Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
JustWriteIt
•
ติดตาม
28 ม.ค. 2021 เวลา 02:42 • ไลฟ์สไตล์
ฝึกดูจิตให้เหมือนการขว้างบูมเมอแรง
ตอนนี้เทรนด์การปฏิบัติธรรมก็มีมาเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในความรู้สึกผม
หลักๆ ก็กรรมฐาน 2 สาย คือ สายสมถะ คือ การฝึกจิตฝึกใจเพื่อให้เกิดความสงบหรืออารมณ์เดียว กับ สายวิปัสนา คือ การดูการเกิดดับของจิต หรือให้ใกล้ตัวกว่านั้นก็คือ การตามดูการเกิดดับของอารมณ์ความรู้สึก
เพื่อนผมบอกว่า สมถะ คือความสงบนิ่งหรือการชาร์ตพลัง วิปัสนาก็คืองานจริงที่จะต้องลงมือทำเพื่อให้ถึงนิพพาน ผมเดาเอาว่าพึ่งสมถะอย่างเดียวคงไม่ถึงนิพพาน ครั้นจะพึ่งวิปัสนาอย่างเดียวก็ไม่ได้ เหมือนใช้มือถือทำงานการต่างๆ แต่ไม่ชาร์จแบตบ้าง มือถือก็ไม่มีกำลังในการทำงานต่างๆ
และผมก็เห็นด้วยว่า สมถะคือความนิ่ง นิ่งพอที่จะดู เหมือนเราต้องอยู๋นิ่งๆเพื่อหยิบหนังสือมาอ่าน เราจะอ่านหนังสือไปโดยที่เราเต้นไปแล้วอีกมือถือหนังสืออ่านก็คงจะไม่ไหว ปวดตาแย่ หรือถ้าเปรียบเทียบไม่ให้เว่อร์เกินไป ก็คงจะเปรียบได้กับ การนั่งรถที่วิ่งแล้วเราอ่านหนังสือ ก็คงเกร็งลูกตาน่าดู
ผมพบว่าหมั่นทำสมาธิให้เยอะ สะสมความสงบในห้วงเวลาที่ควรทำ น่าทำ เช่่น นั่งรถ โหนรถไฟฟ้า ยืนเข้าแถวรอคิว หรือ รออะไรสักอย่าง อยู๋ในอาการที่สงบ ตามลมหายใจ ใจจดจ่อว่าตอนนี้ลมหายใจกำลังเข้าหรือออก หรือถ้าตามไม่ทันก็กำหนดเอาเองเลยคือ ลากลมหายใจเข้าออก แล้วเอาจิตตามไปดูการเข้าออกเพื่อให้เกิดอารมณ์เดียว อารมณ์เดียวนั่นแหละคือความสงบ
ครั้นพอจะมีสติบ้าง บางเวลาก็ตามรู้ตามดูจิตใจ ก็เป็นวิปัสนาอ่อนๆ
มีอะไรกระทบก็ตามรู้
รู้ว่ารู้สึกอย่างไร
ใครขับรถปาดหน้า ฉวัดเฉวียนน่าหวาดเสียวให้ตกใจบนท้องถนน ก็ตามรู้อาการ
ส่วนใหญ่จะโกรธคนขับปาดหน้า หรือผู้กระทำความฉวัดเฉวียน
วินาทีทองก่อนเป็นวิปัสนาคือ อารมณ์ความรู้สึกไปอยู่ข้างนอก อยู่ที่ตัวผู้กระทำให้เราโกรธ หรือตกใจ ถ้าไวกว่านั้น ย้อนมาว่าในใจเรารู้สึกอย่างไร
งงไหม
บางคนโกรธเป็นชั่วโมง เป็นสิบนาที ห้านาที
แต่เราโกรธปุ๊บแวบแรกจะรู้สึกที่วัตถุธาตู หรือสสารที่อยู๋นอกตัว ถ้าไวกว่านั้นย้อนกลับมาที่ใจหรือหทัยเรา และถ้าสังเกตดีๆ ความรู้สึกจะไม่เหมือนกัน เหมือนบูมเบอแรงขว้างไปแล็วก็ย้อนกลับมา
ดูจิตเบื้องต้นมากๆ ก่อนที่จะเกิดวิปัสนาขอให้ดูอาการแบบนี้ก่อน แล้วมันจะอยู่นานจะดับเมื่อไรช่างมันก่อน ขอให้เห็นอาการที่มันเกิดกับข้างในเราจริงๆ
จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ผัสสะ มักเกิดกับข้างนอกตัว (ยกเว้นธรรมารมณ์) ความรู้สึกหรือจิตมันจะไปอยู่นอกตัวด้วย แต่จริงๆมันอยู่ที่ข้างในใจเรา พระท่านเรียกอาการที่มันไปรู้สึกข้างนอกว่า จิตส่งออกนอก นั่นแหละ ขอให้วกมาดูในใจจริงๆ
หรือถ้าจะเอาจริงๆ พระท่านก็พูดลงไปอีกว่า อย่าส่งจิตออกนอก
ทันทีที่เกิดอะไรขึ้นจริงๆ มันเกิดในใจเราแหละไอ้อารมณ์โกรธ ตกใจอะไรนั่นหน่ะ แล้วมันไวมาก ปรุงแต่งไปอยู่ข้างนอกทันที ่เช่น โกรธผู้กระทำ สบถ ด่า หงุดหงิดใส่ และอาการเเหล่านี้มันเป็นปลายทางของอาการทางจิต ถ้าไวกว่านั้นให้ย้อนกลับเข้ามาข้างในดูอาการข้างในดีกว่า
ไม่ใช่มันกระทบแล้วออกไปข้างนอกทันที แล้วค่อยมองกลับมา
แต่จริงๆ มันเกิดจากข้างในก่อน แล้วไปนิ่งแช่ข้างนอกไง ถึงบอกว่า อย่าส่งจิดออกนอก หรือให้มันวกกลับเข้ามาดูอีกที
จิตมีสภาวะจำ เกิดในใจ ส่งออกไป ไปอยู่ข้างนอก ค้างเติ่งอย่างนั้น แต่สติอีกตัวดึงกลับมาดู มาดูอาการเดิมที่ค้างอยู่ในใจ ดีกว่าให้ไปค้างอยู่ข้างนอก 5นาทีบ้าง 10 นาทีบ้างหรืออาจเป็นชั่วโมง
ถ้ามันออกไปเร็ว (ส่วนใหญ่เร็วอยู่แล้ว) เรารีบกลับมาดูในใจ อาการเดิมในใจยังทรงอยู่ ก็ดูเปรียบเทียบกันได้ ถ้าไวพอ ไวจริง จะเห็นว่า โกรธข้างนอกกับโกรธข้างใน จิตจะแสดงตัวไม่เหมือนกัน
ถ้าผู้ปฏิบัติชั่วโมงบินสูงก็ไวพอจะเห็นตั้งแต่เกิดข้างใน แต่ถ้าไม่ทันไม่เป็นไร ย้อนกลับมาดูยังทำ นี่อาจเป็นเทคนิคก่อนดูจิต ก่อนดูจิตจริงๆก็ได้ เป็น Pre-Technique
ลองทดลองดู
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย