
.
ตลอด 5 ปี ก่อนหน้านี้เราได้ว่าจ้างทีมสำรวจ และวางแผนชำแหละเรือมารับงานอยู่หลายราย แต่ก็ไม่มีใครทำงานลุล่วงได้สักคน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งนั้นมันเป็นสาเหตุที่นายจะต้องทำตามกฏของเรานะพ่อหนุ่ม
.
กฏอะไรหรอลุง ผมหันกลับไปถามลุง พร้อมหน้าตาครุ่นคิด คิ้วขมวด
.
จากนั้นลุงมาร์ตินก็หัวเราะออกมา พร้อมกับพลางหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นใส่ให้ในมือผมอย่างหนักแน่น พร้อมกับย้ำว่าถ้าอยากทำงานอย่างปลอดภัย และอยู่จนถึงรับเงินให้จำกฏ 8 ข้อนี้ไว้ดีๆ นะอซาโร่
.
ฉั้นจะบอกนายครั้งเดียวจำไว้ให้ดี แต่ถ้านายลืมก็ไปอ่านในกระดาษที่ฉั้นให้อีกครั้งก็ได้ แต่ฉั้นแนะนำว่านายควรจำมันไว้ให้ดีๆ เผื่อเวลามีอะไรขึ้นมานายคงเปิดกระดาษอ่านไม่ทันแน่นอน
.
กฏข้อที่ 1 นายจะต้องทำงานคนเดียว โดยเริ่มงานเวลา 19.15 น. และเลิกงาน 05.15 น. และต้องทำงานให้เสร็จในเวลา 3 คืน ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะไม่เคยมีใครทำได้ถึง 3 คืนเลย เพราะหนีงานกันไปเสียก่อน
...กฏข้อนี้ไม่ยาก ฉั้นเชื่อว่านายคงไม่ลืมนะอซาโร่ อ้อฉั้นแนะนำอีกอย่าง ให้นายพกไฟฉายเวลาเข้าไปทำงานในเรือด้วยนะ แม้ในเรือจะมีแสงสว่างจากเครื่องปั่นไฟที่ฉั้นติดตั้งให้อยู่แล้วก็ตาม
.
กฏข้อที่ 2 ถ้าเครื่องปั่นไฟขัดข้อง แล้วทำให้ไฟฟ้าบนเรือดับๆติดๆหลังเวลาเที่ยงคืน ให้รีบไปหลบที่ห้องเก็บของที่อยู่ชั้น 1 แล้วให้อยู่อย่างเงียบๆที่สุด
นายจะได้ยินเสียงคนวิ่งไปมาบนเรืออย่างโกลาหล หรือถ้ามีเสียงเคาะพยายามจะเปิดประตูอย่าได้เผลอไปเปิดเด็ดขาด ให้นั่งก้มหัวหลบที่มุมห้องเงียบๆไว้ และห้ามเปิดไฟฉายด้วย ไม่เกิน 10 นาที ทุกอย่างจะกลับมาปกติเอง
.
กฏข้อที่ 3 เมื่อถึงเวลา 01.00 น. นายต้องไปที่ห้องประชุมลูกเรือตามเวลาที่บอก ถ้าเจอแผนที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับหมวกเก่าใบหนึ่ง ให้นายหยิบหมวกไปแขวนไว้ที่ข้างผนัง แล้วม้วนแผนที่ไปเก็บไว้ที่กล่องตรงมุมห้องประชุม
และที่สำคัญนายจะต้องหมุนเข็มทิศที่วางอยู่ข้างๆแผนที่ให้อยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้านายทำไม่ทัน มันอาจจะทำให้นายสับสน ท้องใส้ปั่นป่วนได้ทีเดียว
.
กฏข้อที่ 4 ระหว่างที่นายสำรวจห้องโถงกลางของเรือถ้าเจอคุณแมรี่เดินลงมาจากบันไดกลางโดยบังเอิญ นายต้องพยายามสยบนิ่งเข้าไว้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปล่อยให้เธอเดินผ่านไป แล้วเธอจะเดินหายลับตาไปเอง เธอเป็นท่านผู้หญิงที่ใจดีที่สุดแล้วบนเรือนี้ คุณแมรี่จะไม่ทำอะไรนายถ้านายไม่แสดงท่าทีต่อต้านเธอ
.
