27 ม.ค. 2021 เวลา 09:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⛽️ PTTOR ใครซื้อไว้ต้องอ่าน ทั้วโลกผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า อนาคตปั้มน้ำมันจะเป็นยังไง ?
1
CONTENT นี้มีหลายคนเรียกร้องออกมาให้ทำ วันนี้แอดมินเลยขอจัดให้เพื่อสนองความต้องการของสมาชิกเพจตามรอยหุ้นซักหน่อย
เนื่องจากกระแส OR มาแรงมาก ผมเลยได้ไปเซอร์เวย์ตามร้าน Cafe amazon สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตกตะลึงคือ ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และ ตามธนาคารต่างๆ ผู้คนล้นหลามมาก
แต่ที่หน้าแปลกใจเลยคือ OR ทำให้คนที่ไม่เคยเล่นหุ้น และ มีความกลัวเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น มีความคิดที่จะมาเปิดพอร์ตเพื่ออยากเป็นเจ้าของหุ้นตัวนี้ให้ได้
อันนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอนาคตเราอาจจะเห็นประชากรในประเทศรู้จักการลงทุนมากขึ้น เพราะการเก็บเงินสดมันไม่สร้างมูลค่าอะไร และ อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
📌 หัวข้อนี้ผมจะไม่ขอพูดถึงเกี่ยวกับธุรกิจอื่นของ PTT นะครับอย่างการค้าปลีก และ ธุรกิจต่างประเทศ แต่จะขอเจาะไปที่ธุรกิจหลักคือน้ำมัน ซึ่งมันเป็นตัวที่ทำกำไรมากที่สุดคือ 91% จุดนี้เลยสำคัญมากกับเทรนด์ในอนาคต 5-10 ปีหลังนี้
ตอนนี้ก็เป็นที่รู้กันดีแล้วว่า โจ ไบเดิน ประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา มีนโยบายว่า พลังงานสีเขียว เมื่อแกนหลักของโลกเปลี่ยน และ ผลักดัน Electric Vehicle เป็นที่แน่นอนว่าทั่วโลกต้องตาม จุดนี้เลยทำให้ผมมานั่งคิดว่าถ้าอนาคตพลังงานไฟฟ้า สามารถทดแทนน้ำมันได้ และ เข้ามามีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50% จะส่งผลยังไงในระยะยาว
1
วันที่ 26 มกราคม 2564 ไบเดน ได้ออกคำสั่งเปลี่ยนรถยนต์ทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐมาเป็นรถยนต์ EV แล้ว
2
แผนของไบเดนปี 2040 รถทุกคนของสหรัฐจะไม่มีการปล่อยมลพิษบนถนน เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของโลก
1
ปี 2021 นี้แบรนด์ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง Bmw , Mercedes benz , Porsche , Toyota , Honda , Tesla และแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย ก็ได้ประกาศตัวกันอย่างชัดเจนแล้วว่าจะทุ่มงบเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
1
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดถ้าทุกคนได้อ่าน คงจะเริ่มรู้แล้วว่ามันคือเทรนด์อนาคต แต่ปัญหาไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ PTT จะแก้ปัญหา และ รับมือยังไงต่างหาก วันนี้เราจะมาพูดคุยกัน
📍รายได้หลัก PTT คือธุรกิจน้ำมันอัตราส่วน 91%
ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 2300 แห่ง เป็นเจ้าจองเอง 20% และ แฟรนไชส์ 80% เท่ากับว่าปั้มที่เป็นของ PTT มีเพียง 460 สาขาเท่านั้น และ 1840 เป็นของแฟรนไชส์ เห็นไหมครับว่ารายได้จากการขายน้ำมัน 91% มาจากแค่ 460 สาขาเท่านั้น และ มาจิ้นของราคาน้ำมันจะมีกำไรเพียงแค่ 3-7% ต่อราคาน้ำมันราคา 100 บาทเท่านั้น
ต่อมาเราจะมาเคาะตัวเลขกำไรต่อปีกันต่อ
2
ซึ่งปี 2560 ทำกำไร 9800 ล้านบาท / ปี 2561 ทำกำไร 7900 ล้านบาท / ปี 2562 ทำกำไร 10900 ล้านบาท
แต่ปีสุดท้าย 2563 เนื่องจากมีผลกระทบจากโควิด และ เศรษฐกิจทั่วโลกเลยทำให้ยังไม่ได้ตัวเลขที่แน่นอน แต่มีการคาดการณ์ว่า กำไรลดลง 30%
📌 แต่ประเด็นหลักของ Content นี้คือ อนาคตปั้มน้ำมันจะเป็นยังไง ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าถูกนำมาใช้แทน รถยนต์ทั่วไป PTT จะรับมือยังไง ?
