25 ม.ค. 2021 เวลา 03:02 • การตลาด
การตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก : 5 กลยุทธ์สำหรับการเติบโต
หากคุณกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวหรือขยาย SME ของคุณในปี 2021 ค้นพบ 5 กลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กเพื่อเร่งการเติบโตของคุณตั้งแต่การเริ่มต้นไปจนถึงการสร้างความมั่นคงในระยะยาว
การเปิดตัวของสตาร์ทอัพอาจเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างระหว่างการเปิดตัวองค์กร และความสามารถในการขยายธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว กุญแจสู่ความสำเร็จคือ การทำให้แน่ใจว่า กิจกรรมการตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อสร้างลูกค้าให้กับคุณ
คงจะดีหากการตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กเป็นเรื่องง่าย และทุกคนประสบความสำเร็จในครั้งแรก บ่อยครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อมีการเปิดตัวสตาร์ทอัพผู้ก่อตั้งมักจะเบื่อหน่ายกับความพยายามในการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์และบริการของตน ในขณะเดียวกันก็ล้มเหลวในการสร้างรากฐานที่มั่นคง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นที่จะสร้างบริษัทที่มีศักยภาพในอนาคตได้
ในขณะที่การดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก ก็มีความท้าทายมากมาย แต่ความจริงก็คือ การเติบโตเริ่มต้นจากสิ่งเดียวนั่นคือ ”การตลาดเพื่อสร้างลูกค้า” หากสิ่งนี้ยังคงเป็นที่น่าสนใจ (โดยสมมติว่า บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่สตาร์ทอัพนำเสนอนั้นได้มาตรฐาน) ความสำเร็จก็จะตามมาอย่างแน่นอน
กลยุทธ์ยอดนิยมสำหรับการตลาดธุรกิจขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพคืออะไรกันแน่? นี่คือขั้นตอนหลัก 6 ขั้นตอนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ มีดังนี้
1. คิดหา "Sweet Spot" ของคุณ
ก่อนอื่นคุณต้องคิดหา "Sweet Spot" หรือ "จุดที่น่าสนใจ" ของคุณก่อน หากคุณกำลังงงว่า แล้วมันหมายถึงอะไรล่ะ? จุด "Sweet Spot" คือ จุดที่ความรู้และทักษะความเชี่ยวชาญของคุณตัดกับความหลงใหลของคุณในเรื่องนั้นๆ เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และเป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่สามารถทำตามได้ หรือทำได้ยาก
หมายถึง การที่คุณมีความหลงใหลในอุตสาหกรรมหรือเนื้อหานั้นอย่างแท้จริง พร้อมกับความรู้เชิงลึกและ/หรือทักษะในอุตสาหกรรมนั้น แน่นอนว่า สิ่งนี้พูดง่ายกว่าทำ แต่ความจริงก็คือ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำจริงๆ และต้องทำเก่งด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีทักษะการเขียนโค้ดที่ยอดเยี่ยม และมีความหลงใหลในการทำอาหาร คุณอาจต้องการพิจารณาวิธีที่คุณสามารถผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน เช่น การสร้างแอปทำอาหารที่ไม่เหมือนใคร
2. ค้นหา Content Tilt ของคุณ
การสร้าง Content Tilt หรือคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร คือสิ่งที่ทำให้เกิดแนวทางของคุณโดยเฉพาะ หรืออยู่ในพื้นที่ที่คุณจะทำธุรกิจที่แตกต่างโดดเด่นจากคนอื่นๆ ค้นหาพื้นที่เฉพาะที่มีโอกาสและช่องว่างในผลิตภัณฑ์หรือบริการ คุณต้องไม่เข้าสู่ตลาดที่อิ่มตัวมากเกินไป แต่ให้หาช่องที่ยังไม่มีใครฉวยโอกาสแทน เป็นจุดที่จะสร้างโอกาสให้คุณได้ก้าวข้ามความซ้ำซากจำเจ
