3 ก.พ. 2021 เวลา 05:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กำไรทบต้น
03/02/2564
พลานุภาพแห่งกำไรทบต้น
สวัสดีครับ ชาวเม่าทั้งหลาย
2
หลายครั้งที่เราเห็นกระแสฟีดในโลกโชเชียลของเพจการลงทุนต่างๆ
และบ่อยครั้งที่จะเห็นคนทำเงินในตลาดหุ้นได้เป็น100% บางคนได้เป็น 1000% มาโพสโชว์
(ซึ่งปีนึงโพส ครั้งนึงแต่วันที่เหลือติดลบหนักมาก แต่ไม่โชว์ 55)
และอีกหลายคนคงจะเคยมีความรู้สึกว่า..เอ้ย!!หุ้นที่เรามีอยู่ในมือทำไมราคาไม่วิ่งเลย
เราต้องขายออกแล้วไปต้องหาซื้อหุ้นที่เค้าบอกว่าดี เค้าบอกว่าจะมา
เพื่อเพิ่มโอกาสที่เราจะได้กำไรเป็นสิบเด้งร้อยเด้งกะเค้ามั่งแล้ว
1
และมันต้องมีทีของเราสิวะ!!
(ซึ่งมีคนอีกเป็นแสนๆคนก็คิดแบบนี้เหมือนกัน)
2
แต่ช้าก่อน .... อย่าลืมว่าคนที่เล่นโชเชียลในตลาดมีเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่คนที่ได้กำไรเป็น 100% และ1000% นั้นมีกี่คนกันล่ะพี่ และถ้าเทียบเป็น %ออกมาแล้วมันน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยอีก
1
คุณเคยมั๊ย ที่หลายครั้งที่เราโยนหุ้นดีๆทิ้งไป
1
และกลับมาพบในภายหลังว่าไอ้หุ้นที่เราโยนทิ้งในวันนั้น
เพื่อที่เราจะได้เอาเงินไปซื้อหุ้นในความฝันเพื่อให้ได้กำไรเยอะๆนั้น
บัดนี้ไอ้หุ้นที่เราเคยโยนทิ้ง อย่างไม่ใยดีนั้นกลับให้ผลตอบแทนเป็น100% ซะงั้น
2
(เหมือนกับทิ้งแฟนเพราะอ้วนน่าเกลียด แต่แฟนที่เราเคยทิ้งเริ่มดูแลตัวเอง จนกลายเป็นเนตไอดอลซะงั้น 55)
ดูๆไปแล้วพฤติกรรมการเล่นหุ้นแบบนี้ก็เหมือนกับการเสี่ยงโชค
วันนี้เราแทงถูกได้เงินมาเยอะ แต่ใครจะการันตีว่าครั้งต่อไปคุณยังจะแทงถูกอีกครั้ง
หรือต่อให้คุณแทงถูกไป 9 ครั้งแล้วเผอิญถ้าคุณแทงผิดในครั้งที่10
1
คุณมั่นใจหรือว่ากำไรที่คุณแทงถูกมาทั้ง9 ครั้ง
(ซึ่งความเป็นไปได้ น้อยมากๆ ที่คนจะแทงถูกซ้อนๆกันมา9ครั้ง)
นั้นจะไม่หมดไปกับทางแทงผิดในครั้งที่10นี้
วันนี้ ผมเลยทำบทความเรื่องการลงทุนในหุ้นเทียบกับเวลาช่วงอายุที่เรามีอยู่ในโลกนี้ เพื่อให้พวกเราเห็นภาพในอีกแง่มุมหนึ่งกัน
1
ภายใต้สมมุติฐานที่ว่า
ถ้าเราเริ่มลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ
และให้ปันผลปีละ3%( ใช่ !!เอาแค่3%นี่แหละ)
ซึ่งหาได้มากมายในตลาด ณ ตอนนี้
1
โดยเราเริ่มลงทุนอายุตั้งแต่เรียนจบ
(เพื่อที่เราจะมีรายได้เป็นของตนเอง ไม่ต้องไปแบมือขอพ่อ ขอแม่)
จนกระทั้งเราเกษียณที่อายุ 55ปี
2
