NASCAR: Next Gen กับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
NASCAR หรือ National Association for Stock Car Auto Racing การแข่งรถที่จะช่วยให้คุณได้หลับสบายท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียด (อันนี้แซวเล่น) แน่นอนว่าผมเป็นแฟนของ NASCAR ช่วงรุ่งเรืองของ Hendrik Motorsport ที่นำทีมโดย เจฟฟ์ กอร์ดอน (แชมป์ 3 สมัย) และ จิมมี่ จอห์นสัน (แชมป์ 7 สมัย) ซึ่งการเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างรถ รวมถึงเครื่องยนต์นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไร แม้จะเดินทางมาถึง Generation 6 แล้ว นั่นก็เพราะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงใหม่นอกจากรูปลักษณ์ที่ทำให้คล้ายรถบนท้องตลาดมากขึ้น และลดแรงม้าเครื่องเพื่อลดการทิ้งห่างในการแข่งขัน
ล่าสุด NASCAR ได้ปล่อยรถต้นแบบที่มีชื่อว่า “Next Gen” สร้างความฮือฮาให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ต หลังถูกแฟนๆเรียกร้องถึงการเปลี่ยนแปลงมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะถูกเลื่อนการใช้งานจริงออกไปจากเดิมที่จะถูกใช้ฤดูกาล 2021 เป็นฤดูกาล 2022 แทน เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 แต่ก็เชื่อว่ายังเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ที่คุ้มค่าแก่การเฝ้ารออย่างแน่นอน
จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปบ้าง ?
1. ล้อใหม่
จากยางสลิกน้ำหนัก 110 ปอนด์ พร้อมกับล้อกระทะเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว ที่เป็นภาพจำตั้งแต่สมัยโบราณ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นล้อแม็กอลูมิเนียมแบบดาว 5 แฉก ที่ดูเหมือนว่าจะขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย รวมถึงเปลี่ยนน็อตยึดล้อจาก 5 วง เหลือแค่วงเดียวเท่านั้น ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าอาจได้เห็นการเปลี่ยนยาง และเติมน้ำมัน ที่เร็วกว่า 14 วินาที ก็เป็นได้
2. เกียร์ระบบใหม่
หลายท่านอาจยังไม่เคยรู้ว่า รถแข่ง NASCAR แท้จริงนั้นมีเพียงแค่ 4 เกียร์เท่านั้น (ไม่รวมเกียร์ถอยหลัง) แถมเป็นแบบ H-Pattern นั่นเป็นเพราะการแข่งขันเน้นแบบ Oval Track เสียส่วนใหญ่ (มีแค่ Chalotte Roval, Watkins Glen, Daytona Roval และ Sonoma ที่เป็น Road Course) แต่สำหรับ Next Gen นั้นใช้เกียร์แบบ Sequential 6 สปีด ลดอัตราการเปลี่ยนเกียร์ลง โดย อีริค โจนส์ หนึ่งในนักแข่งที่มาทดสอบรถ ได้พูดว่า มันสะดวกกว่าเกียร์แบบเดิมมาก สนุกในการขับมากกว่า และน่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับสนามแบบ Road Course ที่แต่ก่อนสร้างความวุ่นวายให้กับเหล่านักขับได้
3. เครื่อง Hybrid
เป็นระยะเวลายาวนานที่ NASCAR ใช่เครื่อง V8 ขนาด 5.8 ลิตร เสียงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนาม แต่ Next Gen นั้นได้เพิ่มเทคโนโลยี Hybrid เข้ามา เพิ่มกำลัง 50 แรงม้า ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีความสิ้นเปลืองน้อยลง และแน่นอนว่าแฟนคลับฮาร์ดคอร์ของกีฬามอเตอร์สปอร์ต อย่าเพิ่งบ่นอุบกันไป เพราะจากการทดสอบหลายครั้งที่ผ่านมา ที่ทาง NASCAR ได้ลงคลิปทดสอบผ่านทาง YouTube Channel ของพวกเขานั้น ยังคงเสียงคำรามของเครื่อง V8 อันเป็นเอกลักษณ์นี้ไว้อยู่ ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นผลดีทั้งฝ่ายผลิต และเหล่าแฟนคลับ
4. ปรับเปลี่ยน Aerodynamics
ดูเหมือนว่าเจ้าคันนี้จะเร็วขึ้นไม่ใช่น้อย นั่นเพราะ Next Gen มีการเพิ่ม Diffuser ที่ด้านหลัง รวมถึงจัดวาง Layout หน้าปัดรถใหม่ และตัวรถมีความโค้งมนมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้รถนั้น มีการยึดเกาะที่ดีขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด
4 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ NASCAR ส่วนตัวมองว่า อาจทำให้ NASCAR กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่กีฬามอเตอร์สปอร์ต หลายชนิดถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีจนขาดสเน่ห์น่าติดตามลงไป แต่สำหรับ NASCAR แล้วพวกเขาพัฒนารถขึ้นมาได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังคงสเน่ห์เหมือนเดิม
นักขับหลายคนที่เข้าร่วมการทดสอบทั้ง เคิร์ท บุช, มาร์ติน ทูเร็กซ์ จูเนียร์, อีริค โจนส์ และ ออสติน ดิลลอน ต่างก็ให้ผลตอบรับไปในทิศทางบวก โดยเฉพาะเคิร์ท บุช ที่เพิ่งผ่านการทดสอบรถ Next Gen ครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม ไปอย่างหมาดๆก็ให้สัมภาษณ์กับ NASCAR.com ว่า
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้กลับมาขับรถครั้งนี้อีกครั้ง หลังปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนของรถบางส่วน จากการขับทดสอบที่ Daytona เมื่อเดือนก่อน และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของมัน ซึ่งผมคิดว่าเราพัฒนามาถูกทางแล้ว”
แม้ว่าตัวรถจะค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว แต่ทาง จอห์น พรอบส์ รองประธานฝ่ายนวัตกรรม และการพัฒนาการแข่งขันของ ทาง NASCAR ได้ระบุว่ายังเหลือการทดสอบยางกับทาง Goodyear อีก 3-4 ครั้ง ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับครึ่งปีแรก ถึงแม้ว่าตารางการทดสอบของปี 2021 ยังจะไม่ออกก็ตาม
ว่าแต่มีใครเป็นแฟน NASCAR บ้างบอกกันได้นะครับ :)
อ้างอิง
#NASCAR #NextGen #PonyJeeJud #โพนี่จี้จุด
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
