4 ก.พ. 2021 เวลา 00:52 • การศึกษา
Bitcoin Cash (BCH) คือเหรียญอะไร ?
Bitcoin Cash Token
Bitcoin Cash คืออะไร
Bitcoin Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการ hard fork ของ Bitcoin ซึ่งทำให้เกิดบล็อกเชนและสกุลเงินคริปโตตัวใหม่ขึ้นมา แล้วทำไมถึงต้องมีการ hard fork และอะไรที่เป็นจุดด้อยของ Bitcoin
ในช่วงแรกๆ การทำงานของ Bitcoin นั้นค่อนข้างที่จะเร็วเพราะยังไม่มีการทำธุรกรรมที่มากนัก แต่ในขณะที่มันได้รับความนิยมมากขึ้นการทำงานก็ช้าลงเนื่องจากขนาดของบล็อกที่จำกัดไว้ที่ 1MB ในปี 2560 เกิดเหตุการณ์ที่คนใช้งานต้องรอนานถึง 3 วันในการตรวจสอบการโอนถ่าย Bitcoin วิธีหนึ่งที่จะทำให้การโอนเร็วขึ้นคือจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนมากขึ้นแต่นั้นก็เป็นการขัดต่อจุดประสงค์ที่ทำให้มีเหรียญนี้ตั้งแต่แรก
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการซื้อกาแฟในราคา 4 ดอลลาร์แต่คุณกลับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการโอนถึง 16 ดอลลาร์ ซึ่งผู้ใช้ยอมรับไม่ได้แน่นอน จึงมีการเสนอทางออก 2 ข้อซึ่งก็คือ Bitcoin Unlimited และ Segregated Witness (SegWit)
ผู้เสนอ Bitcoin Unlimited เสนอว่าให้ยกเลิกการจำกัดขนาดของบล็อกโดยมีนักขุดเป็นผู้สนับสนุนหลักเนื่องจากเงินโดยรวมที่นักขุดได้จะเพิ่มขึ้นในทุกๆบล็อก แต่ปัญหาหนึ่งของข้อเสนอนี้คือนักขุดรายใหญ่สามารถรวมพลังการขุดกันซึ่งอาจทำให้เครือข่ายนี้ตกเป็นของบริษัทขุดยักษ์ใหญ่
วิธี SegWit มีแนวคิดหลักที่ว่าข้อมูลทุกอย่างไม่จำเป็นต้องถูกเก็บในบล็อกเชนโดยบางอย่างสามารถเก็บไว้ในไฟล์แยกได้ Bitcoin Cash ใช้การผสมทั้ง 2 แนวคิดโดยเพิ่มขนาดบล็อกเป็น 8MB และเก็บข้อมูลบางส่วนไว้นอกบล็อกเชน
ซึ่งภายหลังการแยกตัวทุกคนที่ถือ Bitcoin ณ ตอนนั้นได้รับเหรียญ Bitcoin Cash เท่ากับจำนวนของ Bitcoin ที่ถืออยู่และข้อมูลก็ถูกบันทึกลงในบล็อกเชนของ Bitcoin Cash เหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อที่จะรักษามูลค่าของ Bitcoin Cash ในช่วงการเปลี่ยนแปลงขณะที่เปิดตัว Bitcoin Cash คริปโตเคอเรนซี่
Hard Fork คืออะไร
Hard fork คือการที่บล็อกเชนหนึ่งมีการแยกตัวออกมาเป็นอีกบล็อกเชนหนึ่งอย่างถาวรโดยมีกฏต่างๆที่ต่างไปจากเดิม โดยผู้เข้าร่วมจะต้องอัพเกรดซอฟต์แวร์ถ้ายังต้องการเข้าร่วมและตรวจสอบการทำธุรกรรม
บล็อกเชนของ Bitcoin Cash ไม่ได้เริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์แต่ใช้ประวัติการทำธุรกรรมของ Bitcoin ก่อนการ hard fork และธุรกรรมใหม่ๆของ Bitcoin Cash จะถูกบันทึกไว้ในอีกบล็อกเชนซึ่งใช้กฎใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
เทคโนโลยีเบื้องหลัง Bitcoin Cash
คอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Bitcoin เรียกว่า “node” และถ้าไม่มี node ก็จะไม่มี Bitcoin Cash
เมื่อมีการทำธุรกรรม node เหล่านี้ก็จะจัดกลุ่มธุรกรรมเข้าด้วยกันโดยเรียกมันว่า “บล็อก” ซึ่งจะถูกเพิ่มเข้าไปยังบล็อกเชน โดย Bitcoin Cash จะเพิ่มบล็อกใหม่ในทุกๆ 10 นาที
การแฮกหรือดัดแปลงข้อมูลในบล็อกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากแต่ละบล็อกจะถูกเข้ารหัสและตรวจสอบความถูกต้องซึ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นเป็นไปไม่ได้ และ node ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียงข้างมาก
การขุด Bitcoin Cash
การขุดในทางบล็อกเชนหมายถึงกระบวนการเพิ่มบล็อกไปยังห่วงโซ่ (chain) และผู้ขุดก็จะได้รับเหรียญที่สร้างขึ้นมาใหม่ และ node ในเครือข่ายจะสร้าง hash ที่ถูกต้อง
เพื่อรักษาความปลอดภัยของแต่ละบล็อกในบล็อกเชน hash คือตัวเลขที่เรียงเป็นแถวยาวมากๆซึ่งถูกสร้างโดยกระบวนการ cryptograph ซึ่งอิงจากขนาดของไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบล็อก
ซึ่งมันก็จะพิสูจน์ว่าบล็อกถูกต้องและไม่เคยถูกดัดแปลงหรือแฮก กระบวนการ cryptograph นี้เรียกว่า “Proof of Work” ซึ่งแนวคิดสำคัญคือมันสามารถใช้ตรวจสอบได้ว่าข้อมูลไม่ได้ถูกดัดแปลง
สามารถคาดหวังอะไรได้บ้างกับอนาคตของ Bitcoin Cash
เราเคยได้เห็นการ hard fork ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต มูลค่าของ Bitcoin Cash ที่แยกมานี้มีเหวี่ยงและแปรปรวนแต่มูลค่าของมันก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและได้กลายเป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าเชื่อถือ
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ออกมาให้การสนับสนุน Bitcoin Cash ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุน แค่คริปโตเคอเรนซี่ที่มีพื้นฐานที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในระยะยาวภายใต้การแข่งขัน, ข้อกำหนดต่างๆ, และปัจจัยอื่นๆได้ มารอดูกันเถอะว่า Bitcoin Cash จะเป็นหนึ่งในนั้นไหม
โฆษณา