โดยเราจะแบ่งเงิน เป็นจำนวนเงินที่เท่าๆกันทุกเดือน
ตามกำลังที่คิดว่าตัวเองไหว มาลงทุนในหุ้น
ท้ายที่สุดในชีวิตนี้เราจะมีเงินเท่าไหร่ก่อนเราจะลาจากโลกนี้ไป
1
(ซึ่งถ้าใครอยากได้ไฟล์ ใส่คอมเมนต์ บอกชื่ออีเมลไว้ได้เลยครับ ผมจะทำการจัดส่งให้ฟรี)
โดยเริ่มต้น เราจะทำการออมเงินในหุ้น หลังจากที่เราเรียนจบมา
และมีวินัยกับมันมากๆ ในวัย23ปี
โดยเราทำการเจียดเงินเดือนมาลงทุนในหุ้นทุกเดือนๆ เดือนละ 5000 บาท
จนกระทั้งเราอายุ 30 ปี ซึ่งคาดว่าด้วยหน้าที่การงานที่เติบโตขึ้น
คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่เราจะเพิ่มจำนวนเงินการออมขึ้นเป็น7000 บาทต่อเดือน
และลงทุนต่อไปจนกระทั้งอายุ 40ปี
1
และเพิ่มจำนวนเงินการออม ขึ้นเป็น 10000 บาทต่อเดือนเมื่อเราอายุครบ40ปี
ไปจวบจนเราอายุ 55 ปี
และเราไม่ต้องออมอีกต่อไป มาดูซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แค่อายุ 35ปี เราก็จะมีมูลค่าเงินลงทุนในพอทแตะระดับล้านบาทแล้ว
และเมื่อเราเกษียณที่อายุ 55ปี เราจะมีมูลค่าหุ้นในพอทเกือบระดับ 5 ล้านบาทเลยทีเดียว
1
และหลังจากนั้นล่ะ?
เมื่อเราอายุ 55ปี และเราหยุดที่จะใส่เงินลงไปแล้ว
จากตรงนี้ ...
1
ถ้าใครคิดอยากจะเอาเงินปันผลมาใช้ในแต่ละปี
ก็จะมีเงินให้ใช้เดือนละประมาณ 12000 บาท เลยทีเดียว
แต่ต้องแลกกับการเติบโตของพอทที่จะหยุดชะงักลงที่มูลค่าประมาณ5ล้านบาทเท่านั้น
แต่ถ้าใครไม่เดือดร้อนและไม่คิดจะแตะต้องพอทการลงทุนนี้
พร้อมทั้งยังคงรักษาวินัยและนำเงินปันผลที่ได้ในแต่ละปีไปซื้อหุ้นตัวเดิมเพื่อลงทุนต่อไป
และสมมุติว่าเราอายุหมดลงที่75ปี
ในปีที่75นั้น เราจะมีมูลค่าหุ้นในพอทเกือบระดับ 10 ล้านบาทเลยทีเดียวเชียวครับ
เห็นมั๊ยครับ
ว่าคงเป็นการดีกว่าที่เม่าอย่างเรานั้นจะเฮโลซื้อหุ้นเหมือนแทงหวย
เฮไปตัวนั้นทีเฮไปตัวนี้ วันไหนได้เฮฮา วันไหนเสียเศร้าสร้อย
พาลจะทำให้เป็นไบโพลาร์ เอานะ..
3
ทั้งนั้นทั้งนั้น ที่ผมคำนวณนี้
ยังไม่นับรวมถ้าหุ้นที่เราถือ เกิดราคาเติบโต
หรือ % การปันผลเติบโต มูลค่าพอทของเราก็จะยิ่งทวีมูลค่าขึ้นไปอีก
เพราะฉะนั้นวันนี้ เรามาฝึกวินัยการออมในหุ้นกันเถอะ
หรือถ้าใครชอบการซื้อขายเพื่อให้เลือดลมสูบฉีด
คุณก็แค่แยกพอท และเติมเงินหลักพัน
เล่นสนุกๆไปวันๆ
1
พร้อมกับการปล่อยให้พอทหลักเราเติบโต
และให้เงินในพอทเราทำงานหนักแทนเราแม้ในเวลาที่เรานอนหลับ
จะไม่ดีกว่ารึครับ จริงมั๊ย ???
โฆษณา