เพราะถ้าคุณแค่มองหาจุดสนใจหรือ Sweet Spot แล้วเขียนคำแถลงการณ์พันธกิจขึ้นมานั้นยังไม่พอ เพราะในตอนนี้คุณกับคู่แข่งอีกเป็นร้อยได้มาอยู่ในสนามรบเดียวกัน จะรบให้ชนะคุณต้องอยู่เหนือคู่แข่งไปอีกขั้น
เมื่อคุณค้นพบว่า การบิดเนื้อหาของคุณคืออะไรแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องโจมตีโดยตรง ในที่ที่มีการแข่งขันน้อยที่สุด เพื่อที่คุณจะได้รับความได้เปรียบในการเสนอขายครั้งแรก แล้วคุณจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาด แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนก็จะตามมา
สรุปคุณลักษณะสำคัญของ Content Marketing :
1) คุณภาพและแนวทางของคอนเทนต์ต้องโดดเด่นและได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
2) คุณต้องมี Branded Hub หรือพื้นที่ทรัพยากรทั้งหมดของแบรนด์ที่กำหนดไว้ เพื่อแชร์คอนเทนต์ต่างๆ
3) คุณต้องลงทุนในการสร้างคอนเทนต์ และใช้ผู้มีอิทธิพลเพื่อเพิ่มการรับรู้และแชร์คอนเทนต์
4) หากคุณทำกระบวนการทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายการตลาดของแบรนด์โดยรวมของคุณ
5) คุณต้องการคน เครื่องมือ และกระบวนการในการตรวจสอบคอนเทนต์ และประสิทธิภาพในการแชร์
3. เข้าถึงและปรับเปลี่ยนผู้ชม
ถ้าคุณได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณแล้ว ก็ขอแสดงความยินดี! ตอนนี้คุณต้องเพิ่มอัตราสมาชิก/ผู้ติดตามของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการดำเนินการนี้คือ ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้ชมผ่านสื่อที่แบรนด์จ่ายเงินเป็นเจ้าของ หรือสื่อต่างๆ (Paid, Owned และ Earnt Media) โปรดจำไว้ว่า แม้ว่าคุณจะสามารถดึงดูดการเข้าชมเว็บจำนวนมากได้ แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากคุณไม่สามารถให้ผู้เยี่ยมชมเลือกรับเนื้อหาของคุณได้
มุ่งเน้นไปที่ Persona ของผู้เข้าชม และ Segmentation เพื่อให้แน่ใจว่า คุณวาง Positioning ส่งมอบข้อความไปตามกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โมดูลการกำหนดลูกค้าของเรานี้แสดงให้เห็นว่า การกำหนดบุคลิกสามารถช่วยคุณและธุรกิจขนาดเล็กของคุณได้อย่างไร :
1
> ปรับปรุงเว็บไซต์และประสบการณ์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง : เป็นทั้งตัวกำหนดทิศทางของคอนเทนต์ โดยให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางผ่านการกำหนด Persona
> เพิ่มการเปลี่ยนแปลง : มุ่งเน้นไปที่ Customer Journey และการทำให้ผู้ใช้บรรลุความสำเร็จในงานที่เขามุ่งหวัง ผู้ชมส่วนใหญ่ต้องการคำตอบเพื่อแก้ปัญหาให้พวกเขา ด้วยการมาอ่านบทความที่คุณเขียน นี่เป็นแนวทางควรสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเขา เช่นเดียวกันกับการสร้างเนื้อหาที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งกำหนดโทนและสไตล์ที่เหมาะสม เพื่อดึงดูดผู้ซื้อแต่ละประเภท
> ส่งเสริมการซื้อสื่อที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการรวมเว็บไซต์เข้ากับช่องทางต่างๆ : หากสามารถกำหนด Persona ในแต่ช่องทางสื่อสารได้ สิ่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้สื่อหลายช่องทาง และการซื้อสื่อ
> ปรับปรุงการทำงานร่วมกันของทีม ผ่านการวิจัยที่ชัดเจน และความเข้าใจที่ใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย การปรับปรุงให้ดีขึ้น ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่นำโดยข้อมูลและการวิจัยที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ต้องลำดับความสำคัญ
4. กระจายข้อเสนอที่มีคุณค่าให้หลากหลาย ในดิจิทัลหลักของคุณ
