ดิมีเทอร์ เป็นธิดาองค์ที่2 ของโครนัส และรีอา นางเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ และการเก็บเกี่ยว นางมักจะปรากฏตัวพร้อมกับดอกไม้ ผลไม้ และเมล็ดธัญญาหาร ต่อมาได้เป็นชายาของเทพซูส และมีธิดา คือ เพอร์เซโฟเน เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ เมื่อเพอร์เซโฟเนถูกฮาเดส จับตัวไปนางโศรกเศร้ามากพืชผลไม่ผลิดอกงอกงาม นั่นก็คือต้นกำเนิดของฤดูหนาว เชื่อกันว่านางได้สอนให้ชาวกรีกโบราณรู้จักศิลปะของการปลูกพืชผล เพื่อพวกเขาจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการเพาะปลูกและมีอารยธรรมขึ้นมา
เจ้าแม่ดีมิเตอร์มีธิดาองค์หนึ่งทรงนามว่า เพอร์เซโฟนี (Persephone) เป็นเทวีครองฤดูผลิตผลของพืชทั้งปวง เพื่ออธิบายธรรมชาติของการผลัดฤดู กวีกรีกโบราณจึงผูกเรื่อง ให้เทวีองค์นี้ถูกฮาเดสลักพาตัวไปเป็นคู่ครองในยมโลก ดังมีเรื่องพิสดารดังนี้
ฮาเดสปกครองยมโลกอยู่คนเดียว โดดเดี่ยวไร้คู่ครองมาเป็นเวลานาน ไม่มีเทวีองค์ใดที่จะร่วมบัลลังก์กับฮาเดสเลย เทวีแต่ละองค์ที่ฮาเดสทอดเสน่หา ต่างองค์ต่างก็ไม่อยากอยู่ด้วย ด้วยความที่ว่าไม่อยากลงไปใต้หล้าแดนบาดาล ที่เเสงอาทิตน์ส่องลงไปไม่ถึง ทำให้ฮาเดสกลุ้มใจอย่างหนัก ในที่สุดจึงต้องตั้งปณิธานจะไม่มองหาใครอีกเป็นอันขาด หากถูกใจใคร ก็จะฉุดพาเอาลงไปบาดาลดื้อๆเลย (ลักพาตัวชัดๆ555)
วันหนึ่งเพอร์เซโฟนีพร้อมเพื่อนเล่นทั้งมวลชวนกันลงเที่ยวสวนดอกไม้ เที่ยวเด็ดดอกไม้ สอดสร้อยร้อยมาลัยกันอยู่อย่างเพลิดเพลิน เเต่ บังเอิญฮาเดสขับรถม้าผ่านมาทางนั้น ได้ยินเสียงอันไพเราะ ของเหล่านางอัปสรสาวสวรรค์ลอยมา ฮาเดสจึงหยุดรถเเละลงไปเยี่ยมมองทางช่องสุมทุมพุ่มไม้ เเละได้พบเทวีรุ่นผู้ทรงโฉม ทำให้ฮาเดสตกหลุมรักจะเอาไปอยู่ด้วยในยมโลก ฮาเดสจึงลักพาตัวอุ้มนางเพอร์เซโฟนีขึ้นรถไปในทันที
หลังจากที่ฮาเดสหลอกลักพาตัวเพอร์เซโฟนีได้แล้วเทพฮาเดสก็เร่งขับรถไปจนถึงแม่น้ำไซเอน (Cyane) ซึ่งขวางหน้าอยู่เห็นในแม่น้ำเกิดปั่นป่วน แผ่ขยายท่วมท้นตลิ่งสกัดกั้นตัวเทพเอาไว้ จึงชักรถไปทางอื่นแล้วใช้ง่าม 2 แฉก อาวุธประจำกายแทงลงบนแผ่นดินเพื่อให้แยกออกเป็นช่อง แล้วขับรถลงไปยังบาดาล ในขณะเดียวกันนั้นเพอร์เซโฟนีแก้สายรัดองค์ขว้างลงในแม่น้ำไซเอน พลางร้องบอกนางอัปสรประจำแม่น้ำให้เอาไปถวายเจ้าแม่ดีมิเทอร์ผู้เป็นมารดาด้วย
ฝ่ายดีมิเทอร์เจ้าแม่โพสพกลับมาจากทุ่งข้าวโพดไม่เห็นธิดาของตน เรียกหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นวี่แวว นอกเพียงจากดอกไม้ที่ตกเรี่ยราดกลาดเกลื่อนอยู่ นางจึงเที่ยวหาไปตามที่ต่างๆ พลางร้องเรียกไปตลอดทั้งวันและทั้งคืน
ถึงอย่างงั้นเจ้าแม่ก็ไม่ลดละความพยายาม เเละยังคงดั้นด้นเรียกหาธิดาไปตามทาง มิได้ห่วงถึงภาระหน้าที่ประจำที่เคยปฏิบัติแต่อย่างใด ดอกไม้ทั้งปวงจึงเหี่ยวเฉาเพราะขาดฝนชะโลมเลี้ยง พืชพันธุ์ธัญญาหารถูกแดดแผดเผาจนเหี่ยวเฉา ในที่สุดนางก็สิ้นหวังลงนั่งพักที่ริมทางแล้วร้องไห้อย่างคร่ำครวญ
เวลาผ่านไปเมื่อได้รู้ถึงที่อยู่ของธิดาแล้วเจ้าแม่ดีมิเตอร์จึงรีบไปอ้อนวอนซุสให้ช่วย ซุสอนุโลมตามคำวอนขอ โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าเพอร์ซิโฟเน่ไม่ได้เสพเสวยสิ่งใดในระหว่างที่อยู่บาดาล จะให้ฮาเดสส่งเพอร์เซโฟนีขึ้นมาอยู่กับมารดา แล้วมีเทวบัญชาให้เฮอร์เมสลงไปสื่อสารแก่ฮาเดสในยมโลก ฮาเดสจำต้องยอมโอนอ่อนจะส่งเพอร์เซโฟนีคืนสู่ดีมิเตอร์แต่ในขณะนั้นภูตครองความมืดแอสกัลละฟัส (Ascallaphus) ร้องประกาศขึ้นว่า ราชินีแห่งยมโลกได้เสวยเมล็ดทับทิมแล้ว 3 เมล็ด ในที่สุดจึงตกลงกันเป็นที่ยุติว่า ในปีหนึ่งๆ ให้เทพีเพอร์เซโฟนีอยู่กับฮาเดสในยมโลก 3 เดือน สำหรับเมล็ดทับทิมที่เสวยเมล็ดละเดือนแล้วให้กลับขึ้นมาอยู่กับมารดาบนพิภพอีก 3 เดือนสลับกันอยู่ทุกปีไป
ด้วยเหตุนี้เมื่อเทพีเพอร์ซิโฟเน่อยู่กับมารดา โลกจึงอยู่ในระยะกาลของวสันตฤดู พืชพันธุ์ธัญญาหารนานาชนิดผลิดอกออกผล และเมื่อเทพีเพอร์ซิโฟเน่ลงไปอยู่ในบาดาล โลกก็ตกอยู่ในระยะกาลของเหมันตฤดู พืชผลทั้งปวงร่วงหล่นซบเซา อันเป็นความเชื่อของชาวกรีกและโรมันโบราณ