25 ม.ค. 2021 เวลา 05:52 • ไลฟ์สไตล์
ใครไม่เคยไปทำงานสาย หรือไปนัดกับเพื่อน สายบ้างครับ??
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมก่อนเลยสำหรับคนที่ไม่เคยไปสาย ไม่ว่าจะทำงานหรือนัดกับเพื่อน ๆ คุณเป็นคนที่มีวินัย และ นิสัยดีมาก ๆ
แต่สำหรับคนที่ไปสายกันเป็นประจำ และไปสายบ่อย ๆ นั้น อยากรู้กันรึเปล่าว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นเช่นนั้น??
ก่อนจะไปถึงเหตุผลข้อนั้น ผมขอยก 5 เหตุผลสุดฮิต ที่คนมักใช้เวลามาสายกันมาฝากก่อนเป็นน้ำจิ้มนะครับ
1. รถติด
แน่นอนว่าการจราจรของประเทศไทยเรา เรียกว่าติดอันดับต้น ๆ ของโลกเลย ในแง่ การติดขัด และมันก็เป็นแบบนี้มานาน แก้ไม่หายสักที หลายต่อหลายคนเลยมักใช้เหตุผลข้อนี้ในการมาอ้างเมื่อมาสาย บอกว่า ออกตามเวลาเดิมเป๊ะๆ แต่รถดันติดเป็นพิเศษ ซะงั้น!!
2. รถเสีย
ข้อนี้ขอเหมารวมทั้งรถส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ เพราะเป็นข้ออ้างที่ ชาวกรุงมักจะมีได้เป็นประจำว่า บีทีเอสเสีย หรือ รถไฟใต้ดินเสีย เลยทำให้การมาทำงานนั้นสายผิดปกตินั่นเอง
3. ฝนตก
สำหรับข้อนี้ใช้ได้เฉพาะ ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเท่านั้นนะ เพราะถ้าใช้ในวันที่ฟ้าสดใสอันนี้คงต้องไปเคลีย กับหัวหน้ากันเอง
4. ตื่นสาย
เป็นเหตุผล สุดคลาสสิคข้อหนึ่ง ที่ยอมรับกันตรงๆ ไปเลยว่า ตื่นสายกว่าปกติ เลยทำให้มาเข้างานสาย ผมคิดว่าก็แมน ๆ ดีข้อนี้ ไม่ต้องอ้างอะไรให้มากความ
5. มีธุระ
หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องไปทำภาระกิจบางอย่างก่อนที่จะเข้ามาทำงาน นั่นเลยทำให้การเข้ามาทำงานในเช้าวันนั้น กลายเป็นการมาสายไปซะอย่างนั้น ซึ่งข้อนี้ ก็มักจะเป็นธุระในครอบครัวเสียส่วนมากซะด้วย
จากข้ออ้างทั้ง 5 ข้อที่ผ่านมา นั่นเป็น ข้อฮิต ๆ ทั้งนั้นที่คนมาสายส่วนใหญ่ มักจะเอามาอ้างกัน แต่จริงๆ แล้ว ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นเพียงปลายเหตุ เท่านั้น ไม่ใช่ต้นเหตุ ที่ทำให้คนไปทำงานสายแต่อย่างใด
เพราะว่าต้นเหตุที่แท้จริงแล้ว นั่นก็คือ............ การไม่ได้ใส่ใจ หรือ ให้ความสำคัญไม่มากพอนั่นเอง!!
ลองคิดดูนะครับว่า เวลาที่ไปทำงาน ทั้งออฟฟิต ย่อมไม่มีเพียงแค่เราแค่คนเดียวแน่ ๆ ที่ไปทำงานในเวลาเดียวกัน แต่ คนส่วนมากกลับสามารถไปถึงก่อนเวลาเข้างานได้อย่างไม่มีปัญหา และถึงแม้จะเอาเหตุผลเรื่องบ้านไกลเข้ามาอ้าง นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้พ้นไปได้ เพราะ คนที่บ้านไกล หลาย ๆ คน มาก่อนคนที่บ้านใกล้ซะอีก
สาเหตุของการที่คนไปทำงานสายนั่นก็คือ พวกเขาไม่ได้ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญกับการไปสายมากพอ นั่นเอง อาจจะเป็นเพราะว่าที่ทำงานของพวกเขา ไม่ได้เคร่งครัดในเรื่องนี้ จึงทำให้รู้สึกว่าการไปสายนั้นไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร หรือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายใด ๆ ก็เลยทำให้ระหว่างทางนั้นมีอาการเอ้อระเหยกันบ้าง
ถ้าเกิดว่าลองเปลี่ยนเป็น มาสายเพียงครั้งเดียว ถูกไล่ออกเลยหละก็ รับรองได้เลยว่า การให้ความสำคัญในเรื่องของการมาสาย คงจะต้องขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เลยนั่นเอง
อย่างตัวผมเองนั้น เคยลองสังเกต ตัวเองเหมือนกันในบางวันที่ไปทำงานสาย สาเหตุ เป็นเพียงเพราะ ชิลกับช่วงเวลาบางช่วงมากจนเกินไป โดยปกติ ผมจะออกจากบ้านเวลา 07.20 และไปถึงที่ทำงาน 07.55-08.00 น. แต่ถ้าเกิดว่ามีบางวัน รถไฟฟ้าเสียโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ก็จะกลายเป็นว่า วันนั้นสายไปโดยปริยาย
ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว ตัวเองสามารถที่จะ เร่งเวลาในการออกจากบ้านให้เร็วมากขึ้นอีก ก็สามารถทำได้ แต่กลับไม่ทำ เลือกที่จะใช้เวลาไปกับการนั่งเล่นมือถือ หรือดูข่าวในตอนเช้ามากจนเกินไป และทำให้ท้ายที่สุด วันไหนที่เกิด ข้อผิดพลาด ก็จะไปสายในทันที
และมีสิ่งหนึ่งที่สังเกต นั่นก็คือ จริง ๆ แล้วนั้น เรามักจะใช้เวลาในการเตรียมตัวก่อนไปทำงานนั้น แท้จริงแล้วไม่นาน แต่ที่นาน คือการที่นั่ง เอ้อระเหย ดูทีวี เล่นมือถือ ในวันที่มีเวลาเหลือๆ นี่แหละ เพราะในวันที่ตื่นสายกว่าปกติ เราสามารถรีบที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่สุดท้ายสามารถออกตามเวลาเดิมที่เคยออกได้ด้วยซ้ำ
1
สำหรับคนที่ไม่เคยสายเลยนั้น ผมรับประกันได้เลยว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องการสายเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว พวกเขาเลยไม่ไปสาย ในนัดและการทำงานต่าง ๆ
1
การที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องไหน เราก็จะใส่ใจเรื่องนั้นมากขึ้น การมาสายเองก็เช่นกัน
1
จริง ๆ แล้วเวลาเป็นเรื่องสำคัญ นะครับ สำหรับบ้านเราแล้ว เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องที่ หยวนๆ กันมาเนิ่นนาน จนทำให้กลายเป็น วัฒนธรรม อย่างหนึ่งของคนไทยไปแล้ว ที่มักจะไม่ตรงต่อเวลา
1
ลองเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลาให้มากขึ้น เพื่อที่จะรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดของพวกคุณทุกคน ให้สามารถใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กันเถอะครับ
ขอให้ทุกคนใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพกันนะครับ
โฆษณา