25 ม.ค. 2021 เวลา 14:42 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
จัดอันดับหนังที่ทำเงินมากที่สุดปี63...
##10อันดับ
อันดับ 10 – ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (13 ล้านบาท)
หนังเรื่องที่ 4 จากจักรวาล ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ ที่ได้สมาชิกจากวง BNK48 มาช่วยสร้างสีสันกันแบบล้นจอ กลายเป็นหนังไทยทำเงินทะลุหลักสิบล้านบาทเรื่องแรกของปีนี้ และทำเงินสูงเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มหนังที่มีสมาชิกจากวง BNK48 ร่วมแสดงด้วย
อันดับ 9 – Ip Man 4: The Finale (19 ล้านบาท)
หนังแอ็กชั่นตระกูลดังที่ยังคงได้พระเอกดอนนี่ เยน มารับบทอาจารย์ยิปมันเช่นเดิม ซึ่งนอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังเอเชียทำเงินสูงสุดในบ้านเราช่วงครึ่งปีแรกได้แล้ว ยังรับไม้ต่อ นั่งแท่นเป็นหนังจากตระกูล Ip Man ทำเงินสูงสุดในบ้านเราอีกด้วย (แทนที่ Ip Man 3 ที่ 17 ล้านบาท)
อันดับ 8 – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ (รายได้เฉพาะในปี 2563 – 20 ล้านบาท)
หนังไทยคุณภาพที่เข้าฉายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 และทำเงินตลอดการฉายไปทั้งสิ้น 56 ล้านบาท (สูงเป็นอันดับ 3 ของหนังไทยปีก่อน) คือหนึ่งในสองหนังจากปี 2562 ที่ทำเงินทะลุถึง Top 10 ครึ่งปีแรกของปีนี้ขึ้นมาได้ และถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบ 5 ปี ที่สามารถทำเงินข้ามปี จนทะลุขึ้นมาติด Top 10 ครึ่งปีแรกของปีถัดมา (เรื่องก่อนหน้าคือหนังจากค่าย GTH อย่าง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ซึ่งเข้าฉายในปี 2557 และทำเงินเฉพาะในปี 2558 ไปมากกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท)
อันดับ 7 – Dolittle (29 ล้านบาท)
หนังเวอร์ชั่นใหม่ของ Doctor Dolittle คุณหมอผู้สามารถพูดคุยกับเหล่าสรรพสัตว์ ที่ได้พระเอกชื่อดัง Robert Downey Jr. มาแสดงนำ ถือเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์จากฝั่งฮอลลิวู้ดเรื่องแรกที่ได้เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ และทำรายได้สูงที่สุด ในกลุ่มหนังดัดแปลงจากวรรณกรรม Doctor Dolittle ที่เข้าฉายในบ้านเราอีกด้วย (มากกว่า Dr. Dolittle ภาคแรก ของพระเอก Eddie Murphy เมื่อ 22 ปีก่อน ที่ 24 ล้านบาท)
อันดับ 6 – Bad Boys For Life (31 ล้านบาท)
แม้จะเข้าฉายห่างจากภาคสองถึง 17 ปี แต่การกลับมาของคู่หูขวางนรกในภาคที่สามนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จแบบเกินความคาดหมายจริงๆ ทั้งเรื่องคำวิจารณ์และรายได้ที่บ้านเกิดที่เพิ่มขึ้นมาจากสองภาคแรก (ยังคงนั่งแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดของอเมริกาในปีนี้อยู่) ส่วนในบ้านเรานั้น Bad Boys For Life ทำเงินสูงอันดับที่ 2 ในตระกูลหนัง Bad Boys เป็นรอง Bad Boys II (58 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
อันดับ 5 – 1917 (31 ล้านบาท)
หนังสงครามโลกที่ใช้ลูกเล่นเสมือนการถ่ายทำแบบลองเทคเรื่องนี้ ถือเป็นหนึ่งในหนังสายล่ารางวัลปี 2019-20 ที่ทำเงินในบ้านเราไปค่อนข้างดีทีเดียว (หากเทียบในกลุ่มผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หนังทำเงินเป็นรอง Joker และ Parasite เพียงสองเรื่องเท่านั้น) และขึ้นแท่นเป็นหนังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทำเงินสูงสุดในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อันดับ 4 – Birds of Prey (33 ล้านบาท) หนังซูเปอร์ฮีโร่(วายร้าย) พลังหญิงจากค่าย DC ที่แม้จะทำเงินสูงที่สุดในกลุ่มหนังต่างประเทศปี 2563 ที่เข้าฉายในบ้านเรา แต่รายได้ยังถือว่าตามหลังหนังจากจักรวาล DC เรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้อยู่พอสมควร (อย่างเช่น Shazam! ที่เข้าฉายเมื่อปีก่อน ทำเงินในบ้านเราไป 71 ล้านบาท)
อันดับ 3 – พี่นาค 2 (35 ล้านบาท)
ภาคต่อของหนังผีไทยปนฮาสุดฮิต ที่ฉายไล่หลังภาคแรกเพียงปีเดียวเท่านั้น และยังคงตามรอยภาคแรกด้วยการเป็นหนังหนังไทยทำเงินสูงอันดับต้นๆ ของค่ายไฟว์สตาร์ในรอบสิบปีที่ผ่านมาอีกด้วย (เป็นรอง พี่นาค ภาคแรก ที่ 53 ล้านบาท เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น)
อันดับ 2 – Low Season สุขสันต์วันโสด (41 ล้านบาท)
ถือเป็นหนังทำเงินฮิตเซอร์ไพรส์ที่สุดเรื่องหนึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเลยก็ว่าได้ สำหรับหนังไทยแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ในบรรยากาศขุนเขาเชียงใหม่เรื่องนี้ ที่นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังปี 2563 ทำเงินสูงที่สุดแล้ว ยังกลายเป็นหนังทำเงินสูงที่สุดในรอบ 7 ปีของพระเอก มาริโอ้ เมาเร่อ (หลังจาก พี่มาก..พระโขนง) อีกด้วย
อันดับ 1 – Jumanji: The Next Level (รายได้เฉพาะในปี 2563 – 44 ล้านบาท)
ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ สำหรับบ้านเราในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เมื่อผจญภัยภาคต่อฟอร์มยักษ์ Jumanji: The Next Level ที่เข้าฉายไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 และทำรายได้ตลอดการฉายในบ้านเราไปถึง 108 ล้านบาท กลายเป็นหนังทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราช่วงครึ่งปีแรก จากรายได้เฉพาะในปี 2563 ที่ทำไป 44 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนังฉายข้ามปีเรื่องแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่ก้าวขึ้นมาเป็นหนังทำเงินสูงสุดของครึ่งปีถัดไปได้ (นับตั้งแต่ Titanic เคยทำเอาไว้เมื่อปี 1998)เฉพาะรายได้รวมของ 10 อันดับหนังทำเงินในครึ่งปีแรก ทำรวมกันไปทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ลดลงจาก 10 อันดับแรกช่วงปีก่อนมากกว่า 80% (1,650 ล้านบาท)
โฆษณา