3 ก.พ. 2021 เวลา 02:57 • นิยาย เรื่องสั้น
“สิ่ ง นั้ น”
๐๑.
“ถ้าไปกับใครสักคนก็คงจะดีขึ้น วาด...รู้ไหมตอนที่กลับมาทศเหงามากเลย”
“ก็อย่างนี้แหละคุณ...มันมีเหตุ จะว่าให้ฟัง ที่คุณเหงาน่ะเพราะว่ามันเป็นขากลับจากเที่ยว ความรู้สึก โหวงเหวงเพราะว่าความสุขความสนุกกำลังจะเคลื่อนผ่านไป เป็นปกติมนุษย์”
“นั่นสินะ” ทศงึมงำคล้ายจะให้ตัวเองได้ยินเพียงลำพัง แล้วจากนั้นร่วมชั่วโมงในรถก็ไม่มีเสียงพูดคุยของเราสองคนอีก
๐๒.
ตลอดทางจากที่จอดรถมายังลิฟท์ และทางเดินระหว่างห้องบนชั้น 7 ฉันนับเสียงฝีเท้าของฉันกับทศจนมันหยุดที่หน้าประตูห้อง 707 ของฉัน
๐๓.
“ฉันอาจไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณกำลังตั้งข้อสงสัย” ฉันเคยบอกกับทศตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เราเริ่มได้ทำความรู้จักกัน
“ผมว่าคุณเป็นคนแปลก และผมอยากกระเทาะความแปลกของคุณ” และจำได้ว่าทศตอบฉันเช่นนั้น
แล้วเราสองคนก็เป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่เขาเคยสารภาพให้ฉันฟังว่าไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนไหนได้ลึกทุกรายละเอียดของความรู้สึกเท่ากับฉัน
...
“จริง ๆ คุณก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากผู้หญิงทั่วไปเลยนี่นา ผมก็นึกว่าคุณจะแปลกเสียอีก” ทศพูดกับฉันในวันหนึ่งระหว่างที่ฉันกำลังบ่นเรื่องราวหลายอย่างในชีวิตให้เขาฟัง ฉันไม่แน่ใจว่าคำพูดของเขามันแสดงถึงความรู้สึกอะไร แต่ฉันคิดของฉันเองว่าเหมือนเขาจะผิดจากการคาดหวังในแบบตัวตนของฉันที่เขาคิดว่าจะได้เจอ
“ก็เคยบอกคุณแล้วไงว่าฉันอาจไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณกำลังตั้งข้อสงสัย” ฉันตอบเขาด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มของผู้หญิงที่ผิดไปจากการคาดหวังของเขา
...
“คุณนี่มันเหมือนกับองค์หญิง – เจ้าหญิง” บางอารมณ์เวลาที่เขาฟังฉันพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เขาก็แทรกคำว่าฉันขึ้นมาแบบนั้น
“คุณนี่เหมือนหอยทาก” อีกบางอารมณ์เวลาที่เขาฟังความสะเทือนใจของฉัน เขาก็แทรกคำว่าขึ้นมาอีกอย่างนั้น
๐๔.
ฉันไขกุญแจห้องด้วยความรู้สึกอิดออด แน่ล่ะ...ฉันยังไม่อยากเดินกลับเข้ามาในที่ของตัวเอง
“บ๊ายบายนะวาด” ทศบอกกับฉันเหมือนทุกครั้งเวลาที่เราจากกัน แต่มันขาดอีกหนึ่งประโยคต่อท้าย ใช่....เขาไม่ได้พูดว่า ‘แล้วเจอกัน’
“เข้ามาก่อนสิทศ” ฉันพูดหลังจากที่ย่ำเท้าเข้าไปในพื้นที่ของตัวเองแล้วสองก้าวสั้น ๆ ท่ามกลางความมืดของห้องโดยที่ไม่หันไปมองคนที่ฉันเอ่ยเชิญ ฉันพูดในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะพูดด้วยเสียงเบาอย่างกลัวว่าแม้ตัวเองจะได้ยิน
เสียงปิดประตูดังในทำนองของความเกรงใจ ฉันนั่งก้มหน้าหลับตาฟังมันอยู่ที่ปลายเตียง
๐๕.
