26 ม.ค. 2021 เวลา 06:11 • สุขภาพ
Sugar substitute
สารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน
สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลนั้นได้รับความนิยมในกลุ่มที่ต้องจำกัดการทานสารให้ความหวานโดยตรง เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้สมดุล และปัจจุบันมีการใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพราะในกลุ่มผู้รักสุขภาพ หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก โดยจะสังเกตุได้จากอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ น้ำตาล 0% หรือ 0 แคลอรี่ ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันค่ะ
สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลักๆค่ะ
1. สารที่ให้พลังงาน
ฟรุกโตส (Fructose) น้ำตาลผลไม้ที่มีความหวานกว่าน้ำตาลทรายทั่วไปถึง 6 เท่า
แลกโตส (Lactose) น้ำตาลที่มักพบในนมวัว ให้พลังงานเท่ากับน้ำตาล
มอลทิทอล (Maltitol) มีความหวานและให้พลังงาน ประมาณ 60% ของน้ำตาลทั่วไป ไม่ทำให้ฟันผุ
สารชนิดนี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะยังให้พลังงานและยังคงเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดไม่ต่างจากน้ำตาลทั่วไปค่ะ
2. สารที่ไม่ให้พลังงานหรือให้พลังงานต่ำ
ซูคาโรส (Sucralose) สารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายขาวถึง 600 เท่า มีข้อดีคือไม่ทำให้ฟันผุ ไม่กระตุ้นน้ำตาลในเลือด ไม่มีสารสะสมในร่างกาย ทนความร้อนและละลายน้ำได้ดีค่ะ
แอสพาร์แตม (Aspartame)น้ำตาลเทียมที่สกัดจากสารเคมี มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปถึง 200 เท่า ถ้าใช้มากจะมีความขม แต่ข้อดีคือไม่ทำให้ฟันผุ ไม่กระตุ้นน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานค่ะ
สตีเวียร์ (Stevia) สารให้ความหวานจากธรรมชาติ ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปถึง 250-300 เท่า ให้พลังงานน้อยมาก และจัดว่าเป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัยและได้รับคำแนะนำมากที่สุดค่ะ
ในการศึกษาหนึ่งพบว่าการทานน้ำตาลเทียมบางประเภทนั้นไม่ได้ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงแต่อย่างใดค่ะ ในทางกลับกัน การทานน้ำตาลเทียมเป็นเวลานาน และปริมาณสูง ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโรหิตสูง และโรคหัวใจ โดยสาเหตุเกิดจากการที่สารให้ความหวานสังเคราะห์ที่ทานเข้าไป ไปกระตุ้นความอยากอาหารมากขึ้น กินมากขึ้น จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ข้างต้น นอกจากนี้ผู้ที่ทานเครื่องดื่มที่ใช่น้ำตาลเทียม มักคิดว่าตนเองได้รับพลังงานน้อยมาก ๆจากเครื่องดื่มแล้ว จึงสามารถทานอาหารอื่น ๆ ที่มีพลังงานสูงได้ ขาดความระมัดระวังในการกินและควบคุมอาหารนั่นเองค่ะ
ดังนั้นก่อนเลือกสารให้ความหวานตัวไหนมาเป็นตัวช่วยในการจำกัดการทานน้ำตาล ควรศึกษาถึงประโยชน์ โทษ และปริมาณที่ทานได้ในแต่ละวัน เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษนะคะ ทุกคน
โฆษณา