Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TRAVEL Histopast
•
ติดตาม
27 ม.ค. 2021 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
สงคราเซนัน Seinan War ตอนที่1จุดเริ่มต้นของสงคราม
1
วันนี้แอดจะพาทุกคนเดินทางไปในช่วงยุคสมัยเมจิ ที่เรียกว่า ยุคใหม่ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านทั้งการปกครอง เศรษฐกิจ การทหาร วัตนธรรม อุตสาหกรรม เทคโนโลรยีที่ก้าวขึ้นมาแทนที่ของเดิม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ได้
เกิดขึ้นใหม่ รวมไปถึงการเปิดโลกใบใหม่ให้กับประเทศญี่ปุ่น
นี้คงจะเรียกได้ว่าเป็นยุคที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนไปเกือบจะทั้งประเทศเป็นอย่างมาก
และเมื่อบางสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ก็ย่อมมาแทนสิ่งที่อยู่แต่เดิม และก็มีกลุ่มคนที่กลุ่มหนึ่งที่ทั้งชีวิตนั้นอุทิศตนให้กับวิถีชีวิตจิตวิญญาณแห่งบูชิโด นี้มาหลายร้อยปีทั้งชีวิตของพวกเค้าเกิดมาเพื่อการต่อสู้ ใช่แล้วพวกเค้าเหล่านี้ก็คือซามูไรนักรบผู้เก่งกาจหาผู้
ใดที่จะมาทัดเทียมพวกเค้าได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งใหม่ที่เข้ามาทำให้พวกเค้านั้นเริ่มมีบทบาทที่น้อยลงนั้นเลย
อาจเป็นสาเหตุที่พวกเค้าเริ่มที่ต้องการแสดงให้ญี่ปุ่นั้นยังไม่ลืมวิถีชัวิตดีงเดิมของ
ตนเอง จนก่อเกิดเป็นการก่อกบฏครั้งใหญ่ที่เรียกว่า กบฏซัตสึมะ หรือ สงครามเซนัน
กบฏซัตสึมะหรือที่เรียกว่าสงครามเซย์นัน เป็นการก่อจลาจลของซามูไรที่ต่อต้าน
รัฐบาลจักรวรรดิใหม่เก้าปีในยุคเมจิ ชื่อนี้มาจาก Satsuma(ซัสซึมะ)
เป็นหนึ่งในแคว้นไดเมียวที่ทรงอำนาจที่สุดในสมัยรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ
หรือสมัยเอโดะของญี่ปุ่นในอดีต
ซึ่งมีบทบาทอิทธิพลในการก่อตั้งรัฐบาลยุคใหม่และยังมีบทบาทในการสนับสนุน
ฝ่ายองค์จักรพรรดิในสงครามโบะชิง ซึ่งภายหลังจากก่อตั้งรัฐบาลเมจิและสถาปนา
จักรวรรดิญี่ปุ่นแล้ว แคว้นซัตสึมะได้กลายเป็นที่อยู่ของเหล่าอดีตซามูไรจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้พวกเค้าได้สูญเสียบทบาททางการเมืองทางสังคมไป
ซามูไรนั้นได้ถูกแทนที่ด้วยกองทักที่ทันสมัยขึ้นมีการนำอาวุธปืนมาใช้แทนที่ดาบ
มากขึ้นทำให้การว่าจ้างงานของเหล่าซามูไรเริ่มหมดไป และนี่คือสาเหตุที่เหล่าซามูไรเกิดความแค้นใจต่อรัฐบาลใหม่ การก่อจลาจลมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.
2420 จนถึงเดือนกันยายนของปีนั้น
แผนที่ของแคว้นซัสซึมะมีศุนย์กลางการปกครองที่ปราสาทคาโงชิมะในเมืองคาโงชิมะแคว้นนี้ได้ถูกปกครองโดยไดเมียวระดับโทซามะจากตระกูลชิมาซุหลายต่อหลายรุ่นแคว้นซัสซึมะจัดได้เป็นแคว้นที่มีผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เป็นอันดับสองรองจากแค้วนคางะ
ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นจากบุคลคนนี้
Saigō Takamori หนึ่งในผู้นำระดับสูงของ Satsuma ในรัฐบาลเมจิที่สนับสนุนการ
ปฏิรูปในช่วงแรกมีความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น
ภาพของSaigō Takamori ไซโกะ ทะกะโมริ ผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเมจิและเป็นผู้นำทัพฝ่ายของพระจักรพรรดิฯในสงครามโบะชิง ผู้ได้รับการขนานนามว่า "ซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้าย"
ไซโกเป็นผู้เสนอให้ทำสงครามกับเกาหลีอย่างรุนแรงในการอภิปราย Seikanron ปี 1873 มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเสนอที่จะไปเยี่ยมเกาหลีด้วยตนเองและยั่วยุแบบ
Casus belli(การกระทำความผิดที่ร้ายแรงอาจส่งผลทำให้เกิดความขัดแย้งและเกิดสงครามระหว่างประเทศได้ เช่นการทำกิริยาหยาบคาย การดูหมื่นวัฒนธรรมของชาติอื่น)
