31 ม.ค. 2021 เวลา 02:00 • สิ่งแวดล้อม
ANIMAL: ไม่มีใครต้องการหัวนกเงือก เท่าตัวนกเงือกเอง ชวนดูการเร่งผลักดันให้นกชนหิน สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต เป็นสัตว์ป่าสงวน ลำดับที่ 20 ของประเทศไทย #Saveนกชนหิน
นกชนหิน Rhinoplax vigil ถือเป็นสัตว์โบราณและเชื่อกันว่ามีความเก่าแก่ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของนกเงือกแห่งเอเชีย ที่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน อาศัยในป่าดงดิบ และกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทางตอนใต้ของไทย บางส่วนของพม่า เรื่อยไปจนถึงมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
นกชนหินเป็นนกที่มีลักษณะแปลกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง มีจุดเด่นอยู่ตรงโหนกที่ตันต่างจากนกเงือกชนิดอื่น และนั่นเองทำให้ถูกมนุษย์ตีราคาอวัยวะชิ้นนี้ไม่ต่างจากงาช้าง โดยให้ชื่อว่า “งาช้างสีเลือด” กลายเป็นสิ่งดึงดูดใจผู้มีความเชื่อผิดๆ นิยมบูชางาเป็นวัตถุมงคลแห่งความมั่งคั่ง
ช่วงที่ผ่านมามีการพบการค้านกเงือกอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะนกชนหิน Rhinoplax vigil ทางองค์กร TRAFFIC จึงได้ทำการสำรวจติดตามและศึกษา เพื่อประเมินและประมาณขนาดของการค้านกชนหิน รวมถึงชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ของนกเงือกชนิดพันธุ์อื่นๆ บนช่องทางสื่อสังคมออนไลน์หรือ เฟซบุ๊ก ทั้งในกลุ่มเปิดและกลุ่มปิดในประเทศไทย โดยทุกกลุ่มเป็นกลุ่มที่เสนอขายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าต่างๆ การค้าชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ จากนกเงือกนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
สำหรับประเทศไทย โดยข้อมูลที่ TRAFFIC พบจากการสำรวจติดตามในช่วงปี 2557-2562 มีการโพสต์เสนอขายกว่า 236 โพสต์ ที่เสนอขายชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากนกเงือกกว่า 546 ชิ้น โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชิ้นส่วนของนกชนหินไม่ว่าจะเป็นโหนกหัว จี้ห้อยคอ แหวน สร้อยคอ กำไลข้อมือ นกสตาฟ และอื่นๆ
ปัจจุบัน นกชนหินมีสถานภาพด้านการอนุรักษ์ว่า "ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง "CriticalEndangeredSpecies" จากการจัดสถานภาพของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ของสหภาพว่า ด้วยการอนุรักษ์สากล/ IUCN จำนวนนกชนหินแทบจะหมดไปจาก บอร์เนียว อินโดนีเซีย และพื้นที่อื่นๆทีเคยพบชุกชุม
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้สถานภาพของนกชนหิน ซึ่งเป็น 1 ใน 13 ชนิดของกลุ่มนกเงือกในไทย คาดว่าจะมีประชากรประมาณ 50 - 80 คู่ โดยพบการกระจายพันธุ์ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงป่าฮาลาบาลา จ.นราธิวาส ดังนั้นความต้องการทางตลาดจึงพุ่งเป้ามาที่นกชนหินบ้านเรา ขณะนี้เริ่มมีขบวนการล่านกชนหินอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ บูโดสุไหงปาดี นราธิวาส กำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่เพียงน้อยนิด อาจไม่สามารถป้องปรามภัยคุกคามนี้ได้ ทำให้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงเป็นใยนกชนหินว่าจะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้า
จึงเป็นที่มาของการรณรงค์ “สนับสนุนให้นกชนหินเป็นสัตว์สงวนลำดับที่ 20 ของประเทศไทย” และมีการร่วมลงชื่อผ่าน Change.org และมีผู้เข้าร่วมลงชื่อว่า 30,315 คน (ข้อมูลวันที่ 24 มกราคม 2564) โดยเครือข่ายอนุรักษ์ และมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร
ซึ่งได้เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดให้นกชนหินได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าสงวนตัวที่ 20 ของประเทศไทย และมีแผนการจัดการ อนุรักษ์ ปกป้องนกชนหินให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ ร่วมถึงมีแนวทางที่ชัดเจนต่อการ ฟื้นฟูประชากรนกชนหินให้มีจำนวนมากขึ้น
และในวันที่ 4 มีนาคม 2563 เครือข่ายอนุรักษ์ได้ยื่นเอกสารประกอบเสนอนกชนหินเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 20 ของไทย แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ โดยปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติฯ กำลังรวบรวมข้อมูลที่ได้จากพื้นที่ เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าต่อไป
ปัจจุบันสัตว์ป่าหลากหลายชนิดทั้งบนบก และในน้ำกำลังถูกฆ่า และล่าอย่างมหาศาล เพื่อความสุข ความสำราญของเรา จนกำลังลดจำนวนอย่างมากในขณะนี้ ประกอบกับภัยคุกคามอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า มลพิษ สารพิษ ที่ทำให้สัตว์ป่ามีจำนวนลดลงอีกด้วย
ซึ่งนกชนหินเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ เราทุกคนสามารถช่วยกันอนุรักษ์ได้โดยการผลักดันให้มีการอนุรักษ์ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ล่า ไม่ซื้อ ไม่สนับสนุนสินค้าที่เป็นการทำลายสัตว์ป่า และสอดส่องพฤติกรรมดังกล่าว
เพื่อให้สัตว์ป่าอยู่คู่กับโลกของเราไปตราบนาน
ไม่มีใครต้องการหัวนกเงือก เท่าตัวนกเงือกเอง
โฆษณา