29 ม.ค. 2021 เวลา 09:29 • สุขภาพ
รู้งี้ไม่ทำดีกว่า .. 10 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสุขภาพ !!
เรื่องดีดี
ด้วยความที่เราไม่รู้ ทำให้ส่วนใหญ่เรามักจะอยู่กับความเชื่อมากกว่าความจริงกัน ความเชื่อบางอย่างก็อาจจะถูกผู้ใหญ่สั่งสอนมา แต่ความเชื่อบางอย่างก็ได้ยินคนอื่นๆพูดต่อๆกันมา ซึ่งบางครั้งเรื่องราวเหล่านั้นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในทางวิทยาศาสตร์ ก็ได้พิสูจน์ไปหลายเรื่องแล้วว่า ความเชื่อที่เราเชื่อต่อๆกันมานั้นมันผิดโดยสิ้นเชิง วันนี้ฟางเลยจะเอาความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับสุขภาพ มาบอกกันค่ะ มาดูกันค่ะว่ามีข้อไหนที่ตรงกับชีวิตของคุณกันบ้าง ?
1. กินน้อย = ผอม
มีหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่จะคิดว่า กินเยอะๆจะอ้วน ให้ทานน้อยๆ หรืออดอาหารเป็นบางมื้อ จะได้ผอมๆ หุ่นดีๆ 😅
1
จริงๆแล้ววิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีหรือถูกต้องนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราขาดสารอาหารแล้ว ยังอาจทำให้รู้สึกหิวโหย จนเกิดโยโย่ตามมาในภายหลังได้อีกด้วยนะคะ
และฟางอยากบอกว่า วิธีที่ควบคุมอาหารที่ถูกต้อง คือ การที่เราควบคุมปริมาณสารอาหารในแต่ละวันให้เหมาะสมตามที่ร่างกายต้องการ ไม่มากเกินไปจนสะสมกลายเป็นความอ้วน ไม่น้อยเกินไปจนร่างกายขาดสารอาหารนั่นเองค่ะ เช่น
วิธีง่ายๆ เลยก็คือ การลดปริมาณอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมัน และทดแทนด้วยอาหารประเภทโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีหุ่นที่ดี สวย เพอร์เฟคแล้วล่ะค่ะ
1
2. กินผลไม้แทนข้าว ช่วยลดความอ้วนได้
ใครบอกว่ากินผลไม้แล้วไม่อ้วน 😅 ฟางจะบอกว่าในผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณแป้ง น้ำตาล วิตามิน และเกลือแร่ ที่แตกต่างกันค่ะ เราควรเลือกกินผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ มีวิตามินสูง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล และลดปริมาณการกินผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน มะม่วง เป็นต้นค่ะ ทราบอย่างนี้แล้วพยายามเลือกทานผลไม้กันด้วยนะคะ
1
3. ปรับสายกระเป๋าให้ยาวๆ จะได้ไม่ปวดหลัง
ฟางเชื่อว่ามีหลายๆคนเลยล่ะที่มักจะติดนิสัยปรับสายกระเป๋าเป้สะพายหลังให้มันยาวๆ ห้อยกระเป๋าลงต่ำๆ 😅 เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกเบาลง ไม่ปวดหลัง
แต่ทราบกันไหมคะว่า จริงๆแล้ว ยิ่งการที่เราทำแบบนี้มันจะยิ่งส่งผลเสียต่อหลัง บ่าและไหล่ของเรามากขึ้น เพราะว่า การปรับสายกระเป๋าให้ยาวขึ้นนั้น จะทำให้น้ำหนักของกระเป๋าทั้งใบไปกดอยู่ที่ตรงไหล่ของเราทั้งหมดนั่นเองค่ะ ใครที่ยังทำแบบนี้อยู่ รีบปรับสายกระเป๋ากันใหม่เลยนะคะ
4. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอไม่เป็นไร เดี๋ยวนอนชดเชยวันอื่นหรือวันหยุดเอาก็ได้
ในช่วงสัปดาห์ที่เราทำงาน ฟางเชื่อว่ามีหลายๆคนบ้างาน ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทำที่ทำงานไม่พอ หอบกลับเอามาทำที่บ้านด้วย จนทำให้นอนดึก นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็คิดว่า ไม่เป็นไรน่ะ เดี๋ยววันหยุดค่อยชดเชย นอนทีเดียวยาวๆ เอาให้เต็มอิ่มไปเลย มีใครเป็นแบบนี้ไหมคะ ?
