1 ก.พ. 2021 เวลา 00:03 • ดนตรี เพลง
ขิมคือเครื่องดนตรีไทยหรือไม่
หลายคนในปัจจุบันอาจจะเคยสัมผัสเสียงของขิม ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านทางสื่อต่างๆ ที่มักจะมีเสียงขิมบรรเลงเพลงไทยๆ ทำให้เรารู้ได้ว่า อ้อ นี่เสียงดนตรีไทย
ความจริงแล้วขิมไม่ใช่ของไทยมาตั้งแต่ต้น แต่ถูกนำมาปรับและปรุงจนกลายมาเป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงผสมอยู่ในวงดนตรีไทย ถึงแม้จะถูกจำกัดให้อยู่ในเฉพาะพวกเครื่องสาย คือ วงเครื่องสายผสมขิม
ขิมเป็นเครื่องสายที่เกิดเสียงจากการตี มีต้นกำเนิดมาจากทางประเทศตะวันออกกลางในคือแถบเปอร์เซีย ซึ่งเป็นอารยธรรมที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในโลก เครื่องดนตรีชนิดนี้ คือ Dulcimer ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ piano ในฝั่งตะวันตก และเป็น ขิม ในฝั่งตะวันออก
Dulcimer เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะเป็นกล่องไม้ มีสายผาดผ่านและใช้ไม้ตี การเดินทางของขิมนั้นเริ่มมีการเดินทางข้ามมายังแถบทวีปเอเชียผ่านการเส้นทางการค้าทางสายไหมมุ่งเข้าสู่ สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งทุกวันนี้ขิมได้พัฒนากลไกที่ซับซ้อนขึ้นเป็นหยางฉินที่มีสายที่มากมายหลายเสียง และขนาดตัวที่ใหญ่โตกว่าขิมดั้งเดิม ซึ่งขิมลักษณะดั้งเดิมนี้ยังคงพบการบรรเลงอยู่ในการแสดงอุปรากรจีน หรือที่เราเรียกกันว่า งิ้ว นั่นเอง
แล้วขิมเข้ามาในประเทศไทยตอนไหน
คำตอบ คือ เราไม่สามารถทราบแน่ชัดว่ามาตอนไหน แต่ช่วงเวลานั้นประมาณต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ต้องมีการเล่นเครื่องดนตรีที่ชาวจีนนำติดตัวเข้ามาด้วยแล้ว อย่างเช่น ซอสองสาย ที่เราเรียกว่าเอ้อหู และขิม ที่มามีแน่ชัดในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งครูมนตรี ตราโมท ได้นำขิมเข้ามาบรรเลงถวาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเก้าเจ้าอยู่หัว
ช่วงที่สยามมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่ทำการค้าขายทางเรือสำเภาตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการลงหลักปักฐานอพยพมาใช้ชีวิตอยู่ในระยะยาวเพื่อเป็นฐานที่มั่นในการรับส่งสินค้า วิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมของชาวจีนนั้นเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษสั่งสมและสั่งสอนให้ลูกหลานรักในความเป็นชาตินิยมของตน อาหาร ภาษา ดนตรี ก็เป็นสิ่งที่ชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในสยามประเทศนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ เครื่องดนตรีจีนชิ้นนี้จึงถูกนำมาบรรเลงอยู่ในกลุ่มของชาวจีนที่อพยพมา แล้วเมื่อคนไทยที่แอบไปสะดุด หรือได้ยิน ได้ฟังเสียงดนตรีของชาวจีน ไม่ว่าจะเห็นเป็นของแปลก หรือเห็นเป็นของดี ก็คิดเอามาผสมกับเครื่องสายไทยที่เล่นกันอยู่ดาษดื่นให้มีรสชาติที่แปลกออกไป ไม่เบื่อ กับของเดิมๆ เครื่องดนตรีเดิมๆ
ซึ่งการนำสิ่งของชาติอื่นๆ มาปรุงให้เข้ากับประสาทรับรสของชาวสยามนั้นเป็นสิ่งที่เราถนัดมากอยู่แล้ว
และเมื่อหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เปลี่ยนจากสยามเป็นประเทศไทยแล้ว ขิมก็ได้จัดให้อยู่ในวงเครื่องสายผสม ไม่ได้เป็นเครื่องดนตรีหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ขิมนั้นเป็นเครื่องดนตรีที่คนไทยนิยมเล่นกันมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งขิมผีเสื้อที่ดั้งเดิมซึ่งจะมีลายโป๊ยเซียน บนฝาขิม แล้วยังได้พัฒนาจนกลายเป็นขิมกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูก็เป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน
สำหรับโอโม่แล้วถือว่าขิมนั้นเป็นเครื่องดนตรีต่างชาติที่เราได้รับและปรับปรุงวิธีการบรรเลงให้มาเป็นเครื่องดนตรีไทยแล้ว ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะพัฒนากลายเป็นหยางฉินไปแล้วก็ตาม
ขิมไทยก็ยังคงความดั้งเดิม คงเสียงที่เป็นเสียงในอดีต ยังคงส่งเสียงให้เราได้มองย้อนถึงภาพแห่งความหลัง สภาพบ้านเมืองในยุคก่อนที่เราจะมีชีวิตเกิดขึ้นมาบนประเทศไทยเรานี้หลายชั่วอายุ
สุดท้ายนี้อยากให้ได้ทุกคนได้ลองฟังเสียงขิมที่บรรเลงด้วยเพลงไทยผสมกลมกลืนกับเสียงวงเครื่องสายไทยในเพลง
นางนาคและเพลงพัดชา สองชั้น
โฆษณา