3 ก.พ. 2021 เวลา 01:02 • ประวัติศาสตร์
การเสียสละ เป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานที่ย่อมมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกผู้ทุกคน มักเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งพี่เสียสละของเล่นให้น้อง วัยรุ่นเสียสละที่นั่งให้คนแก่บนรถเมล์ประจำทาง หรือแม้กระทั่งการเสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยคนอื่น หรือคนที่ตัวเองรัก แต่สิ่งที่เราจะนำเสนอในวันนี้คือการเสียสละอันแสนโหดร้าย และเจ็บปวดของผู้ที่อ่อนแอที่มีให้แก่คนที่ตัวเองรัก
1
เมื่อหลายร้อยปีก่อน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เจอวิกฤตทางเศรษฐกิจ ประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง เพราะเหล่าเจ้าเมือง หรือผู้ที่มีอำนาจใช้อำนาจในการกดขี่รังแกประชาชน ความอดอยากแผ่วงกว้างไปทุกหย่อมหญ้าของประเทศ และในยามที่ประชาชนประสบปัญหาเช่นนี้จึงเกิดพิธีกรรมที่มีชื่อว่า ‘Ubasute อุบะสุเทะ’
1
ผู้สูงอายุที่เหล่าขุนนางคิดว่าเป็นประชากรที่ไร้ประโยชน์เพราะใช้แรงงานไม่ได้จึงกลายเป็นเป้าหมายหลักที่จะช่วยลดจำนวนประชากรลงให้เพียงพอต่อทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่าขุนนางจึงออกคำสั่งให้นำผู้สูงอายุไปปล่อยในป่าลึก หรือบนภูเขาที่ห่างไกล
2
ภาพผืนป่าอันห่างไกลที่ผู้สูงอายุมักถูกนำมาทิ้ง
สองมือที่ดูนุ่มนวลคอยทะนุถนอมอุ้มชูลูกหลานด้วยความรักกลับกลายเป็นสองมือที่เหี่ยวแห้งจนแทบไม่มีเรี่ยวแรงยึดจับสิ่งของ เหล่าผู้สูงอายุจำนวนมากจึงถูกทิ้งให้อดข้าวอดน้ำกลางป่าลึกอย่างน่าเวทนา แต่พวกเขาก็ยินดีที่จะเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อให้ลูกหลานได้มีชีวิตอยู่ต่อด้วยความเต็มใจ บางคนถึงขั้นเอ่ยปากขอให้ลูกหลานพาตัวเองไปทิ้งบนภูเขา เพราะคิดว่าชีวิตที่โรยราเช่นนี้คงไม่สามารถสร้างประโยชน์อันใดได้ รังแต่จะเป็นภาระให้กับลูกหลาน ภูเขาสูงหลายแห่งจึงกลายเป็นสถานที่ฝังศพของผู้สูงอายุคนแล้วคนเล่า
2
ภาพลูกนำแม่มาทิ้งในป่า
แม้พิธีกรรมนี้จะเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่อัตราผู้สูงอายุที่มากยิ่งขึ้นในปัจจุบันดูเหมือนว่าพิธีกรรมอันแสนโหดร้ายนี้จะยังไม่หายไปไหน หากแต่มาในรูปแบบของการนำผู้สูงอายุไปทิ้งไว้ตามโรงพยาบาล หรือองค์กรการกุศลต่าง ๆ แม้กระทั่งในประเทศของเราที่กำลังประสบสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลให้คนยุคใหม่มีภาระมากขึ้นจึงอาจละเลยผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้าน แต่อย่าลืมว่าหากไม่มีพวกเขาก็จะไม่มีคนรุ่นใหม่ที่คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต ผู้สูงอายุจึงควรได้รับการดูแล มีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่ต้องเสียสละตนเองเหมือนในอดีตที่แสนขมขื่นอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก
โฆษณา