รู้หรือไม่ว่าการที่ทำแบบนี้ นอกจากจะไม่สามารถชดเชยการนอนหลับไม่พอในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ มันยังทำให้นาฬิกาชีวิตเรารวน สับสน เพราะร่างกายของเราไม่รู้สึกง่วงนอน และไม่รู้ว่าจะรู้สึกตื่นตัวพร้อมลุกจากเตียงตอนไหนดีนั่นเองค่ะ
3
เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือ ควรจะพยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณวันละ 7-8 ชม.ได้ยิ่งดีเลยค่ะ และในวันหยุดก็ควรจะทำให้เป็นเวลาด้วยนะคะ เพื่อให้นาฬิกาชีวิตของเราคงที่ ไม่สับสนและระบบร่างกายของเราไม่รวนนั่นเองค่ะ
5. สารให้ความหวานแทนน้ำตาล จะกินเยอะแค่ไหนก็ได้ ไม่อ้วนแน่นอน !
ใครที่คิดแบบนี้ มาฟังกันเลยค่ะ ! เปลี่ยนความคิดใหม่ด้วยเลยนะคะ 😂 โดยเฉพาะ ใครที่ติดหวาน ชอบเติมน้ำตาลลงไปในอาหารแทบทุกอย่าง หรือชอบดื่มน้ำหวานอร่อยๆ เค้กหรือขนมที่หวานๆ เห็นแล้วทนไม่ได้ต้องซื้อมาลิ้มลอง
รู้หรือไม่คะว่า บางครั้งการที่เราเติมน้ำตาลลงไปในอาหารนั้น มันไม่ได้ทำให้รสชาติของอาหารอร่อยขึ้นมาหรอกค่ะ แต่เรากำลังเกิดอาการ " ติดหวาน " ต่างหาก คือ มีความเคยชินกับการกินอาหาาที่มีรสชาติหวานๆกว่าปกติ จนติดเป็นนิสัย 😰
ซึ่งจริงๆแล้วเราเองก็ทราบดีว่าการทานหวานมากเกินไปมันไม่ดี เลยทำให้บางคนเลือกใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล โดยคิดว่าสารให้ความหวานนั้นไม่มีอันตราย กินเยอะแค่ไหนก็ได้ ไม่อ้วนแน่นอน
1
แต่อันที่จริงแล้ว สารให้ความหวานนั้นมีหลายประเภทนะคะ สารให้ความหวานบางประเภทก็ให้พลังงานได้ แม้จะไม่มากเท่าการกินน้ำตาล แต่ก็ให้พลังงานกับร่างกายของเราอยู่ดี เพราะฉะนั้น การกินสารให้ความหวานแบบไม่บันยะบันยัง กินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็ทำให้เราอ้วนได้เช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นระมัดระวังนะคะ
วิธีการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด คือ พยายามลดการกินหวาน กินหวานให้น้อยลง ปรุงรสชาติให้น้อยลง เมื่อทำบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย เราจะพบว่า ต่อให้ไม่ต้องกินหวานมาก เราก็สามารถอร่อยกับเมนูตรงหน้าได้เช่นกันค่ะ รู้อย่างนี้แล้ว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินกันใหม่เลยนะคะ ^^
6. อาหารตกพื้น ถ้ารีบเก็บก็ยังไม่สกปรก เชื้อโรคยังไม่ทันเกาะ 😅😂
3
อันนี้ตอนเด็กๆฟางก็ทำ คิดว่าเชื้อโรคยังไม่มาเกาะหรอก มันไม่เป็นไร แค่แป๊ปเดียวเอง ! 😂 และฟางเชื่อว่ามีหลายคนก็คิดแบบเดียวกับฟางใช่ไหมคะ?
