EP.41 สาเหตุจากการเลี้ยงดูที่ทำให้เด็กๆพูดได้ช้า 🤔
“เค้ายังไม่ยอมพูดเลยค่ะ แต่เข้าใจทุกอย่างนะคะ สั่งอะไรทำได้หมด”
“จะเอาอะไรก็ไม่ยอมบอกค่ะ ชี้เอาตลอดเลย”
“ก็ยังไม่พูดอยู่ดีค่ะ หลังๆก็มีจับมือแม่ไปเอาของที่เค้าต้องการเลย”
หรือแสดงพฤติกรรมต่างๆเพื่อบอกความต้องการ แต่ก็ยังไม่ยอมพูดอยู่ดี
ทำไมเด็กไม่ยอมพูด ?
สำหรับเด็กปกติ ที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก หรือดาวน์ซินโดรมนะคะ (เพราะถ้าเป็นกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยการที่เด็กไม่พูดอาจมีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วยมากกว่าปกติ) ก่อนจะดูที่ปัจจัยอื่นๆ อันดับแรกต้องไปถึงการเลี้ยงดูกันก่อนค่ะว่าที่ผ่านมา ที่บ้านมีการเลี้ยงดูแบบไหนกันบ้าง เพราะการเลี้ยงดูมีผลต่อทักษะด้านภาษาของเด็กเป็นอย่างมากค่ะ ไปดูกันดีกว่าการเลี้ยงลูกตามแบบต่างๆที่พูดถึงด้านล่างนี้มีผลกับทักษะทางภาษาของเด็กยังไงบ้าง
- คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ดูแลรู้ใจเด็กเกินไปรึเปล่า ?
การที่พ่อแม่รู้ใจเด็กมากเกินไป แค่เด็กชี้ก็รู้ว่าเด็กต้องการอะไรแล้วก็หยิบมาให้ หรือเอาให้เด็กทันที จะทำให้เด็กรู้สึกว่า ถ้าอยากได้อะไรก็ไม่เห็นจะต้องพูดเลย เพราะแค่ชี้หรือส่งเสียง(ที่ไม่ได้เป็นภาษา) ก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ทำให้เด็กไม่เห็นถึงความสำคัญของการต้องพูดหรือสื่อสาร ดังนั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เด็กไม่พูด
- คุณพ่อคุณแม่เน้นการสื่อสารทางเดียวเป็นหลัก
พอถามว่าคุณพ่อคุณแม่ได้คุยกับเด็กๆบ้างรึเปล่า คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะบอกว่าคุยกับลูกเยอะมาก แล้วเค้าก็เข้าใจทุกอย่าง แต่สังเกตดีๆแล้ว เป็นการสื่อสารทางเดียว เช่น บอกให้ลูกมาหา บอกให้ลูกไปเอาของต่างๆ หรือบอกให้ทำตามคำสั่ง แต่พอถามซ้ำว่าแล้วเวลาคุยกับเด็กส่วนใหญ่เป็นการถามให้ตอบด้วยรึเปล่า คุณพ่อคุณแม่หลายๆครอบครัวก็ปฏิเสธ หลายๆครอบครัวเข้าใจว่าคุยกับเด็กก็เป็นการสื่อสารแล้ว แต่วิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารคือ การสื่อสาร 2 ทาง ต้องมีผู้ถาม และมีผู้ตอบ จะเป็นวิธีที่กระตุ้นทักษาะด้านการสื่อสารได้ดีกว่าคอยพูดให้เด็กฟังอย่างเดียว
- ให้เด็กดูทีวี แท็ปเลต มือถือ ตั้งแต่เล็กๆ
การที่ใช้เด็กดูทีวี ไอแพด ไอโฟน เพราะคิดว่าลูกจะได้นิ่ง ไม่ดื้อไม่ซนระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำธุระ แต่การให้เด็กดูสื่อเหล่านี้เป็นการกระตุ้นทักษะด้านภาษาทางเดียว คือให้เด็กได้ยิน แต่เด็กไม่ได้มีการสื่อสารหรือตอบสนองกับใคร ดังนั้นก็เป็นเหตุผลให้เด็กไม่เห็นความสำคัญของการสื่อสาร
- ไม่ได้พูดคุยกับเด็กเพราะพ่อแม่ต้องทำงาน
การเรียนรู้ของเด็กเกิดได้จาก ตาดู หูฟัง มือสัมผัส อยากให้เด็กพูดได้ แต่เราไม่ได้คุยกับเด็ก เด็กก็จะไม่ได้เรียนรู้ ดังนั้นจึงทำให้เด็กพูดไม่ได้ บางท่านคิดว่าเดี๋ยวถ้าเค้าโตขึ้นจะพูดได้เอง ตอนนี้ไม่กระตุ้นก็ไม่เป็นไร.. เป็นความเข้าใจที่ผิดนะคะ ถ้าเด็กไม่ได้เรียนรู้เลยถึงโตขึ้นก็ยังคงพูดไม่ได้อยู่ดี หรือถ้าพูดได้ก็จะมีคำศัพท์ที่ค่อนข้างน้อย ไม่เหมาะสมกับช่วงวัย ดังนั้นพยายามชวนเด็กพูดคุยเยอะๆนะคะ ให้เค้าได้ยินได้ฟัง ได้สื่อสาร นอกจากเป็นการกระตุ้นทักษะด้านภาษาแล้วยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวด้วยค่ะ
- ปล่อยเด็กวิ่งเล่น ให้ทำกิจกรรมเน้นกล้ามเนื้อมัดใหญ่เป็นหลัก
จะได้ยินมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วนะคะ ว่าถ้าภาษาเร็วกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะช้า และถ้าภาษาช้ากล้ามเนื้อมัดใหญ่จะเร็ว เพราะเวลาที่เราปล่อยเด็กวิ่งเล่นทำให้เด็กๆไม่ได้ฝึกทักษะด้านภาษา การที่เค้าจะได้ดู flash card ก็น้อยลงไปด้วย หรือแม้แต่โอกาสที่เด็กๆที่จะได้พูดคุยสื่อสารกับคนอื่นก็เช่นกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่แข็งแรงกว่าวัยจึงมีพัฒนาการด้านภาษาที่ช้า
- มีพี่เลี้ยงที่เป็นต่างชาติมาช่วยดูแล
กรณีนี้ขออ้างอิงจากประสบการณ์จริงที่เจอค่ะ ตอนประเมินพัฒนาการ เด็กวัย 1.6ปี มีผลการประเมินว่าสงสัยล่าช้าเรื่องของภาษา จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองก็คือผู้ปกครองทำงาน และจ้างพี่เลี้ยงชาวพม่ามาดูแล ด้วยความที่พี่เลี้ยงพูดไม่ชัดก็ไม่ค่อยยอมพูดกับเด็ก เวลาเล่นด้วยกันก็จะเล่นรถ พี่เลี้ยงส่งเสียงบรื๊นๆ น้องก็ส่งเสียงได้แค่บรื๊นๆ ไม่มีคำศัพท์ที่มีความหมาย ก็เป็นอีกสาเหตุที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กล่าช้าด้านภาษา
ปัจจัยอื่นๆนอกเหนือจากการเลี้ยงดู
- มีข่วงที่เด็กต้องนอนโรงพยาบาลนานๆ
เหตุผลนี้ก็คล้ายกับการที่เด็กวิ่งเล่น แต่ตรงข้ามกันคือในกรณีนี้เป็นการที่เด็กต้องนอนนานๆ ที่ทำให้เด็กไม่ได้รับการกระตุ้นหรือส่งเสริมทักษะด้านภาษาอย่างเต็มที่
- เด็กมีความบกพร่องทางการได้ยิน
ทำให้ไม่ได้ยินเสียง และตอบสนองทักษะทางภาษาได้ช้า ถ้าเรียกชื่อเด็กแล้ว ยังไม่หันหาเสียงเรียก หรือดูเหมือนไม่ค่อยได้ยินเสียงต่างๆ อาจลองไปตรวจการได้ยินดูได้นะคะ
ลองดูนะคะว่าที่เด็กๆของเราพูดได้ช้าเป็นเพราะสาเหตุที่ได้กล่าวมาข้างบนรึเปล่า ถ้าใช่ ค่อยๆลองปรับเปลี่ยนวิธีการดูก็ได้ค่ะ อาจจะใช้เวลานานนิดหน่อยในช่วงแรก แต่ถ้าปรับได้แล้วรับรองว่าลูกๆพูดคล่อง พูดได้เก่งจนคุณพ่อคุณแม่อยากให้หยุดก็เบรคไม่ได้เลยล่ะค่ะ 🤣 แต่ถ้าพยายามทุกวิถีทางแล้วยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องมีการพบแพทย์ และมีแนวทางการฝึกพูดกับผู้เชี่ยวชาญต่อไปค่ะ 💚
WELL KIDS 👶🏻
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
