ไพ่ยิบซีพยากรณ์
ถ้าคุณมองหาวิธีการพยากรณ์ทำนายทายทักที่เป็นสัจจสูตร แน่นอนตายตัว คุณแทบหาไม่ได้เลยกับการพยากรณ์ด้วยวิธีไพ่ ทาโร่ (Tarot) ที่คนไทยเรียกกันว่าไพ่ยิบซีจนติดปาก เว้นแต่หน้าไพ่ที่ Pamela Colman Smith ศิลปินและหมอดูชาวอังกฤษ วาดไว้ตั้งแต่ปี 1909 จนเป็นที่คุ้นเคยและเป็นหน้าไพ่มาตรฐาน ตำราไพ่ทาโร่ ผู้เขียนมักนำเสนอวิธีตีความหน้าไพ่ที่แตกต่างกันไป และหนังสือจำนวนมากก็อ้างอิงประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน เราจึงไม่แปลกที่เห็นหนังสือภาษาไทยจำนวนมากที่อ้างอิงอ้างอิงประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน บางเล่มก็มีกลิ่นอายไสยศาสตร์แบบไทยๆเข้ามาปะปน แม้จะมีบางเล่มกล่าวถึงความหมายหน้าไพ่อย่างเป็นระบบระเบียบ แต่ก็ไม่ได้อ้างที่มาว่ามีเนื้อหาจากตำราต่างประเทศเล่มใดเพี่อให้เราไปศึกษาค้นคว้าต่อ
ไพ่ทาโร่สำรับหนึ่ง มี 78 ใบ แบ่งเป็น 2 ชุด เรียกว่าชุด The Major Arcana จำนวน 22 ใบ ใช้เป็นตัวแทนนามธรรม และชุด The Minor Arcana จำนวน 56 ใบ ใช้เป็นตัวแทนรูปธรรม ในชุด Minor ยังแบ่งออกเป็นชุดย่อยอีก 4 ชุดๆละ 14 ใบ ได้แก่ไม้เท้า (Wands) , เหรียญ (Pentacles) , ดาบ (Swords), ถ้วย (Cups), ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ธาตุทั้ง 4 ไฟ ดิน ลม น้ำ ตามลำดับ จึงไม่แปลกถ้าคุณมีพื้นฐานโหราศาสตร์คุณจะสังเกตว่าไพ่ชุดหลักจำนวน 22 ใบ มีความหมายสอดคล้องกับอาทิตย์และจันทร์ในราศีต่างๆนั่นเอง
หนังสือไพ่ทาโรสื่อรัก (Tarot and Love) ที่เรียบเรียงโดย ศักดิ์ บวร ให้ความหมายและเหตุผลเชิงปรัชญาได้ค่อนข้างละเอียดครอบคลุมที่สุด สามารถโยงไปจนถึงความหมายตามรูปภาพ ที่ได้พื้นฐานจากลัทธิ Golden Dawn ในต้นศตวรรษที่ 20 (การตีความคัมภีร์ใบเบิ้ลออกมาในแนวไสยศาสตร์และจิตศาสตร์)
แต่ถ้าสามารถเลือกให้อ่านได้เพียงเล่มเดียว ข้าพเจ้าขอเลือกหนังสือที่เขียนโดย เดวิด บุญทวี ที่ชื่อหนังสือ ไพ่ยิบซีกระบี่อยู่ที่ใจ ตอนหลังกลับมาพิมพ์ครั้งใหม่ใช้ชื่อ จาก The Fool ถึง The World ให้ความหมายครอบคลุมรายละเอียดไพ่ทุกใบ ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย
ผู้สนใจศาสตร์นี้หากมีประสบการณ์ชีวิตมามาก และมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ก็จะเรียนรู้ได้รวดเร็วและได้เปรียบ อาทิ หากหมอดูมีประสบการณ์ชีวิตใกล้เคียงกับคนที่มาดู เช่นต้องต่อสู้ปากกัดตีนถีบในการหาเลี้ยงปากท้องเหมือนกัน ไม่ได้อะไรมาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นคนสวยหล่อขยันฉลาดก็ตามที ย่อมได้เปรียบในการตีความหน้าไพ่อย่างพิสดาร และเข้าถึงความลับคนที่มาดูอย่างน่าทึ่ง
ศาสตร์นี้จึงเหมาะกับอิสระชนที่ไม่ค่อยอยากผูกมัดกับศาสตร์พยากรณ์อื่น ที่อ้างอิงกับตำรับตำราที่มีหลักการพื้นฐานเยอะแยะและต้องอาศัยการท่องจำ โดยมีครูบาอาจารย์มาเข้มงวดเคร่งครัดเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์ให้ตรงตามหลักเกณฑ์ก่อนนำไปสู่ขั้นตอนการออกคำพยากรณ์ ซึ่งมักใช้เวลา ซึ่งมักเป็นปัญหากับผู้เรียนที่มีความอดทนต่ำหรือไม่ศรัทธาในอาจารย์ และเชื่อว่าตนเองมีลางสังหรณ์ดีกว่าอาจารย์
หากผู้เรียนอยากจะแสวงหาวิชาที่อิงกับลางสังหรณ์ตัวเอง มีประสบการณ์ชีวิตเข้าใจคนรุ่นใหม่ๆได้ดีกว่า และกลุ่มเป้าหมายก็เป็นคนรุ่นใหม่ ศาสตร์นี้น่าเป็นตัวเลือกอันดับต้น
โหราทาส
๑ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๒๒:๔๐ น.
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
