เมื่อการกลัวการเข้าสังคมกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
"เมื่อตอนเป็นเด็กฉันเคยเป็นเด็กขี้อาย เมื่อโตขึ้นฉันคิดว่ามันจะดีขึ้นและหายไป แต่มันกลับยังอยู่ร่วมกับฉันทุกลมหายใจเข้าออก"
"เมื่อโตขึ้นฉันจึงได้เรียนรู้ว่า มันคืออาการของโรคชนิดหนึ่งที่เกิดมาจากจิตใจและความรู้สึกภายในตัวของฉันเอง"
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความวิตกกังวล
อาการคือ
✔️กังวลใจมาก ( มากถึงมากที่สุด ) อาจจะทำให้ใจสั่น เหงื่ออก คล้ายจะเป็นลม หน้าซีด ประหม่าตลอดเวลา
✔️รู้สึกสงสัยในตัวเองและมีปมด้อยอะไรสักอย่าง
✔️หลีกเลี่ยงการเชื่อมสัมพันธ์ทางสังคม บางคนหนักไปหน่อยก็ไม่อยากคุยโทรศัพท์ไปเลย
✔️ไม่ชอบออกงาน หรือ สถานที่ที่มีคนเยอะๆ
ยังไงก็ตามโรคกลัวการเข้าสังคม แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป
บางคนไม่ชอบออกงานเพราะมีคนรู้จักอยู่ในงานด้วย แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่มีคนที่รู้จักกับตนเอง ต่อให้คนเยอะก็ออกงานได้สบายเลยล่ะ
บางคนกลัวการเชื่อมสัมพันธ์ การสร้างมิตรใหม่ สาเหตุเกิดจากกลัวตัวเองจะสร้างความบาดหมางเพราะสิ่งที่ตัวเองเป็น
บางคนกลัวแม้กระทั่งการออกไปซื้อของนอกบ้าน แต่ที่หนักๆหน่อยไม่กล้าออกนอกประตูบ้านเลยก็มี
ถ้าคุณสงสัยว่าคนรอบตัวคุณเป็นโรคนี้หรือไม่ ลองสังเกตุเค้าดูค่ะ
- เค้าจะพูดน้อย แต่เค้าจะพยายามพูดอยู่นะ
- เค้าจะเพื่อนน้อยเพราะเค้าไม่กล้าเข้าหาใครก่อน เค้าสร้างมิตรไม่เก่ง
- ในที่ทำงานเค้าจะเน้นการทำงานมากกว่าการนั่งพูดคุยเป็นกลุ่มๆ
- เค้าชอบไปไหนคนเดียว เพราะการไปกับคนเยอะๆทำให้เค้าอึดอัด
- เค้าเป็นคนใจดีนะแต่เค้าไม่กล้าแสดงออกหรอก ใครที่กล้าเข้ามาคุยกับเค้าก่อน คนนั้นจะได้ความไว้ใจไปเลยล่ะ แต่...
เค้าไม่ไว้ใจคุณทั้งหมดหรอกนะ ประสบการณ์จะสอนเค้ามาแบบนั้น อาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่เลยล่ะ
ยังไงก็ตามคนเป็นโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ
เค้าไม่ได้เป็นคนโรคจิต ไม่ได้เป็นซึมเศร้า ไม่ได้เป็นคนจิตมีปัญหา อย่างที่หลายคนเข้าใจนะจ๊ะ
" สำหรับฉันความวิตกกังวลทางสังคมก็เหมือนกับพลังบีบคั้นที่ฉันรู้สึกได้เมื่อฉันอยู่ในสถานการณ์ทางสังคม นั่นก็เหมือนกับการครอบงำทางประสาทสัมผัสโดยรวม ฉันมักจะรู้สึกว่าฉันต้องคลายความกดดันหลังจากการสังสรรค์ทางสังคมและออกไปเที่ยวในที่มืด"
Heather Lilico - นักโภชนาการสอนโยคะ
ขอบคุณที่เข้าอ่านนะคะ
#แล้วแต่Just
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
