24 ม.ค. 2021 เวลา 12:42 • ความคิดเห็น
จิตดวงนี้มิไกลจากบุญและทาน
หมั่นฝึกหมั่นปฏิบัติ ให้คงที่
จิตดวงนี้มิไกลจาก บุญและทาน
ปัดเป่ากรรม. ที่นำมา
จิตอยู่ที่เศษของกรรม เพียงผิวหนัง
จิตที่ตก อยู่กับกรรม
ติดอยู่ ในเนื้อในกระดูก ยากนักหนา
จะหลุดพ้นได้ ก็ต่อเมื่อ
รู้จักบุญ รู้จักทาน เป็นประจักษ์
จงกลัวให้ถึงที่สุด เมื่อจิตอาศัย ใันตัวกรรม
ตัวตนที่เกิดมา หามีสุขไม่
มีจิตดวงเดียว ที่เดินทาง
หลุดพ้น พ้นจากทุกข์
อยู่ที่ อาศัยกาย
ใช้กายไม่เป็น เป็นดำตะโก
หลีกหนี้ หนีจากความทุกข์ นั้นยากนัก
ต้องดำเนิน เดินไป ด้วยจิต อสงไขย
แม้แต่เกิด หมุนเวียน เปลี่ยน การเกิด ก็แย่แล้ว
จึงหมั่น ฝึกหัดปฏิบัติ ให้ทาน ให้บุญ เป็นที่ตั้ง
อย่าหวงแหน เรื่อง เรื่องราว ต่างๆ ที่เป็นมายา มิใช่ ของของเรา..เรา..เป็นผู้อาศัย
ทุกสิ่งทุกอย่าง หามาได้ ด้วยแรงกาย แต่สิ่งนั้นไซร้ ไม่ใช่ของเรา
นึกคิดได้ ประจักษ์ ให้แก่จิต
จิตจะ รู้จัก การลดละ เป็นนิสัย
เริ่มดำเนินการ เรื่องราว ของทานและบุญ มากมายก่ายกอง กลายเป็นอารมณ์ ที่เป็นธรรม
ทานนั้นอยู่ ที่สำคัญ อยู่ที่ อารมณ์
ทำได้ ผู้นั้นจะ ประจักษ์ ในจิต
ความยึดมั่น เชื่อมั่นจะหมดไป
จิตจะ ล่องลอย อยู่ใน ดินฟ้าอากาศ หมด..ปราศจาก สังขาร ที่รองรับ
ไปเถิด ไปเป็น ผู้หมด กิเลส ตัณหา ต่างๆ
ไปแล้ว ไม่ต้อง กลับมา เห็นคน เกิดแก่เจ็บตาย อีกต่อไป
1
อย่ามอง เรื่องราว อนาถนัก เรื่องราว..ของกาย
ปรับปรุง กายนั้น ให้สว่าง ด้วยจิตของเรา
สิ่งทั้งหลาย ในโลก เป็นมายา
มองดู ข้างนอก ก็ยังหลงใหล
มองดูข้างใน จิตอาศัย ในเรือนกาย
ปลงเสียเถิด ของสมมุติ อยู่ไม่ได้
มองดูตัวตน ของเรา เป็นสมมุติ
นอกจากตัวตน ออกไป ไร้ความหมาย
เกิดนิสัย ไม่ไปยึดถือ เรื่องราว ของมายา
ปัญญาเกิดขึ้นได้ เพราะ..รู้จัก สิ่งของ ที่ยึดถือ
กลายเป็น โลภโกรธหลง อยู่ที่จิต
จะปล่อยนิด สิ่งนี้ไป อยู่ที่บุญบารมี
ทำแล้ว..ทำอีก ทำเป็น นิจสิน
ทำเพื่อปลดปล่อย ความยึดถือ ในมายา
ทำแล้ว ไปยึดมายา ก็เป็น มายา เช่นเดียวกัน
จะร้อง คำว่า อนาถนัก ในดวงจิต
เพราะผู้ไม่รู้ ไม่มีสะกิด จิตไม่ตื่น
หลงใหล ในมายา จมอยู่ ในตัวตน
มีความโกรธ มีความเกลียด มีความหลง ความยึดถือ เป็นที่ตั้ง
สิ่งนั้น เกิดแก่เจ็บตาย อยู่ใน อบายภูมิ
เลิกกัน เสียเถอะ เรื่องราวต่างๆ
มาจุติ จุตัง อยู่ ที่คำ พุทโธ
นั่งนิ่งๆ ใจเฉยๆ เป็น ผู้หมดสิ้นกรรม
จะหนีกรรมได้ ต้องทำกาย จิตนิ่ง จะรู้ว่า กรรมนั้นมีจริง
ไปหลงใหล อยู่ทุกวัน ที่จิตใฝ่หา นั้นคือ กรรม
กรรมเกิดจาก มายาที่เป็น อารมณ์ในตัวตน
หยุดแค่นี้ พอประมาณ จิตจะ ราบรื่น
สุขใด ไม่เท่ากับสุข หยุดที่ ความนิ่ง
ในที่สุด จิตหลุดพ้น อยู่ที่ตัวตน จิตของเรา
วิ่งหา อะไรก็ไม่ดี เท่ากับวิ่งหา คัตเอาท์กรรม
หยุดกรรมได้ เมื่อไหร่ จิตนั้นก็ ผ่านพ้น
มัวเมา สมสู่ อยู่เกิดตาย แปดสิบกว่า
โลกนี้ จะเป็นของเรา เมื่อจิตนั้น รู้จักกรรม
รู้จักกาย รู้จักตน รู้จักบิดาและมารดา ผู้นั้นเป็นจิต ที่ประเสริฐ
เกิดมาเป็นมนุษย์ หลงใหลลืมเลือน ต้นต่อที่เกิด ใครเล่าจะตักเตือน เราได้
หมั่นฝึก หมั่นสร้างทาน สร้างบุญ เป็นนิจสิน
จิตน้อยๆ ของเรา จะรู้จักกรรม รู้จักธรรม
สร้างบุญ สร้างบารมี เกิดแก่เจ็บตาย ไม่เอาแล้ว
อยากจะหยุด หยุดไม่ได้ เพราะกรรมมันมี
เดินทางไม่หยุด ก็เพราะกรรม อารมณ์กรรม นำพาไป
ฝึกหัดให้ดี อารมณ์กรรม ตัวกระทำ ไม่เกิด
จิต เหมือนดุจดัง แก้วสามประการ ที่ขัด โดยสติ ที่เกิดขึ้น
ไปเถิด..ไปแดน..พระนิพาน ในวันข้างหน้า
ขออนุโมทนา สร้างกุศล สิ่งที่ถวายในวันนี้
จงไปบังเกิด ที่มาปรารถนาดี
มีนิมิต ที่ดี จงเกิดขึ้น
สิ่งที่ ปกป้อง รองจิตรองใจ ด้วยบุญ และบารมี
อนุโมทนา กุศลนี้ สาธุ สาธุ สาธุ
โฆษณา