กฏข้อที่ 5 ระหว่างที่นายสำรวจบริเวณห้องวิทยุสื่อสาร แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนโหวกเหวกคุยกันเสียงดังด้วยสำเนียงสแปนิช ให้รีบออกจากบริเวณนั้นโดยด่วน
และจะต้องเลี่ยงเส้นทางที่ผ่านบริเวณห้องกัปตัน และสะพานเดินเรือ หลังห้องวิทยุสื่อสารจะมีช่องเล็กๆที่เปิดขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ ให้นายหนีออกไปตามเส้นทางนี้
.
กฏข้อที่ 6 ในการสำรวจชั้นล่างสุด ซึ่งเป็นชั้นห้องเครื่อง มันอาจจะมืดหน่อยนะ ถ้านายสาดไฟฉายไปเห็นตัวประหลาดสีดำในนี้ ให้นายอยู่นิ่งๆแล้วหลับตาหมอบลงทันที
ถ้ามันเข้ามาดมๆ หรือสัมผัสตัวนาย น้ำลายของมันอาจจะเลอะตัวนายบ้างนิดหน่อย นายอาจจะขยะแขยงมัน แต่อย่าโวยวาย และลืมตาเด็ดขาด เมื่อมันสำรวจนายจนพอใจมันจะจากไปเอง
1
.
กฏข้อที่ 7 ในระหว่างที่นายสำรวจภายในห้องหมายเลข 4 บนชั้นเฟิร์สคลาส (ชั้น 4 ของเรือ) ห้องนี้ค่อนข้างหรู และค่อนข้างใหญ่ ในนี้มีของเก่าที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงภาพวาดดอกไม้ Abstract ที่แขวนอยู่ตรงผนังหลังโซฟารับแขก
ซึ่งทันทีที่นายเข้าไปในห้องนี้ ต้องรีบถอดภาพวาดนี้ลงแล้วเอายัดใส่เข้าไปในหีบเหล็กที่วางอยู่ใกล้ๆประตูแล้วล็อคให้แน่นหนาทันที ถ้านายไม่ทำนายอาจหมดสติได้ ฉั้นเตือนนายแล้ว
.
กฏข้อที่ 8 นายมีเบอร์โทรมือถือฉั้นอยู่แล้วนี่อซาโร่ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจให้โทรหาฉั้นได้ แต่เฉพาะเวลา 18.00-20.00 น. เท่านั้นนะ แต่ถ้านอกเวลาดังกล่าวแล้วเห็นเบอร์โทรฉั้นโทรมาหานายอย่ารับสายเด็ดขาด
.
โอ้วววว นี่จะค่ำแล้วหรอนี่ (ท่าทีลุงดูเร่งรีบ) วันนี้ฉั้นมีธุระที่ต้องรีบไปทำด้วยสิ ฉั้นต้องขอตัวกลับแล้วนะอซาโร่ ฉั้นช่วยนายได้แค่นี้จริงๆ ถ้านายทำตามกฏนายจะปลอดภัย ขอให้นายโชคดี หวังว่านายจะทำงานได้ลุล่วงนะ
.
หลังจากลุงมาร์ตินพูดพบ ลุงก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ควบตะบึงรถออกไปเลย
.
ทิ้งให้ผมอึ้งเป็นไก่ตาแตก กับคำถามที่มีอยู่ในหัวสาระพัดที่จะถามลุง แต่ลุงชิงตัดหน้าผมกลับไปก่อนเสียแล้ว ในใจผมเริ่มมีความคิดที่ปั่นป่วน ผสมกับความหงุดหงิดนิดๆ
.
ผมต้องทำงานคนเดียว ไม่มีผู้ช่วย หรือเพื่อนร่วมงานสักคน
อีตาลุงนี่แกล้งทำกฏบ้าๆนี่ขึ้นมาเพื่อให้ผมกลัว ผมจะได้ไม่เบี้ยวงาน
แต่อีกในแง่หนึ่งผมก็คิดว่าลุงอำผมเล่นแน่ๆ
อ่านต่อตอนต่อไป ใน ep.2
5 บันทึก
5
3
2
5
5
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย