30 ม.ค. 2021 เวลา 12:33 • การศึกษา
มหาวิทยาลัยจะไม่จำเป็นอีกต่อไปในยุค Digital Disruption ในมุมมองของ Google
11
เพื่อช่วยให้หลายๆคนได้รับโอกาสและมีความก้าวหน้าในอาชีพมากขึ้น Google บริษัท Search Engine ระดับโลกได้สร้างใบรับรองผู้เชี่ยวชาญในอาชีพแบบใหม่ที่สามารถศึกษาและเรียนจบได้ภายใน 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องเรียนถึง 4 ปี เพื่อให้ได้วุฒิปริญญาตรี
 
สำหรับการศึกษาในมหาวิทยาลัย ปัญหาในตอนนี้คือ การสมัครเรียนลดลง เนื้อหาหลักสูตรที่ไม่ทันสมัย ไม่สามารถเรียนทางไกลได้ และค่าใช้จ่ายสูง การเคลื่อนไหวของ Google และเหล่านายจ้างในครั้งนี้จึงอาจเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาในยุคดิจิทัล
38
ใบรับรองผู้เชี่ยวชาญในอาชีพแบบใหม่ของ Google และ Microsoft
5
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2020 Google ได้เปิดตัวหลักสูตรใหม่สำหรับผู้เชี่ยวชาญในอาชีพในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดการโครงการ และการออกแบบ UX (User eXperience) บน Coursera (แพลตฟอร์มสำหรับการเรียนออนไลน์) โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนที่ 49 ดอลลาร์ แต่ Google เองจะมอบทุนการศึกษาจำนวน 100,000 ทุน
10
แน่นอนว่า Google เองถือเอาใบรับรองผู้เชี่ยวชาญในอาชีพแบบใหม่เหล่านี้เทียบเท่ากับปริญญาตรี สำหรับการจ้างงานของ Google เองด้วย Google ระบุว่าผู้ผ่านหลักสูตรการจัดการโครงการมีโอกาสได้รับค่าจ้างสูงถึง 93,000 ดอลลาร์ต่อปี และกว่า 80% ของผู้เรียนที่ผ่านการรับรองผู้เชี่ยวชาญด้าน IT Support จะได้งานใหม่หรือได้รับเงินเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะสำเร็จการศึกษาใน 3-6 เดือน และไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็เป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจในการทำงานกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
19
สองสัปดาห์ก่อนการประกาศของ Google ทาง Microsoft ได้เปิดตัวโครงการเพื่อยกระดับทักษะวิชาชีพของผู้คนกว่า 25 ล้านคนโดยมีเป้าหมายคล้ายกับ Google ในการสนับสนุนเกี่ยวกับ "หลักสูตรเพื่อให้เข้าถึงทักษะดิจิทัลได้โดยง่าย สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาว่างงานรวมถึงผู้ที่มีรายได้ต่ำ ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยที่ด้อยโอกาส” ทรัพยากรและแหล่งข้อมูลจะรวบรวมจาก LinkedIn, GitHub และตัว Microsoft เองเพื่อให้การรับรองผู้เชี่ยวชาญในอาชีพจาก Microsoft พร้อมกับเงินช่วยเหลือ 20 ล้านดอลลาร์
8
ช่องทางออนไลน์คงไม่ใช่คำตอบเดียว แต่รวมถึงเนื้อหาด้วย
5
Coursera ได้ให้บริการหลักสูตรการเรียนการสอนแบบออนไลน์กว่า 4,500 หลักสูตรร่วมกับพันธมิตรมหาวิทยาลัยถึง 160 แห่ง เพราะแน่นอนว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษา (การศึกษาในระดับหลังมัธยมปลาย เช่น การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยหรือการศึกษาระดับวิชาชีพขั้นสูง) ย่อมต้องการแผนระยะยาวทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, การเชื่อมต่อ, และการผลิตคู่มือหลักสูตรเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบการศึกษาในยุคใหม่นี้
7
จากการคำนวณของ Microsoft คาดว่าการว่างงานทั่วโลกในปี 2020 อาจมีถึงหนึ่งในสี่ของพันล้านคนเนื่องจากมีระบบเข้ามาแทนที่และการหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 แต่ข่าวดีคือพวกเขายังคาดการณ์ว่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นอีก 149 ล้านตำแหน่งภายใน 5 ปีข้างหน้า อย่างเช่นงานในกลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล, ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์, และการปกป้องความเป็นส่วนตัว
6
การเติบโตของ Coursera เป็นหลักฐานว่านายจ้างไม่สามารถรอแรงงานฝีมือได้อีกต่อไป ธุรกิจของ Coursera มีรายได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์มาจากหลักสูตรการศึกษาที่ต่อเนื่องสำหรับบริษัทกว่า 2,500 แห่งและเติบโตขึ้น 70% ทุกปี
11
แนวโน้มการสมัครเรียนตามมหาลัยกำลังลดลง
5
