Blockdit Logo (Mobile)
อ่านแล้วแชร์
•
2 ก.พ. 2021 เวลา 11:15 • หนังสือ
วิธีขายของราคา 40 ล้านเยนด้วยแก้วกาแฟราคา 400 เยน
หนังสือที่จะพาไปเรียนรู้โมเดลธุรกิจการสร้างกำไรแบบเข้าใจง่ายที่สุด
หนังสือถูกเขียนโดย คุณทาคาอิ โยโกะ อดีตผู้บริหารบริษัทขายเฟอร์นิเจอร์ที่ขยายกิจการสำเร็จภายใน 3 ปีโดยการสร้างระบบแฟรนไชส์เพื่อขายเฟอร์นิเจอร์แบบตามสั่ง ที่ต่อมาผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารพร้อมทั้งสร้างคอร์สอบรมเรื่องโมเดลธุรกิจ
ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนนิยายการตลาดที่เขียนอิงจากประสบการณ์ของผู้เขียน เล่าเรื่องเหมือนนิยาย และพาเราไปทำความรู้จักว่าธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ่บอตทอม ของคุณโยสุเกะจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร พร้อมทั้งสอดแทรกเรื่องราวของความรัก ครอบครัวเข้าไปด้วย
ทำให้ตลอดการอ่านหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างลุ้นกับคุณโยสุเกะหรือตัวละครที่เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่บอตทอม พร้อมทั้งพาเราไปเรียนรู้เทคนิคการทำการตลาด การบริหารร้านจากคุณซากุระโกะ ตัวละครที่เป็นที่ปรึกษาฝีมือดี ที่พาหลากหลายบริษัทสร้างกำไร จากประสบการณ์ของเธอ
ตอนแรกแอบลุ้นนิดนึง ว่าจะเป็นเหมือนนิยายความรักที่ ที่ปรึกษาตกหลุมรักกับเจ้าของร้าน กลับกลายเป็นว่าหนังสือพาเราไปทำความเข้าใจที่ค่อนข้างสำคัญคือกำลังใจจากคนรอบข้าง หรือครอบครัว ที่ทำให้คุณโยสุเกะ เจ้าของร้านกาแฟ ประสบความสำเร็จ
โดยแต่ละบทของหนังสือเล่มนี้จะมีการสรุปคำพูดของคุณซากุระโกะ ที่เป็นที่ปรึกษา ที่คอยให้คำแนะนำคุณโยสุเกะเจ้าของร้านกาแฟ ให้เราเข้าใจว่าโครงสร้างของธุรกิจหรือเรื่องนั้นๆในแต่ละบทมีเนื้อความหรือคำพูดอะไรบ้างที่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้
หนังสือจะพาให้เราไปเรียนรู้ว่าทำไมธุรกิจที่มีกำไร เขาดำเนินธุรกิจอย่างไร
ตัวอย่าง ที่ผมอยากเอามาแชร์ เช่น
การเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของลูกค้า
สมมุติว่าร้านของเราได้กำไรต่อหัวค่อนข้างน้อย การหมุนเวียนของลูกค้า หรือลูกค้าอยู่ร้านเราไม่นานแล้วเปลี่ยนลูกค้าใหม่เข้ามาได้เรื่อยๆ จะทำให้กำไรต่อหัวที่น้อย สามารถสร้างกำไรให้กับร้านเพิ่มขึ้นได้
เพราะยอดขาย จะมาจาก ราคาต่อหน่วย X จำนวนหน่วย
สิ่งสำคัญในการเพิ่มกำไรให้กิจการมีดังนี้
เพิ่มยอดขาย
ลดต้นทุน
ลดค่าใช้จ่าย
แต่สิ่งที่ธุรกิจร้านอาหารให้ความสนใจในหลายๆปีมานี้ไม่ใช่ 3 สิ่งนี้แต่เป็น
อัตราการหมุนเวียนของลูกค้า
โดยวิธีการเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของลูกค้ามีค่อนข้างหลากหลายวิธี
ผมขอยกตัวอย่างวิธีที่ผมชอบแล้วกันนะครับ
คือการสร้างระบบที่ทำให้ลูกค้า ซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ “เหยื่อล่อ”
ตัวอย่างเช่น
การขายเครื่องนวดหน้าราคา 19,800 เยนในราคา 980 เยน
สินค้าที่เป็นเหยื่อล่อ คือ “เครื่องนวดหน้า” ซึ่งมีมูลค่าสูง แต่สิ่งที่ตัวอย่างนี้ต้องการอยากจะขายคือเซรั่มนวดหน้าสูตรเฉพาะ
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่า เครื่องนวดหน้าซื้อครั้งเดียวจบ แต่เซรั่ม ขายได้ต่อเนื่อง และ ค่อนข้างจะระยะยาว ทำให้สัดส่วนกำไรสำหรับสินค้าที่ซื้อต่อเนื่องย่อมสูงกว่าการซื้อครั้งเดียว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเครื่องนวดหน้าเป็นแค่เหยื่อล่อ แต่เซรั่มสูตรเฉพาะเป็นสินค้าหลักที่ต้องการอยากจะขาย
ไม่ใช่เฉพาะความต่อเนื่องในการซื้อเท่านั้น แต่การเป็นสาวกของสินค้าหรือร้านค้าก็ถือเป็นความต่อเนื่องที่เป็นอาวุธร้ายกาจเหมือนกันที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างกำไรได้ต่อเนื่อง ตัวอย่างนี้คงเห็นกันได้ชัดเจนอย่างเช่น iPhone(ส่วนตัวของผู้เขียน ค่อนข้างจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นยาก เพราะ ได้ซื้อapp ใน ios ไว้ค่อนข้างเยอะ )
อีกตัวอย่างหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบคือการเอาชนะบริษัทขนาดใหญ่ด้วยการ สร้างความแตกต่าง
ความต่างในหนังสือเล่มนี้หรือประเด็นนี้ อาจจะไม่ได้ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโลก
อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ เช่น เป็นผู้นำในการกำหนดราคา หรืออย่างในหนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องการเป็นผู้นำในการสร้างบ้านพักคนชราขนาดเล็ก ให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าบริษัทอื่น หรือว่าจะเป็นจำนวนสาขา เมนูยอดฮิต บริษัทขนส่งที่มีผู้หญิงขับมากที่สุด ร้านที่มีห้องน้ำมากที่สุด จริงๆในหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างมีตัวอย่างเยอะ อยากให้ลองไปซื้อมาอ่านดูนะครับ
ถ้าให้สรุปสั้นๆว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร ??
หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับผู้ประกอบการ SME ยิ่งเป็นเจ้าของร้านอาหาร ร้านกาแฟ ควรจะต้องอ่านเล่มนี้อย่างยิ่ง
แนะนำครับลองไปซื้อมาอ่านดู
จำนวนหน้า 203 หน้า
ราคา 185 บาท
#อ่านแล้วแชร์
โฆษณา