วันนี้ขอมาแชร์
เหตุที่ร้านกาแฟ ผุดออก เป็นดอกเห็ด
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่กลับมาเสพกาแฟพอถึงเวลาก็มักจะออกตามหาร้านกาแฟที่มันเด็ดๆ ตอนนี้ กลับกลายเป็นผู้เสพด้วยการทำดื่มเอง
ผมเลือกใช้เมล็ดที่มีคุณภาพ ที่คำนวนดูแล้วตกกิโลกรัมละ 1,000 (เพราะเป็นเมล็ดที่คั่วมาแล้ว ห่อละ 250 บาท ได้ 250 กรัม)
***การคำนวนต่อไปนี้ขอคิดง่ายๆ นะ
ทางร้านปริมาณทั่วๆ ไป การชงก็จะใช้เมล็ดประมาณ 10-20 กรัม ในการนำมาบด แล้วชงให้เราดื่มกัน ตกแก้วนึงเฉลี่ยก็ประมาณ 40-60 บาท/แก้ว หรืออาจแพงกว่านั้น
เน้นว่าเป็นเฉพาะเมนูกาแฟดำ หรือที่เรียกกันว่า อเมริกาโน่ (จริงๆ แล้วมันคือ เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต แล้วเติมน้ำเพิ่ม)
ถ้าคิดแบบตัวเลขกลมๆ ขอเอาเป็นช็อต ละ 10 กรัม และ แก้วละ 50 บาท
ถ้าเราเอากาแฟกิโลกรัมละ
1,000 มาคิด ก็จะได้
1,000(กรัม) ÷ 10(กรัม) = 100 แก้ว
เอา
100(แก้ว) x 50(บาท)= 5,000(บาท)
**อันนี้ใช้กาแฟแบบแพงนะครับ
**และใช้ราคาต่อแก้วที่กลางๆ
**แต่ไม่หักค่าแก้ว ค่าน้ำแข็งหรือค่าอื่นๆ
จะเห็นได้ว่าลงทุนไป 1,000 บาท
เพื่อได้เมล็ดกาแฟมาขายได้ 100 แก้ว
จะได้เงิน 5,000 บาท ถ้าหักเอาต้นทุนออก กำไรก็จะได้กิโลกรัมละ 4,000 บาทเลยทีเดียว
อันนี้เป็นเมล็ดแบบแพงนะครับแล้วถ้านำเมล็ดที่ดิบมาคั่วเองล่ะ ก็จะทำให้ลดต้นทุนลงไปอีก และควบคุมคุณภาพของเมล็ดเองได้อีก
มองออกยังครับว่าทำไมยุคนี้มีร้านกาแฟผุดออกเป็นดอกเห็ด
ผมเห็นแบบนี้แล้วเลยขอทำดื่มเองเพื่อประหยัดเงินในการจ่ายค่าการตลาดต่างๆ บอกเลยครับว่าประหยัดไปเยอะมากแต่ต้องเป็นนักเสพกาแฟจริงๆ นะ
ไม่ใช่เป็นนักท่องเที่ยว
ไม่งั้นเบื่อตายนั่งชงดื่มคนเดียว😆
การคำนวนอาจจะคร่าวๆ ผิดพลาดประการใดขออภัย🙏🙏🙏
ใครมีประสบการ์ดีๆ เรื่องกาแฟก็คอมเม้นใต้โพสแชร์ให้รู้กันได้นะครับ👇👇
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
