เป็นเรื่องที่ดูจบแล้วผม ถึงต้องกลับอุทานให้ เมืองหลวงของประเทศไทย "กรุงเทพคนคงเยอะไปสินะ" เรื่องราวที่เล่าการเดินทางของสามี-ภรรยาวัยชราคู่หนึ่งที่มีลูกๆทำงานในเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น "โตเกียว" ด้วยความของคนเป็นพ่อกับแม่ เมื่อลูกไม่ได้ไปหาก็ต้องเป็นฝ่ายผู้เป็นพระในบ้านต้องออกเดินทางไปหาลูกๆ ในเมืองหลวง ด้วยความที่ตัวละครพ่อกับแม่มีอายุมากแล้ว การเดินเหินก็เป็นเรื่องลำบากจนทำให้ลูกๆ กลับมองว่าเป็นภาระจนเกิดการบ่ายเบี่ยงที่ชวนน่าติดตาม แต่โอซุก็ไม่ได้ใจร้ายกับตัวละครผู้เป็นพระในบ้านทั้งสอง การเตรียมตัวละครเพื่อซับพอร์ตการเดินทางเข้ามาอยู๋ในเมืองหลวง ก็ได้ความมีจิตใจดี และรักเดียว เพราะภูมิหลังของตัวละครโนริโกะลูกสะใภ้ผู้สูญเสียสามีจากสงคราม ได้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของคนในครอบครัวดี แต่โอสุก็ไม่ได้ให้ร้ายฝั่งลูกอะไรขนาดนั้น เพราะลูกชายและลูกสาวก็มีภาระส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่ เรื่องกิจจการ เรื่องลูก ทำให้จนบ้างครั้งพ่อกับแม่กลายเป็นคนแปลกหน้า ประโยคที่อธิบายเรื่องราวเหตุการณ์ได้ดีที่สุดสำหรับลูกคือประโยคที่พ่อนั้งกับแม่ริมทะเล "ลูกของเราเคยเป็นคนใจดีกว่านี้นะ" พ่อกล่าว
ความคาดหวังของผู้เป็นพ่อกับแม่หรือการมาเห็นงานที่ลูกๆทำ
ในเมืองหลวงทำให้ผู้เป็นพ่อกับแม่กลับเข้าใจถึงการกระทำของลูกๆ ในแต่ละอย่างหรือการเปลี่ยนแปลงของลูกๆ เองผู้เป็นพ่อกับแม่ทำได้อย่างเดียวคือต้องทำใจยอมรับ กับการเปลี่ยนแปลงของผู้เป็นลูก จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ลูกๆ เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนนี้ คือผู้คนที่อาศัยอยู่เมืองหลวงที่มากเกินไป ทำให้คนเรากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวได้ง่ายขึ้น อิจฉา อายที่มีพ่อกกับแม่แก่และเป็นคนบ้านนอก
สะท้อนสภาพสังคม วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นในสมัยนั้น แต่ที่ทำให้อินเข้าไปใหญ่ คือสภาพสังคม จิตใจ ช่างคลับคล้ายกับความเป็นไทยในสมัยนี้มาก