1.สร้างปั้มชาร์จไฟฟ้า - อันนี้คงเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนคิดกัน ต้องยอมรับว่าปตทเป็นบริษัทยักใหญ่ของโลก มีทั้งเม็ดเงินลงทุนมหาศาล และ มีที่ดินที่ครอบครองอยู่จำนวนมากในการขยายสาขาของปั้ม เรื่องการสร้างปั้มชาร์จไฟฟ้าผมมองว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะทำแน่นอน ซึ่งถ้าวันนึงน้ำมันไม่เป็นที่นิยมอย่างทุกวันนี้แล้ว คงได้เห็นการทำปั้มชาร์จไฟ คู่กับปั้มน้ำมันแน่นอน เพราะยังไงก็ยังต้องมีรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอยู่ มองรวมๆอาจจะเป็นการหารายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
2.การพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และ เครื่องชาร์จ - ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าชาร์จพลังงานอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมงก็จะสามารถวิ่งได้ 120-180 กิโลเมตร แต่คำถามคืออนาคตละ ถ้าอีก 10 ปีข้างหน้าสามารถชาร์จได้ไวเพียงแค่ 1-5 ชม หรือ ชาร์จครั้งนึงสามารถวิ่งได้ 300-500 กิโลเมตร จะเป็นยังไงเพราะมันประหยัดกว่าการเติมน้ำมันลงไปถึง 3-5 เท่าเลยทีเดียว
1
3.รถยนต์ทุกคัน แถมที่ชาร์จในบ้าน - คำถามข้อนี้จะต่อจากข้อสอง ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าทุกคันแถมที่ชาร์จในบ้าน เราจำเป็นเหรอที่ต้องไปต่อแถวเข้าปั้มที่ชาร์จไฟฟ้า สมมุติถ้าคุณทำงานอยู่ในกทม เพียงแค่คุณชาร์จตอนกลางคืน เช้าออกไปทำงาน เลิกงานกลับมาก็ชาร์จทิ้งไว้ มันจะมีความจำเป็นแค่ไหนที่คุณต้องไปใช้บริการชาร์จไฟนอกสถานที่ นอกจากคุณต้องเดินทางไกลจริงๆ
1
4.ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงเรื่อย - Tesla ได้มีการเปิดโรงงานที่จีนเป็นที่แน่นอนว่าราคารถยนต์ต้องถูกลงแน่นอน และ มีการประกาศว่าในอนาคตราคารถยนต์จะต่ำกว่า 800,000 แสนบาท ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี จุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจเพราะถ้าราคาถูก และ ประหยัดย่อมเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
2
5.เครื่องชาร์จไฟฟ้า ตามห้าง และ ที่พัก - ถ้าใครอยู่กทม อาจจะได้เห็นแล้วว่าตามห้างต่างๆ หรือ คอนโดที่สร้างใหม่ มีการรองรับที่ชาร์จไว้ให้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แม้ตอนนี้จะยังมีน้อยแต่ถ้าอีก 10 ปี ข้างหน้ามันมีทั่วกรุงเทพ ตรงนี้จะส่งผลกระทบอีกต่อรึเปล่า ที่คนจะไม่จำเป็นต้องไปใช้บริการชาร์จในปั้มเพราะเวลาไปห้าง ไปซื้อของก็ปล่อยชาร์จทิ้งไว้ได้
ปัจจัยทั้ง 5 ข้อนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้นใครที่จะลงทุนระยะยาว แนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดีนะครับ ตอนนี้สิ่งที่ผมกำลังบอกมันยังไม่เกิดขึ้น แต่ผมเชื่อเลยว่าในอนาคตมันต้องเกิดอย่างแน่นอน และ การใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ประหยัดลงได้มากกว่าน้ำมันหลายเท่า แถมยังช่วยแก้ปัญหามลพิษ
เพื่อนคิดเห็นยังไง สามารถมาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมกันได้เพื่อแลกเปลี่ยนกันนะครับ ข้อมูลใดผิดพลาดต้องขออภัยไว้ด้วย โพสนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ทุกคนไปลงทุน แต่เป็นเพียงการพูดคุยเท่านั้น
1
โฆษณา