ภาพวาดในปี1873 การประชุทถกเถียงทางการเมืองครั้งสำคัญในญี่ปุ่นในช่วงปี 1873 เกี่ยวกับการลงโทษเชิงลงโทษต่อเกาหลี Seikanron แยกรัฐบาลเมจิและกลุ่มพันธมิตรการฟื้นฟูที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านบากูฟู แต่ส่งผลให้มีการตัดสินใจที่จะไม่ส่งทหารไปเกาหลี
ไซโกะนั้นคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จและในระยะเริ่มต้นของสงครามและจะ
เสนอวิธีการที่ซามูไรที่นั้นเป็นผู้นำกองกำลังเข้าทำสงครามและทำให้ซามูไรมีบท
บาทเหมือนเดิมแต่เมื่อแผนการได้ถูกปฏิเสธ Saigōลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาลทั้งหมดเพื่อเป็นการประท้วงและกลับไปที่บ้านเกิดของเขาที่ Kagoshima เช่นเดียวกับ เหล่าซามูไรแห่งซัสซึมะที่เป็นทหารและตำรวจอยู่ในตอนนั้น
ในทางกลับกันวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมความทันสมัยรัฐบาลกลางได้ออก
Haitorei ห้ามคนที่ไม่ใช่อดีตขุนนางทหารและเจ้าหน้าที่พกพาดาบในที่สาธารณะ
ผู้ฝ่าฝืนจะยึดดาบของพวกเขา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2419 และ Kinrokukosaishoshohakkojorei ในวันที่ 5 สิงหาคมในปีเดียวกัน
คำสั่งทั้งสองนี้สร้างความเสียหายให้กับชนชั้นนักรบทั้งในด้านจิตใจและเศรษฐกิจ
เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวทำให้พวกเขาไม่ได้รับสิทธิพิเศษในฐานะซามูไรเหมือนใน
อดีตเช่นการสวมดาบและได้รับค่าตอบแทน คำสั่งเหล่านี้เรียก 'Shinpuren no ran'
หลังจากนั้นในปีค.ศ 1874(พ.ศ.2419) SAIGOได้ก่อตั้งโรงเรียน Shigakko (โรงเรียนเอกชน ชิกักโกะ) และสาขาทั่วจังหวัดคาโกชิมะไม่นานก็มีสาขา 132 แห่งทั่วจังหวัด
"การฝึกอบรม" ที่จัดเตรียมไว้นั้นไม่ได้เป็นวิชาการเพียงอย่างเดียวแม้ว่าจะมี
การเรียนการสอนแบบคลาสสิกของจีน แต่นักเรียนทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการฝึกอาวุธและการสอนในยุทธวิธี
สถาบันการทหารในจังหวัดคะโงะชิมะประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นยุคเมจิ สร้างโดยSaigō Takamori การสร้างโรงเรียนชิกักโกะเหล่านี้และการจัดตั้งกลุ่มการเมืองภายในกำแพงเป็นต้นเหตุของการปฏิวัติ Satsuma เจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับการจลาจลที่ Satsuma Domain
และไซโกยังเริ่มก่อตั้งโรงเรียนปืนใหญ่ โรงเรียนเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับองค์กร
ทางการเมืองของทหารมากกว่าสิ่งอื่นใด
SAIGO ก่อตั้งโรงเรียนเพื่อเป็นผู้นำกลุ่มฟุเฮอิชิโซกุ (อดีตซามูไรที่มีหมายจับ) ซึ่ง
ออกจากรัฐบาลตามที่เขาทำและให้การศึกษาแก่เยาวชนในจังหวัด ยิ่งไปกว่านั้น
ด้วยเป้าหมายในการสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งเขาได้แนะนำวัฒนธรรมตะวันตกในเชิง
บวกโดยจ้างอาจารย์ต่างชาติและส่งนักเรียนที่มีความสามารถไปยังประเทศตะวันตกเพื่อศึกษา ภายใต้ความร่วมมือของผู้ว่าราชการจังหวัด Tsunayoshi OYAMA ร่วมกับ
ฝ่ายปกครอง Shigakko ได้พัฒนาเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากจนซัตสึมะสามารถ
แยกตัวออกจากรัฐบาลกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในสิ้นปี พ.ศ. 2419
โดยเรื่องนี้ได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมากในโตเกียว รัฐบาลเพิ่งจัดการกับการ
ปฏิวัติซามูไรขนาดเล็ก แต่ก็เกิดขึ้นรุนแรงหลายครั้ง
ในคิวชูและพวกเขาพบว่ามีแนวโน้มที่อาจเกิดการก่อกบฏโดยซามูไรซัตสึมะที่มีจำนวนมากที่นำโดยไซโกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมซึ่งเป็นที่น่ากังวลให้กับรัฐบาลกลาง