ฉันลุกขึ้นเมื่อทศหยุดยืนตรงหน้า แล้วสอดแขนกอดเขาก่อนซุกหน้าซ่อนหยดน้ำจากตาให้ซึมลงไปกับเสื้อโชยกลิ่นโคโลนจญ์ นาทีที่เขากอดตอบแล้วไล้มือลูบผมของฉัน ความรู้สึกบางอย่างสว่างวาบขึ้นแล้ววูบลงในชั่วพริบตาคล้ายคนเปิดไฟแล้วปิดมันลงในทันที ฉันผละออกจากกอดของทศแล้วมองหน้าเขาในความมืดเพื่อค้นหาแววตา แต่ ‘สิ่งนั้น’ ไม่มีอยู่ในแววตาของเขา กลิ่นลมหายใจสะอาดของทศใกล้เข้ามาจนรู้สึก
ริมฝีปากนุ่ม และปลายลิ้นอ่อนอุ่น ฉันหลับตาลงแล้วโอบแขนรอบคอของทศ ภูเขาน้ำแข็งที่มีมาโดยธรรมชาติของการจัดวางความสัมพันธ์กำลังถูกมนุษย์ชาย – หญิงสองคนที่ต่างเรียกตนว่า ‘เพื่อน’ พยายามช่วยกันละลายด้วยความร้อนที่สะสมมานานวัน
ทุกสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งกระทำลงไปมันมีผลต่อสิ่งรอบข้างเสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคำพูด ท่าทาง และการปฏิบัติตัวของบุคคลหนึ่งต่ออีกบุคคลหนึ่ง
ฉันปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของทศด้วยความเต็มใจของห้วงอารมณ์ เขารู้ว่าฉันสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่ฉันเชื่อว่าเขาก็คงรู้เช่นกันว่าสำหรับเขาฉันอยากให้ออกมาในลักษณะอย่างที่กำลังดำเนินอยู่นี่ ฉันตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ฉันถึงไม่คิดจะ ‘ทำ’ อย่างที่เคย ‘ทำ’ กับคนอื่น
ฉันปล่อยให้ทศเสนอ และฉันรอทุกอย่างเพื่อตอบสนอง อาจเพราะ...ฉันรู้สึกอยากถูกควบคุม ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจกับข้อสันนิษฐานนี้เท่าไรนัก
๐๖.
ภูเขาน้ำแข็งละลาย น้ำกำลังจะทะลักทลายท่วมโลก ‘ใครจะมีชีวิตอยู่รอดได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอันมีแต่เวิ้งน้ำที่เกิดจากการละลายภูเขาน้ำแข็งโดยความปรวนแปรครั้งใหญ่ ในเมื่อเราสองคนได้แต่คิดว่าเราอาจจะต่อเรือแต่ก็ไม่เคยทำมันขึ้นมาจริง และโนอาห์ก็ตายไปนานแล้ว หรือถึงโนอาห์จะไม่ตายก็คงไม่เลือกเรา’
...
“ผมมีอะไรจะสารภาพ”
“ว่า...?”
“ที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังว่าผมฝัน...ฝันว่ามีอะไรกับผู้หญิงน่ะ”
“อืม...”
“ผมฝันถึงคุณแหละ”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นะ มันก็เป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์”
“เออ...แต่ผมฝันก่อนที่จะเจอตัวจริงของคุณอีกนะ”
...
๐๗.
ฉันปล่อยเหงื่อแห่งความเหนื่อยล้าให้ซึมออกทางตาช้า ๆ ในเสียงสะอื้นที่ถูกความพยายามสะกดกลั้นไว้ บางทีฉันกำลังอาดูรกับภูเขาน้ำแข็ง
1 ชั่วโมงกับ 23 นาที ทศชันตัวพิงกับหัวเตียงโดยที่มีหมอนรองหลัง เขานั่งเงียบ ๆ โดยไม่มีคำพูดใดออกจากปาก
ฉันตัดสินใจหลับตาไว้อาลัยให้กับผลกระทบจากการตัดสินใจร่วมมือช่วยทศในการเด็ดดอกมิตรภาพที่เราช่วยกันปลูก
‘สิ่งนั้น’ ที่ฉันไม่มีให้เขา และฉันก็หา ‘สิ่งนั้น’ จากดวงตาของเขาไม่พบ...ความรัก
งานเลี้ยงจบลงแล้ว และเขาโน้มตัวลงจูบเปลือกตาของฉัน
เสียงประตูห้อง 707 ถูกเปิดแล้วปิดลงอย่างเบาแรง โลกหลังบานประตูไม่ใช่พื้นที่ของฉัน และในเมื่อฉันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น มันก็ยากเกินกว่าจะตามจับนับเสียงฝีเท้าของเขาที่ค่อย ๆ ห่างออกไปได้
แต่...
‘ขอบใจนะ’ เสียงของเขาแทรกผ่านโสตประสาทเข้ามาคล้ายเสียงกระซิบของระลอกลม
ฉันลืมตาขึ้นแล้วพลิกตัวหันไปทางหน้าต่างมองแสงไฟแห่งเมืองราตรีระยิบระยับ ‘นาทีนั้นฉันรู้สึกคล้ายตัวเองกำลังจมอยู่ในโลกบาดาล และเห็นท้องเรือของโนอาห์ลอยบนผิวน้ำเหนือศรีษะ’
โฆษณา