5 ก.พ. 2021 เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
แกะตัวอย่าง GODZILLA vs. KONG ศึก “ใหญ่” ชน “ยักษ์” ครั้งประวัติศาสตร์!
คำเตือน: เนื้อหาในนี้เป็นเพียงการคาดเดา
และอาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
หลังรอคอยกันมาอย่างยาวนาน ตัวอย่างแรกของ GODZILLA vs. KONG มหึมาภาพยนตร์แห่งปี 2021 มาถึงแล้ว!
เพื่อให้สมความยิ่งใหญ่ของ มหาศึก “ใหญ่” ชน “ยักษ์” ครั้งประวัติศาสตร์ เราได้รวมทีมเฉพาะกิจกับ 3 เซียนตัวจริงด้านไคจูมาร่วมวิเคราะห์และ "แกะตัวอย่าง" กันในครั้งนี้ครับ
ศึกครั้งนี้.. หนึ่งเดียวที่จะยืดหยัด!
GODZILLA vs. KONG ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง
25 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์
ขอขอบคุณเพจ
Kaiju Kingdom / Heroes Talk / DHZ: Deva Hellblazer
แกะตัวอย่าง: https://youtu.be/jM9evpp0L48
#จดอ #JUSTดูIT #GodzillaVsKong #ก็อดซิลล่าปะทะคอง
GODZILLA vs. KONG 25 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์
GODZILLA vs. KONG จะเป็นภาคต่อโดยตรงของ GODZILLA: King of the Monster หลังราชันแห่งมอนสเตอร์สามารถเอาชนะ Ghidorah และ Rodan ได้สำเร็จ แต่คงไม่มีใครคิดว่าราชันที่ปกป้องโลกในวันนั้น จะ ถูกบงการโดยอำนาจลึกลับ และหันกลับมาเล่นงานมนุษย์แทน หากดูที่บอร์ดแผนที่โลก จะเห็นได้ว่ามันเต็มไปด้วยรายงานที่บอกว่า Godzilla จูโจมผู้คนทั่วทุกมุมโลก จุดหักมุมที่ทำร้ายจิตใจแฟนคลับพี่ก็อด คือการกลับสู่รากเหง้าของความเป็น Godzilla ในยุคโชวะ (SHOWA ERA) ที่ราชันแห่งมอนสเตอร์ ที่ยังคงเป็นอสูรกายมหาภัยที่มนุษย์ต่างหวาดกลัว และต่อสู้กับ Kong ในผลงานสุดคลาสสิกจากปี 1962 อย่าง King Kong vs. Godzilla
ในขณะที่ชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย MONARCH มองว่าหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ คือราชันแห่งเกาะกะโหลก KONG กุญแจสำคัญในการทำให้ราชาวานรร่วมมือกับพวกเขา คือ "Jia "(เจีย) สาวน้อยกำพร้าจาก Skull Island ที่มีสายใยมิตรภาพอันแข็งแกร่ง และไม่เหมือนใครร่วมกับ KONG หลักฐานที่ยืนยันได้ว่าน้องเจียมาจาก Skull Island คือ ลวดลายบนแขนตามร่างกาย ที่มีความคล้ายคลึงกับชนเผ่าบนเกาะกะโหลก
ไอเดียของสาวน้อยที่สามารถสื่อสารกับไททันได้ ดูจะเป็นการอ้างอิงถึง Rebirth of Mothra (1996) หนังภาคแยกที่ Mothra เลือกที่จะสื่อสารกับมนุษย์ที่เป็นเด็กเท่านั้น เพราะนั่นคือช่วงวัยที่ยังมีหัวใจอันบริสุทธิ์อยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยเดากันไว้ว่าหนังจะใช้ไอเดียเดียวกันกับตัวละคร "Madison Russell" ใน Godzilla: King of the Monster แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ พวกเขาเอาไอเดียมาใช้ในหนังภาคนี้แทน!