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2419 รัฐบาลเมจิได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อนากาฮาระฮิซาโอะและคนอื่น ๆ อีก 57 คนโดยอ้างว่ากลับบ้าน แต่ที่จริงแล้วนั้นเพื่อตรวจสอบและราย
งานเกี่ยวกับกิจกรรมที่อาจบ่อนทำลายและสร้างความไม่สงบให้กับประเทศ
แต่นักเรียนของ Shigakko นั้นสงสัยเกี่ยวกับการกลับบ้านมาของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากเช่น NAKAHARA และเฝ้าดูจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา
เมื่อวันที่ 29 มกราคมรัฐบาลได้ลอบขนอาวุธและกระสุนจากคลังแสงของกระทรวง
กองทัพในคาโงชิมะไปยังเรือ Sekiryu-maru(เซกิริวมารุ) เพื่อถ่ายโอนไปยังโอซา
ก้าด้วยความกลัวที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งแม้ว่าจะมีการยกเลิกค่าจ้างข้าวซามูไรในปี พ.ศ. 2420
เป้าหมายหลักของการดำเนินการคือการถ่ายโอนอุปกรณ์การผลิตกระสุนสำหรับปืน Snider ซึ่งเป็นอาวุธหลักของกองทัพญี่ปุ่นในสมัยนั้นไปยังโอซาก้า ตามบันทึกนำ
โดย Aritomo YAMAGATA และ Iwao OYAMA ผู้นำของฝ่าย Choshu และฝ่าย
Satsuma ในกองทัพโดยร่วมมือกัน
ในทางกลับกันในวันที่ 30 มกราคมผู้นำ 7 คนของ Shigakko ได้แก่ Kunimoto SHINOHARA(คุนิโมโตะชิโนฮาระ), Shuichiro KONO( ชูอิจิโร่โคโนะ)
และ Shichinojo TAKI (ชิชิโนะโจทากิ)
ได้ประชุมกันและขอให้ Tota TANIGUCHI(โทตะทานิกุจิ) ทำการสอบถามส่วนตัว
เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กลับบ้านรวมทั้ง NAKAHARA(นาคาฮาระ) ในเย็นวันนั้น
ทานิกุจิรายงานพวกเขาว่า NAKAHARA กำลังวางแผนที่จะลอบสังหาร SAIGO ผู้นำของ Shigakko
ผู้นำของ Shigakko, SHINOHARA(ชิโนฮาระ), Gunpei FUCHIBE(กุนเปฟุชิเบะ),
Shiro IKEBE(ชิโระอิเคเบะ) และ Shuichiro KONO(ชูอิจิโร่โคโนะ) ได้หารือเกี่ยว
กับมาตรการรับมือและส่ง Kohei SAIGO(โคเออิไซโกะ) น้องชายคนที่สี่ไปหา
Takamori(ทาคาโมริ) ซึ่งออกล่าสัตว์ใน Konejime(โคเนจิเมะ)
1
โทชิอากิคิริโนะผู้ซึ่งรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์การยึดอาวุธยุทโธปกรณ์และกลับมาที่คาโกชิมะจากหมู่บ้านโยชิดะได้พูดคุยกับคุนิโมโตะชิโนฮาระและส่งบุคคลสามคน
รวมทั้งจูโรตะเฮนมิไปยังโคเนจิเมะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์จากนั้นเขาได้เรียนรู้แผนการลอบสังหารและเหตุการณ์การยึดอาวุธยุทโธปกรณ์
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์กลุ่ม Shigakko ได้จับกุมคนกว่า 60 คนรวมทั้ง NAKAHARA ทั้งหมดเข้าด้วยกันและเริ่มสอบปากคำพวกเขาอย่างดุเดือด
หลังจากนั้นก็มีการสารภาพว่าพวกเขาเป็นสายลับที่ถูกส่งไปลอบสังหารไซโงะ
แม้ว่านากาฮาระจะปฏิเสธคำสารภาพในเวลาต่อมา แต่ก็เชื่อกันอย่างกว้างขวางใน
ซัตสึมะและถูกใช้เป็นเหตุผลโดยซามูไรที่ไม่สะทกสะท้านว่าจำเป็นต้องก่อกบฏเพื่อ "ปกป้องไซโก"
ด้วยความไม่พอใจจากยุทธวิธีของรัฐบาลนักเรียน 50 คนจากสถาบันการศึกษาของ
ไซโกโจมตีคลังแสง Somuta และพกพาอาวุธออกไป ในช่วงสามวันถัดมามีนักเรียนมากกว่า 1,000 คนเข้าร่วมการโจมตีคลังแสงอื่น ๆ
ด้วยเหตุการณืที่เกิดขึ้นนี้Saigōถูกชักชวนให้ออกจากงานกึ่งเกษียณเพื่อมาเป็นแกนนำไปสู่การต่อต้านรัฐบาลกลางอย่างเต็มตัว
เรื่องราวของเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไปติดตามได้ในตอนที่2 สงครามเซนัน
แหล่งข้อมูล
https://en.wikipedia.org/wiki/Satsuma_Rebellion
https://www.japanese-wiki-corpus.org/history/Seinan%20War%20(rebellion%20of%20samurai%20descendants).html
https://www.britannica.com/topic/Satsuma-Rebellion
https://www.ndl.go.jp/modern/e/cha1/description05.html
6 บันทึก
2
7
6
2
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย