31 ม.ค. 2021 เวลา 02:28 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
"ทำไมหลอดไฟให้ความสว่างได้"🧐
'หลอดไฟ' ชื่อนี้มีที่มาจากวัสดุที่ให้เเสงสว่างภายในหลอด ขดลวดเส้นบางๆ ระหว่างขดลวดเส้นเล็กๆ สองเส้นจะส่องสว่างทันทีที่เราเปิดสวิตช์ ขดลวดนี้จะไม่ไหม้เเม้จะทำจากลวดบางๆ เพียงเส้นเดียวเท่านั้น เเถมยังให้ความสว่างได้หลายชั่วโมงอีกด้วย
เมื่อหมุนหลอดไฟเข้ากับเบ้าหลอด
เเล้วกดสวิตช์ กระเเสไฟฟ้าจะไหลเข้าสู่หลอดไฟทันที เราจึงไม่ควรสัมผัสเบ้าหลอดเป็นอันขาด เพราะเสี่ยงต่อการถูกไฟดูด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
กระเเสไฟฟ้าจะไหลผ่านขดลวดภายในหลอดไฟ โดยปกติกระเเสไฟฟ้าจะไหลผ่านสายไฟซึ่งมีขนาดใหญ่กว่านี้มากเพราะกระเเสไฟจะทำให้สายไฟเกิดความร้อน สายไฟที่บางเกินไปจะทนความร้อนไม่ไหวเเละไหม้ในเวลาอันรวดเร็ว เเต่ขดลวดในหลอดไฟเป็นเส้นบางมากเพื่อให้กระเเสไฟไหลผ่านได้ง่าย มันจึงร้อนจัดเเละเริ่มติดไฟ เเต่ที่มันไม่ไหม้เป็นเพราะทำจากเเร่วุลเเฟรมหรือทังสเตน ซึ่งเป็นโลหะที่ให้ความร้อนสูงโดยไม่ลุกไหม้
เพื่อให้ลวดวุลเเฟรมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เเละช่วยให้เเสงที่หลอดไฟผลิตสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟจึงไม่มีอากาศ เเต่บรรจุก๊าซ ซึ่งส่วนมากจะเป็น "ก๊าซอาร์กอน" ประโยชน์ของก๊าซอาร์กอนคือให้เเสงสว่างเมื่อได้รับความร้อนโดยที่ไม่ติดไฟ ถ้ามีอากาศเข้าไปในหลอดไฟ ออกซิเจนจะเข้าไปจับขดลวด ทำให้ขดลวดลุกไหม้ได้ อาร์กอนจึงช่วยป้องกันไม่ให้ขดลวดไหม้
เเต่หลอดไฟก็มีอายุการใช้งานเช่นกัน ขดลวดวุลเเฟรมที่ได้รับความร้อนอย่างต่อเนื่องจะค่อยๆ ระเหิดไปทีละน้อย ไส้หลอดขาดจึงเกิดการที่ขดลวดบางลงจนไม่สามารถทนความร้อนสูงได้เเละขาดในที่สุด
หลอดไฟเเต่ละขนาดใช้กำลังไฟเเตกต่างกัน ที่ใช้กันเเพร่หลายคือขนาด 40 วัตต์ 60 วัตต์ เเละ 100 วัตต์ จำนวนวัตต์เป็นตัวบอกความสว่างของหลอดไฟ ขดลวดวุลเเฟรมในหลวดไฟขนาด 100 วัตต์ จะให้เเสงสว่างมากกว่าหลอดไฟขนาด 40 วัตต์ เเต่ก็กินไฟมากกว่าเช่นกัน
ตอบโดย ;เบิร์นฮาร์ด ชูลซ์
😊หวังว่าข้อมูลที่หามานี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
โฆษณา