หลังจากที่คุณสามารถสร้างฐานผู้ชมจากช่องแพลตฟอร์มหลักของคุณได้แล้ว ก็ถึงเวลาขยายช่องทาง คุณสามารถทำได้โดยขยายไปยังช่องทางที่แตกต่างกัน โดยหวังว่าจะดึงดูดและรักษาผู้ชมไว้ได้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ
ดังนั้นคุณจะต้องใช้สิ่งที่คุณค้นพบ จากการวิเคราะห์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องที่คุณดำเนินการมา Ecommerce Training Academy จะแสดงช่องทางการตลาดดิจิทัลอีคอมเมิร์ซชั้นนำ :
1. Organic Traffic
2. Email
3. Paid Search
4. Content Marketing
5. Social Media
6. Affiliates
7. Referrals
8. Direct
มีโอกาสมากมายสำหรับนักการตลาดธุรกิจขนาดเล็กในการกระจายความเสี่ยง ไม่เพียงแต่คุณจะนำแบรนด์ของคุณไปสู่สายตาผู้ชมมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณยังได้รับความภักดีและการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นจากผู้ชมปัจจุบันของคุณด้วย เนื่องจากพวกเขามีตัวเลือกมากมายที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมกับคุณได้
5. เริ่มสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของคุณ
ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการเปิดตัวและขยายการเริ่มต้นธุรกิจของคุณ มุ่งเน้นที่การสร้างรายได้จากคอนเทนต์ หากคุณทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้อย่างถูกต้อง ตอนนี้คุณควรมีฐานผู้ชมเข้ามามากมาย และมีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับพื้นที่ของคุณแล้ว ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลตอบแทน
วิธีสำคัญในการสร้างรายได้จากเนื้อหาของคุณคือ การดูว่าอะไรใช้ได้ผลและอะไรไม่ได้ผล คุณมีจำนวนสมาชิกอยู่แล้วจึงเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ และทำการปรับเปลี่ยนเมื่อจำเป็น และดูว่ามีโอกาสที่จะเริ่มเปลี่ยน “ผู้ชม” ของคุณให้เป็น “ลูกค้า” ที่จ่ายเงินได้ที่ไหน
Content Operation Models Matrix จะช่วยให้คุณสามารถจำแนกภายในกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ และระบุโอกาสในการสร้างรายได้
สรุป :
เนื่องจากสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ล้มเหลวภายใน 2 ปีแรก คุณอยากปฏิบัติตามกฎที่ล้าสมัยแบบเดียวกับที่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพรายอื่นที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่?
เพียงแค่นำเสนอสิ่งที่มีคุณค่า และเติมเต็มช่องว่างทางการตลาด สร้างผู้ชมให้เข้ามาหาคุณมากๆ จากคอนเทนท์ที่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาแต่ละ Segment แล้วสร้างรายได้
ในยุคที่เกิดสึนามิคอนเทนต์มากมายมหาศาลในแต่ละวัน ด้วยความสนใจของผู้ชมที่สั้นลงกว่าที่เคย และมีตัวเลือกมากมายที่แย่งชิงความสนใจของผู้บริโภค คุณจึงควรสร้างผู้เข้าชมของคุณขึ้นมาก่อน และจากนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
ในโลกที่หมกมุ่นอยู่กับเนื้อหาที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน นี่คือเส้นทางที่ดีที่สุดในการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ ขอให้โชคดี!
Create : NokCB - Branding, Corporate Branding, Communications Branding & Consultant
============================
ติดตามทุกเรื่องเกี่ยวกับ การสร้างแบรนด์ การตลาด การโฆษณา ธุรกิจ ดีไซน์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ แบบลึกซึ้ง สนุกสนานได้ที่...
Facebook : BirdBrand
Blockdit : BirdBrand & Nok Creative Branding
โฆษณา