1
แต่ในความเป็นจริง ทันทีที่อาหารสัมผัสพื้น สิ่งสกปรกก็สัมผัสกับอาหารของเราไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ต่อให้เรานำขึ้นมาเช็ดหรือล้าง ก็อาจจะไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั้งหมดค่ะ สู้ตัดใจแล้วทิ้งไปเพื่อความสบายใจดีกว่านะคะ เดี๋ยวทานเข้าไปแล้วเกิดท้องเสียขึ้นมาอีก ไม่คุ้มกันเลยค่ะ
7. อ่านหนังสือในที่มืด ทำให้สายตาเสีย
มีหลายคนชอบทำแบบนี้ ชอบอ่านในที่มืดๆ แสงน้อยๆ และเคยได้ยินกันไหมคะ ว่า ความเชื่อที่พูดต่อๆกันมาในเรื่องนี้คือ อ่านหนังสื่อในที่มืดๆ จะทำให้เราเสียสายตาได้
แต่จริงๆแล้ว การอ่านหนังสือในที่มืดและในที่มีแสงสว่างน้อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้านั่นเองค่ะ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าส่งผลเสียต่อสายตานะคะ 😊
8. ควรแปรงฟันหลังทานอาหารทันที
ข้อนี้หลายๆคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า ทานอาหารเสร็จแล้วให้รีบแปรงฟันทันที เพราะจะทำให้เศษอาหารไม่เกาะติดฟัน ไม่มีกลิ่นปาก และรักษาความสะอาดในช่องปาก
แต่ในความเป็นจริง คุณรู้ไหมคะว่า การที่เรารีบแปรงฟันทันทีหลังทานอาหารเสร็จ โดยเฉพาะอาหารที่เป็นกรด อย่างเช่นผลไม้ต่างๆที่มีรสออกเปรี้ยวๆ จะทำให้เคลือบฟันของคุณอ่อนตัวลง และทำให้เกิดการสึกกร่อนของฟันลงได้ค่ะ คุณควรรอสักครึ่งชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้น้ำลายชะล้างความเป็นกรดออกไปซะก่อนนั่นเองค่ะ 😆 รู้อย่างนี้แล้ว ทานอาหารเสร็จใหม่ๆ อย่าพึ่งรีบไปแปรงฟันกันนะคะ 😊
2
9. กินดึกๆ จะทำให้อ้วน 😅
1
อันนี้สาวๆ ต้องเคยได้ยินแน่ๆ ที่บอกว่า กินดึกๆ ทำให้เราอ้วน บางคนหิวตอนดึกๆ แต่ก็ไม่อยากกิน เพราะด้วยสาเหตุความเชื่อนี้ คิดว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดความอ้วนนั่นเอง
แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆแล้ว การกินอาหารตอนดึกๆ หรือไม่ว่าเราจะกินอาหารเวลาไหนก็ตาม ไม่ได้ทำให้เราอ้วนนะคะ การที่เราจะอ้วนนั้น มันขึ้นอยู่ที่ปริมาณแคลอรีที่คุณกินเข้าไปนั่นเองค่ะ ถ้าคุณกินไปมากกว่าที่คุณเผาผลาญออก คุณก็จะไม่มีวันผอมแน่นอนค่ะ ทราบอย่างนี้แล้ว ต่อไปสาวๆก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลากันแล้วนะคะ หันไปใส่ใจในการควบคุมอาหารแทนค่ะ
1
10. เราจะป่วย ถ้าอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น
บางคนบอกว่า ถ้าอยู่ในที่อากาศหนาวๆ จะทำให้เราเป็นหวัด เป็นไข้หวัด อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันใหม่นะคะ
1
อันที่จริงแล้ว ไข้หวัด ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอากาศที่หนาวเย็น แต่มันเกิดจากเชื้อไวรัสที่ส่งต่อระหว่างผู้คนค่ะ ส่วนอากาศหนาวจะมีส่วนกระตุ้นแบคทีเรียในร่างกายเรามากกว่า แต่นั่นก็สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอเท่านั้นค่ะ หากใครร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันร่างกายดี ก็อาจจะไม่เป็นอะไรค่ะ
1
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มีข้อไหนที่คุณกำลังทำอยู่บ้าง รึเปล่าคะ?ใครทำข้อไหนอยู่ หรือมีความเชื่อแบบอื่นๆอีก ก็คอมเมนท์มาคุยกันได้นะคะ ^^ ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา เพื่อสุขภาพที่ดีกันค่ะ 😊
🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿
อ้างอิง
🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿
1
โฆษณา