ในปีที่ผ่านมาการสมัครเรียนในวิทยาลัยต่างๆ ลดลงถึง 20% ซึ่งส่งผลให้ Harvard กำลังเผชิญกับรายรับที่ลดลงกว่า
415 ล้านดอลลาร์ในปีนี้และคาดว่าจะลดลงถึง 715 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เมื่อปลายปีที่แล้วผู้สมัครเรียนทั้งหมดในสหรัฐฯ มีเพียง 18 ล้านคน ซึ่งลดลงถึง 2 ล้านคนจากจุดสูงสุดในปี 2011 และในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาการสมัครเรียนประเทศลดลงประมาณ 11% ในทุกภาคส่วนทั้งโรงเรียน และวิทยาลัย
6
การสำรวจในเดือนเมษายน 2020 พบว่า 10% ของผู้เรียนจบมัธยมปลายจะไม่เรียนต่อและอีก 41% มีแนวโน้มที่จะไม่สมัครเรียนในวิทยาลัย
3
Google หวังว่าหลักสูตรการรับรองทั้งหลายของพวกเขาที่ค่าสมัครเพียง 300 ดอลลาร์อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาในการเข้าถึงการศึกษาที่ไม่เท่าเทียมกันในบางสาขา เพราะแม้ว่าปริญญาในวิทยาลัยจะมีมูลค่ามากมาย แต่ทุกคนก็ไม่สามารถเข้าถึงได้
3
Microsoft เองก็มองว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ การขาดความเท่าเทียมในการฝึกอบรมรวมถึงโอกาสสำหรับประชากรที่ด้อยโอกาสและการลดลงของการลงทุนของนายจ้างในแง่การฝึกอบรมในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Microsoft การฝึกอบรมนอกสถานที่เป็นที่นิยมมากกว่าถึง 2 เท่าในหมู่พนักงานที่มีบทบาทและมีทักษะสูงอยู่แล้ว ทำให้ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกปลดออกจากงานมากขึ้น
8
ปฏิรูปการศึกษา - ถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำเมื่อไร?
9
ถึงเวลาแล้วที่การศึกษาในระดับอุดมศึกษาจะต้องรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเตรียมความพร้อมของนักเรียน เพื่อให้เป็นแรงงานที่มีความพร้อมมากขึ้นในอนาคต
6
ปัญหาหนึ่งของหลักสูตรแบบเดิมๆ คือเมื่อได้รับปริญญาไปตลาดก็อาจเปลี่ยนไปแล้ว การพัฒนาหลักสูตรที่ช้าเกินไปจะทำให้ผู้เรียนไม่พร้อมกับความต้องการของนายจ้าง
7
ผู้เรียนต้องใช้เวลาถึงสี่ปีในชั้นเรียนเพื่อให้ได้ปริญญาตรี แต่กลับต้องพบว่าเทคโนโลยีและตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือเปล่า?
11
ในโลกของเทคโนโลยี มีตัวอย่างผู้นำที่มีชื่อเสียงมากมายที่เรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จอยู่หลายคน บุคคลที่เราต่างคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs, Bill Gates, Michael Dell, และ Mark Zuckerberg นอกจากเทคโนโลยีแล้วยังมี Oprah, John Mackey CEO ของ Whole Foods, Ralph Lauren และ Wolfgang Puck โดย Puck ลาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 14 ปีเพื่อมาเป็นเด็กฝึกงานทำอาหารที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
7
จากชื่อบุคคลเหล่านี้ถือเป็นตัวอย่างได้ดีว่าการไม่มีปริญญาจากมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อตำแหน่งที่มีทักษะและโอกาสทางเศรษฐกิจอีกต่อไป ในรายงานของ Google เกี่ยวกับหลักสูตรการรับรองด้านไอทีพบว่า 61% ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยทั่วไปจะจบหลักสูตรภายในหกเดือนและได้รับค่าจ้างเฉลี่ยต่อปี 54,760 ดอลลาร์
5
กล่าวคือวุฒิการศึกษาปริญญาตรีที่มีคุณค่าและมีน้ำหนักในการสมัครงานบริษัท แต่ Google กลับส่งสัญญาณว่าใบรับรองมูลค่า 300 ดอลลาร์เหล่านี้กำลังจะมีค่าเท่ากับใบปริญญา
6
อุตสาหกรรมต่าง ๆ อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Disruption) และการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ตั้งแต่การค้าปลีกไปจนถึงการดูแลสุขภาพ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่การศึกษาระดับอุดมศึกษาจะต้องจัดการกับ Digital Disruption และเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนเพื่อความพร้อมของแรงงานและตลาดแรงงานในอนาคต
4
มีบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายบริษัทอย่างเช่น มุมมองการรับคนเข้าทำงานของ Elon Musk ที่มองที่ความสามารถของตัวบุคคล หรือจากผลงานมากกว่า ไม่สนใจใบปริญญาหรือเกรดเฉลี่ยอีกต่อไป
10
คงถึงเวลาที่ต้องทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาปริญญาตรีที่ใช้เวลาถึงสี่ปี ว่าจะตอบสนองทันต่อยุค Digital Disruption หรือไม่
โฆษณา