ไม่น่าเชื่อว่า"คำพูด"จะมีอิทธิพลมากขนาดนี้
Think before you speak
เราได้อ่านหนังสือเล่มนึงชื่อว่า"How to Win Friends and Influence People" มีตัวอย่างๆนึงที่เราอ่านแล้วชอบมาก และเราคิดว่าคงเป็นประโยชน์ที่จะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่า ...ในไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งมีกฏว่าช่างทุกคนต้องสวมหมวกเซฟตี้ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในไซต์งาน ระหว่างวันหัวหน้าก็จะเดินดูไซต์งานไปเรื่อย เมื่อหัวหน้าไซต์งานเห็นช่างคนไหนไม่สวมหมวกเซฟตี้ หัวหน้าก็จะแจ้งให้ช่างคนนั้นทราบด้วยคำพูดที่ว่า "การไม่สวมหมวกเซฟตี้ขณะอยู่ในไซต์งานถือเป็นการฝ่าฝืนกฏระเบียบของบริษัทนะ บลาๆๆๆ" ซึ่งการฝ่าฝืนกฏระเบียบของบริษัทเนี๊ยะเป็นสิ่งไม่ดีแน่นอน ต้องมีการลงโทษหรือใบตักเตือน ช่างคนนั้นก็เลยรีบสวมหมวกทันทีแต่พอผ่านไปสักพักลับสายตาหัวหน้างานละ ช่างคนนั้นก็ถอดหมวกออกเหมือนเดิม ฉะนั้นสิ่งที่หัวหน้าได้ขู่ไปนั้น ไม่เป็นผล 👎
วันต่อมาหัวหน้าเห็นช่างคนเดิมไม่สวมหมวกอีกแล้ว ครั้งนี้หัวหน้าได้ลองเปลี่ยนประโยค เปลี่ยนคำพูดใหม่โดยเขาได้พูดว่า "ที่คุณไม่สวมหมวกนี่เป็นเพราะใส่แล้วไม่สบายรึป่าวครับหรือขนาดมันไม่พอดี เล็กไปหรอ? ยังไงแจ้งได้นะครับจะได้เปลี่ยนใบใหม่ให้ หากเกิดอุบัติเหตุของตกลงมาจากที่สูง คุณอาจได้รับอันตรายได้ สวมหมวกอยู่ตลอดเวลาขณะอยู่ในไซต์งานจึงจะปลอดภัยกว่านะครับ ผมเป็นห่วง" 👍
เห็นมั๊ยคะ สองประโยคนี้มีจุดประสงค์เดียวกันคืออยากให้พนักงานสวมหมวกเซฟตี้ขณะทำงานในไซต์งาน แแต่คุณจะพูดยังไงให้เขาเชื่อฟังคุณและทำตามคำสั่งคุณละ หรือในทางกลับกัน หากคุณเป็นช่างคนนั้น คุณอยากได้ยินประโยคไหนมากกว่ากันคะ?
ฉะนั้นการจะพูดให้คนเชื่อฟังนั้นไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณมีเหตุมีผลและใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง ฟังแล้วดูจริงใจ แค่นี้คุณก็สามารถ Win friends and people ได้แล้วละคะ
วันนี้ขอปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า "ไม่ชอบคนแบบไหน ก็อย่ากลายเป็นคนแบบนั้น"
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ 🙏
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
