แรงงานท่องเที่ยวตกงานแล้ว 2 ล้านคน
✈🧳🏨🚴♂️🌳
หนักหน่วงสุดๆ กับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มระบาดในปีก่อน และกลับมาระบาดหนักอีกครั้งในระลอกใหม่ช่วงปลายปี ธุรกิจที่ต้องทนทุกข์ระทม หนีไม่พ้น “การท่องเที่ยว”
ผมมีโอกาสไปฟังงานแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มีการเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ผลกระทบของภาคการท่องเที่ยวกับจากการระบาดรอบใหม่
ผลสำรวจผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจำนวน 785 ราย และประชาชนชาวไทยจำนวน 1,44 ราย สำรวจวันที่ 11 พ.ย. – 10 ธ.ค.2563 ทางโทรศัพท์ อี-เมล์ และลงพื้นที่เก็บข้อมูล (ยังไม่รวบช่วงระบาดหนักช่วงปลายเดือนธ.ค.2563)
“ผกากรอง เทพรักษ์” อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ผู้ทำการสำรวจเรื่องนี้ เปิดข้อมูลว่า ในภาพรวมทุกกิจการท่องเที่ยว พบว่ามีการปิดกิจการทั้งชั่วคราว ถาวร และเปลี่ยนไปทำธุรกิจอย่างอื่นแทนแล้วสูงถึง 15%
ที่เหลืออีก 85% ยังเปิดอยู่ ซึ่งจำนวนกิจการที่ปิดไปแล้วนั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทนำเที่ยว 23% สถานบันเทิง 22% และสปา/นวดแผนไทย 21%
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจครั้งนี้ แม้จะพบว่ามีกิจการที่ยังเปิดปกติอยู่สูงถึง 85% แต่บางส่วนที่เปิดอยู่ก็ไม่ได้ประกอบกิจการและไม่มีรายได้
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงจำนวนแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ พบว่า ในกรณีแรก ที่ต้องตกงานเพราะสถานประกอบการปิดกิจการลง มีประมาณ 13% ของสถานประกอบการทั้งประเทศ คิดเป็นจำนวนแรงงานในเบื้องต้นกว่า 5.2 แสนคน กรณีที่ 2 คือสถานประกอบการที่เปิดกิจการอยู่ 85% ในจำนวนนี้กว่าครึ่งได้ปรับลดจำนวนแรงงานลง คิดเป็นจำนวนแรงงาน 5.2 แสนคน
ดังนั้นเมื่อรวมกันจะทำให้ในไตรมาสที่ 4 มีแรงงานตกงานแล้ว 1.04 ล้านคน และในไตรมาสแรก ปี 64 (ม.ค.-มี.ค.64) ยังมีแนวโน้มว่าสถานประกอบการท่องเที่ยวมีความเสี่ยงต้องปิดกิจการเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้แรงงานตกงานในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน
ผลกระทบนี้ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ยอมรับว่า ตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มระบาดในปีก่อน และกลับมาระบาดหนักอีกครั้งในระลอกใหม่ช่วงปลายปี ส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยตลอดทั้งปี 63 ที่ผ่านมา สทท.ประเมินว่า จะมีแรงงานในภาคการท่องเที่ยวตกงานอย่างแน่นอน 2 ล้านคน
จากการปิดกิจการของธุรกิจท่องเที่ยวหลายประเภท เพราะส่วนใหญ่ไม่มีทุนเพียงพอที่จะรักษาการจ้างงานได้ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ
เช่นเดียวกับ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” รองประธาน สทท. และนายกสมาคมโรงแรมไทย สมทบว่า การระบาดระลอกใหม่แย่กว่ารอบเดิม และกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมาก ถือเป็นผลกระทบสาหัสที่สุดเท่าที่เคยทำงานมา ปัจจุบันโรงแรมส่วนใหญ่ยังคงปิดกิจการชั่วคราว โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ ทั้งภูเก็ต กระบี่ และพังงา
แต่ก็เชื่อว่า สถานการณ์คงจะค่อยๆ กลับมาเป็นปกติไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ดังนั้นจึงได้จดทำข้อเสนอให้กับรัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือ คือ ขอให้รัฐช่วยสนับสนุนค่าจ้างแรงงานสำหรับผู้ประกอบการในระบบประกันสังคมในสัดส่วนครึ่งหนึ่ง หรือไม่เกินรายละ 7,500 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี ครอบคุลมแรงงานท่องเที่ยว 8 แสนคน เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม สทท. ยังจัดทำข้อเสนออื่นๆ เพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณา เช่น การจัดทำธนาคารแรงงานท่องเที่ยว เพื่อรวบรวมจำนวนแรงงานที่ตกงานในสาขาท่องเที่ยวทุกประเภทมารวมกันให้ผู้ประกอบการจะได้เข้ามาเลือก ส่วนแรงงานที่เหลือก็สามารถนำไปพัฒนาทักษะ เพื่อให้ได้อาชีพใหม่ทดแทนอาชีพเดิม
อีกทั้ง สทท.ยังขอให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือจ้างแรงงานที่มีทักษะไปช่วยพัฒนาท่องเที่ยวในท้องถิ่น เช่น นำเชฟจากโรงแรม 5 ดาวไปสร้างเมนูอาหารให้ชุมชน หรือพัฒนาไกด์เป็นอินฟลูเอนเซอร์ เล่าเรื่องท่องเที่ยว และเสนอปรับเราเที่ยวด้วยกันเหมือนคนละครึ่ง คือรัฐเติมเงินเข้าแอปเป๋าตังให้ไปเที่ยวคนละ 7,000-10,000 บาท ไปใช้ลดค่าสินค้าและบริการ ใช้วันหยุดได้ลด 40% วันธรรมดาลด 50%
ส่วนข้อเสนอทั้งหมดจะได้รับการตอบรับหรือไม่ คงต้องมาลุ้นกันอีกที
เที่ยวละข่าว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
