It's Okay To Not Be Okay (2020)
'แม้ปากจะบอกว่าไหว แต่ไม่ได้หมายความว่าหัวใจไม่เจ็บ'
ตามคอนเซ็ปต์ของเพจจ้า เราเพิ่งดู It's Okay To Not Be Okay จบแหละ แม้ช่วงที่ซีรีส์กำลังออกอากาศจะเห็นรีวิวตามเพจมากมายก็ตาม ตอนนี้ก็เพิ่งตามดูจนจบ เนื้อหาว่าด้วยคนจิตไม่ปกติที่ต้องหวนมาเจอกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาและเธอ กลับได้เรียนรู้และเยียวยาหัวใจตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
ซีรีส์เริ่มต้นด้วยเส้นเรื่องของพระเอกที่มีพี่ชายเป็นออทิสติก เขาต้องดูแลพี่ชายมาอย่างลำบาก เพราะพ่อและแม่จากไปก่อนวัยอันควร แถมพี่ชายยังมีเหตุให้หวาดกลัวจนต้องคอยย้ายบ้านทุกปี ส่วนนางเอก แม้จะเป็นนักเขียนวรรณกรรมสำหรับเด็กสุดไฮโซ แต่ก็มีแผลใจที่เธอเคยถูกพ่อคิดฆ่าในวัยเด็ก ส่วนแม่ก็หายสาบสูญไป จนเธอเติบโตมามีบุคลิกค่อนข้างขวางโลก
เส้นเรื่องทั้งสองฝั่งค่อนข้างหนักหนาเอาการ เรากลับชอบประเด็นที่คนเขียนบทสื่อให้เห็นว่า พระเอกที่ดูแลพี่ชายอย่างดี จริง ๆ แล้วเติบโตมาด้วยความโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวที่รู้สึกว่าแม่ มีเขาเพื่อให้ดูแลพี่ชาย โดดเดี่ยวที่รู้สึกว่าแม่รักและห่วงพี่ชายมากกว่า แต่ด้วยศีลธรรมและก็คำว่าครอบครัว ทำให้เขาต้องคอยดูแลพี่ชายตลอดมา เรียกได้ว่าแทบจะอุทิศชีวิตให้
สุดท้าย ก็ไม่เคยมีใครถามเขาเลยว่า 'ไหวมั้ย โอเคหรือเปล่า'
เมื่อมีคนป่วย ผู้คนมักจะเทใจสงสารและเห็นใจพวกเขาก่อน โดยลืมไปว่า คนที่คอยดูแลนั้น ก็ต้องแบกความรู้สึกต่าง ๆ อย่างอดทน ยิ่งดูแลคนป่วยนาน ข้างในก็ยิ่งพัง จะร้องไห้ก็ไม่ได้ จะร่าเริงข้างในก็รู้สึกผิด เพราะคนที่รักกำลังต่อสู้กับความเจ็บป่วย พวกเขาเหล่านี้ต่างก็ทรมานไม่แพ้คนป่วยเช่นกัน เหมือนคังแทที่จำเป็นต้องเก็บกดความรู้สึกทุกอย่างไว้ แถมลึก ๆ ในใจยังแอบรู้สึกว่า ทำไมตัวเองไม่มีพี่ชายแบบปกติเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง
มาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึงหนังหลายเรื่องที่ว่าด้วยความเจ็บปวดของคนที่ต้องคอยดูแลคนในครอบครัวเวลาที่เค้าเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็น
-Proof (2005) เมื่อลูกสาวดูแลพ่อที่เจ็บป่วยทางสมองจนเริ่มไม่แน่ใจว่าสูตรทางคณิตศาสตร์ที่เธอถอดนั้น เป็นฝีมือของพ่อหรือของเธอ
-My Sister's Keeper (2009) เมื่อลูกสาวคนสุดท้องยื่นฟ้องแม่ตัวเอง ขอให้สิทธิ์ในการผ่าตัดร่างกายเป็นของเธอ เนื่องจากต้องเจ็บตัวบริจาคไขกระดูกตั้งแต่เด็กให้พี่สาว
-Wonder (2017) เมื่อพี่สาวไม่กล้าปรึกษาพ่อกับแม่ เพราะรู้ดีว่าทั้งสองเป็นกังวลกับอาการป่วยของน้องชาย จนเกือบเกิดรอยร้าวเล็ก ๆ ในครอบครัว
พวกเขาต่างก็เจ็บปวดข้างในลึก ๆ โดยที่ไม่มีใครมองเห็น โดยเฉพาะคนในครอบครัว
ซีรีส์ใส่ฉากที่คังแทเสียใจที่แม่รักพี่ชายมากกว่าจนร้องไห้ออกมาหลายฉาก ทั้งในวัยเด็กและปัจจุบัน จนมาถึงฉาก EP.9 ต่อเนื่องไป EP.10 เป็นฉากที่ประทับใจมาก เมื่อซังแทสติแตกและเผยว่าคังแทคิดจะปล่อยให้เขาจมน้ำตาย ส่วนคังแทร้องไห้อย่างน่าสงสารเพราะจุด ๆ หนึ่งเคยคิดอยากให้พี่ตายจริง ๆ แต่สุดท้ายเขาก็วิ่งกลับมาช่วยพี่จนตัวเองเกือบจมน้ำตายแทน
It's Okay To Not Be Okay เป็นซีรีส์ที่เดินเรื่องช้านิด ๆ ทิ้งฉากตัวละครยืนจ้องกันบ่อย แต่ถ้าดูไปเรื่อย ๆ จะเคยชินและดื่มด่ำสิ่งที่ซีรีส์ต้องการจะสื่อได้เอง คิดว่าเป็นซีรีส์ที่ต้องการไว้ในลิสต์เพราะควรค่าแก่การดู นักแสดงถ่ายทอดหน้าที่ได้ดี นอกจากพระานางแล้วยังชอบความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องที่ดูผูกพันกันดี จนผู้ชมผูกพันตามไปด้วย
"คนที่ไม่เคยบอกว่าเป็นอะไร ไม่ได้หมายความว่าหัวใจของเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด เพียงเพราะเกิดมาร่างกายครบ 32 ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่โหยหาการแสดงความรักจากครอบครัว"
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
