บทบาทของทหารหญิงจีนกับสงครามต่อต้านญี่ปุ่น
หมายเหตุ : ทหารหญิงของกองทัพพรรคก๊กมินตั๋ง ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันมากที่สุดอาจจะเป็นสายลับหญิงก็ได้ จริงๆ แล้ว สายลับหญิงจากก๊กมินตั๋งเป็นนักเรียนในโรงเรียนทหาร หลังจากได้ฝึกมาทุกอย่างจากโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น งานเอกสาร การลอบสังหาร และการค้นหาข้อมูล บางคนถูกส่งไปยังหน่วยงานทางทหาร พวกเธอมักจะทํางานเกี่ยวกับการแปลเอกสาร เลขานุการ ขณะที่งานหลักก็คือเฝ้าระวังเจ้าหน้าที่หลักในหน่วยงานนั้นๆ อย่างไรก็ตาม มีทหารหญิงจำนวนมากสมควรได้รับการยกย่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่นทหารหญิงจีนได้มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนั้นด้วย
ตามประวัติศาสตร์ ทหารหญิงในกองทัพก๊กมินตั๋ง ในช่วงแรกของสงครามทางตอนเหนือ ฤดูหนาวปี 1926 โรงเรียนทหารหวางพู เมืองหวู่ฮั่นได้รับสมัครทหารหญิง นี่เป็นอีกรอบหนึ่งที่มีทหารหญิง หลังจากที่เคยมีทหารหญิงมาครั้งหนึ่งแล้วในสมัยกบฏไท่ผิงเทียน รับสมัครทหารหญิงมาได้ 213 นาย กลายเป็นกลุ่มพิเศษที่โดดเด่นที่สุดในเวลานั้น โจเซฟ สตาลินแห่งกรุงมอสโก ยังขอร่วมถ่ายรูปกับพวกเธอเพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเอง มีไม่กี่คนที่รู้ว่า ผู้หญิงสามารถเป็นทหารได้หรือไม่ กวางโจวในเวลานั้น มีการถกเถียงกันครั้งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีไม่กี่คนที่จําได้ เกี่ยวกับทหารหญิงกลุ่มนี้
ในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ทหารหญิงจีนต้องทํางานทั้งกลางวันและกลางคืน
ในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ทหารหญิงจีนต้องทํางานทั้งกลางวันและกลางคืน
ผู้หญิงกลุ่มนี้มีหัวคิดที่ทันสมัย เมื่อเทียบกับผู้หญิงในสมัยก่อน ทหารหญิงเหล่านี้เข้าร่วมกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์ หลังจากเรียนจบแล้ว เช่น จ้าวอี้หมาน วีรสตรีต่อต้านญี่ปุ่น หูจุน นายพลหญิงแห่งกองทัพแดง หยิวซี ผู้เข้าร่วมจลาจลกวางโจว
ถนนอูชางในสมัยนั้น มักจะเห็นกลุ่มคนตัดผมสั้น แต่งกายคล้ายทหาร รัดเข็มขัด และเดินด้วยความยากลําบาก พวกเธอเป็นทหารหญิงในโรงเรียนทหารรุ่นแรกของจีน โดยทั่วไปแล้ว เด็กสาวชาวจีนจะขี้อาย น้อยคนที่จะได้ไปโรงเรียน สำหรับผู้หญิงการการเป็นทหารก็ฝึกหนักพอๆ กับทหารชาย เช่น ปีนป่าย ตีลังกา การใช้มีดปลายแหลม ซึ่งเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง ยินไต้อิงยกย่องพวกเธอว่า "ทหารหญิงจีนเป็นผู้นําและแบบอย่างของการปลดปล่อยผู้หญิงจีน"
หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นกองทัพของเจียงไคเชก หรือกองทัพของขุนศึก ได้นํายุทโธปกรณ์ทางทหารของยุโรป และเริ่มเลียนแบบระบบของยุโรปอเมริกา รับสมัครทหารหญิง โดยเฉพาะในช่วงสงคราม เนื่องจากแหล่งกําลังพลไม่เพียงพอ รัฐบาลก๊กมินตั๋งขยายการรับสมัครทหารหญิงเป็นจํานวนมาก รณรงค์ให้เยาวชนมาเป็นทหาร มีหญิงสาวชาวจีนจํานวนมาก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพหญิงจีน
จากเอกสารทางประวัติศาสตร์ของเมืองนานกิงที่ยังเหลืออยู่ ระหว่างปี ค.ศ. 1944 ถึง 1945 มีเยาวชนหญิงจํานวนหลายหมื่นคน เดินเข้ามาเป็นทหารหญิง ในกองกําลังของพรรคก๊กมินตั๋งหลายแห่ง โดยเฉพาะหน่วยของที่ปรึกษาทางทหาร ได้จำนวนทหารหญิงตามสัดส่วน บางแห่งอาจมากถึง 10% เลยทีเดียว วรรณกรรมและภาพยนตร์ในยุคนั้น ก็มีทหารหญิงปรากฏอยู่ เจียงชิงเคยแสดงหนังเกี่ยวกับทหารหญิง 2 เรื่องในทศวรรษ 1930 เรื่องแรกคือ "Spirit of Freedom" บอกเล่าเรื่องราวของทหารหญิงกองกําลังฝ่ายเหนือ อีกเรื่องคือ "ทหารหญิงที่ถูกยิง" หลังจากนั้น นักข่าวชื่อดัง เสี่ยวก้าน เคยเขียนในบทความว่า "หลังจากสงครามต่อต้านญี่ปุ่นนี้ ทหารหญิงก็กลายเป็นเรื่องปกติในประเทศจีน"
ในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่น กองกําลังทหารหญิงจีนต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น เพื่อปกป้องแผ่นดินบ้านเกิด เพื่อความอยู่รอดของชนรุ่นต่อๆ ไป การไปแนวหน้า สละชีวิต ร่วมรักษาประเทศ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศชาติ พวกเธอพร้อมหลั่งเลือดท่ามกลางไฟสงคราม พวกเธอขึ้นภูเขามีด ลงทะเลเพลิง ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งของวีรสตรี บันทึกประวัติการต่อสู้ที่โหดร้ายและสง่างามของชนชาติจีนถูกเขียนขึ้น และภาพที่หายากของทหารหญิงจีนรุ่นแรก นำมาให้ชมกัน
แปลและเรียบเรียงจาก http://www.qulishi.com/news/201605/106210.html
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