โดยหนทางเดียวที่จะพา Kong ออกมาจากเกาะกะโหลกได้ คงไม่พ้นการขนย้ายโดยเรือ... แต่ก่อนที่จะไปถึงที่หมาย พวกเขากลับถูกจู่โจมโดย GODZILLA เปิดโอกาสให้เราได้เห็น ยกแรกของทั้งคู่บนเรือ USS Nimitz ซึ่งมี ความยาวกว่า 333 เมตร และ "มีระวางขับน้ำกว่า 100,000 ตัน" สามารถแบกรับน้ำหนักของสองไททันได้
เบื้องหลังความบ้าคลั่งของ GODZILLA อาจเป็นฝีมือของ APEX องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรับมือภัยพิบัติของเหล่าไททัน ซึ่งถ้ากลับไปดูบอร์ดแผนที่โลก จะพบว่าทุกที่ที่ก็อดซิลล่าบุกโจมตี ล้วนอยู่ใกล้กับสำนักงานของ APEX ไม่แน่พวกเขาอาจเป็นองค์กรเดียวกับวายร้ายในหนังภาคก่อนก็ได้
เป้าหมายของ MONARCH อาจเป็นเส้นทางลี้ลับสู่ใจกลางโลก ที่เรียกว่า "Hallow Earth" หรือ "โลกกลวง" ดินแดนที่มนุษย์ไม่เคยย่างกรายมาก่อน Hollow Earth เคยถูกพูดถึงผ่าน ๆ มาก่อนใน Kong: Skull Island กับฉากที่เหล่านักวิจัยใช้ระเบิด สร้างแรงตอบสนองคลื่นไหว และพบว่าหินแข็งชั้นล่างนั้นกลวง และต่อมาใน Godzilla: King of the Monster ดร.สติเฟื่อง "Dr. Rick Stanton" ได้พูดถึงทฤษฎีที่เชื่อว่า ใต้โลกของเรา อาจมีระบบอุโมงค์ใต้ดิน ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าด้วยกัน ทำให้เหล่าไททัน สามารถไปปรากฏตัวยังที่ต่าง ๆ ได้ แม้จะอยู่คนละซีกโลก
สำหรับยานที่ลอยอยู่ด้านหลังก็ไม่ใช่ UFO แต่เป็น Heav ยานต้านแรงโน้มถ่วงที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้เดินทางเข้าไปยัง Hollow Earth
แน่นอนว่าใต้พิภพแห่งนี้ เต็มไปด้วยภยันตรายรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น HellHawk และ Warbat อสรพิษเลื้อยเวหา
เราเชื่อว่า Hollow Earth คือที่ ๆ KONG ลงมาเพื่อคราฟต์อาวุธจนได้ "Battle Axe" ขวานที่สามารถดูดซับพลัง Atomic Breath ได้ หากดูภาพของเล่นที่หลุดออกมาก่อนหน้า ก็จะพบว่าตัวขวานอาจจะทำมาจากครีบส่วนหลังของ Godzilla หรืออาจจะเป็น หินพลัง Atomic ซึ่งอยู่ใจกลางแท่นหิน ที่ล้อมด้วยลวดลายคล้ายใบหน้า และครีบหลังของ Godzilla และสำหรับใครที่กำลังจะแซวว่านี่มัน Stormbreaker ชัด ๆ ใจเย็นก่อนนะครับ บทภาพยนตร์ของ Godzilla vs. Kong ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2017 ก่อนที่ Avengers: infinity War จะเข้าฉายซะอีก ซึ่งตัว Michael Dougherty หนึ่งในผู้เขียนบทภาพยนตร์ ได้เสริมไว้ว่า “คองฉลาดสุด ๆ ในฐานะวานร มันรู้จักใช้เครื่องมือ มันมีความรวดเร็ว มีความว่องไว และมันก็มีขนาดที่ไม่ธรรมดา” และด้วยรอยต่อระหว่าง Kong: Skull Island และ Godzilla vs. Kong ที่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นห่างกันกว่า 50 ปี เลยไม่แปลกที่ราชาวานรจะโตขึ้นและฉลาดขึ้นไปตามกาลเวลา
อาวุธพร้อมแล้วก็ถึงเวลาของศึกชี้ชะตากลางเกาะ Hong Kong ที่เราเชื่อว่า อาจมีเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่รอคอยทุกคนอยู่ กับทฤษฎีที่หลายคนคาดการณ์ไว้ คือการมาถึงของ "MechaGodzilla" หุ่นพิฆาตราชาอสูร ที่เคยมีภาพของเล่นหลุดมาก่อนหน้านี้ หากสังเกตในวินาทีที่ 4 ของตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า ด้านหลังควันจากความวินาศสันตะโร มีบางสิ่งที่ดูจะคล้ายกับ "ลำคอของก็อดซิลล่า" ซึ่งมีสีเทาเงิน และเปล่งแสงสีแดง แทนที่จะเป็นเกล็ดสีดำ และเปล่งแสงสีฟ้า ถ้าพวกเราไม่ได้เพ้อไปเอง นี่อาจเป็น MechaGodzilla ก็เป็นได้! และในนาทีที่ 1:42 ของตัวอย่างจะเห็นว่าด้านหลังของตัวละครที่รับบทโดย Shun Oguri มีหน้าจอที่แสดงสถานะการชาร์จพลังพร้อมพิมพ์เขียวรูปทรงคล้าย ก็อดซิลล่า ไม่แน่ว่าเขาอาจอยู่เบื้องหลังการมาถึงของ MechaGodzilla ก็เป็นได้
พูดถึงเหล่าไททันมาเยอะแล้ว ในส่วนของเหล่ามนุษย์โลกภาคนี้ 2 พ่อลูก Mark และ Madison Russell ยังคงกลับมามีบทบาทเช่นเคย พ่วงด้วยตัวละครใหม่ที่รับบทโดย Julian Dennison (รับบท Josh Valentine) เด็กแสบจาก Deadpool 2 และตัวละครใหม่ที่น่าจะมีบทบาทไม่น้อยคือ เจ้าหน้าที่ของ MONARCH ที่รับบทโดย Alexander Skarsgård จาก The Legend of Tarzan (รับบท Nathan Lind)
และอีก 3 เจ้าหน้าที่ของ MONARCH Rebecca Hall จาก Iron Man 3 (รับบท Ilene Andrews) Demián Bichir จาก The Nun (รับบท Walter Simmons) Eiza González จาก Baby Driver (รับบท Maya Simmons) แต่คนที่น่าจับตาสุดคือ Shun Oguri นักแสดงชาวญี่ปุ่นจาก Crows Zero ที่มารับบทเป็น Ren Serizawa ลูกชายของ Dr. Ishiro Serizawa ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ ระหว่างสานต่องานของ MONARCH แทนพ่อ หรือจะเข้าร่วมฝ่ายวายร้าย APEX ที่มีแผนกำจัดเหล่าไททันให้หมดสิ้นไปจากโลกในนี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา