4 ก.พ. 2021 เวลา 15:12 • ครอบครัว & เด็ก
ในวันพฤหัสนี่ ผมตั้งใจว่าจะหาอะไรที่คิดว่าแจ๋วๆมาแนะนำให้ได้อ่านกันฮะ เพื่อให้เพจดูเหมือนจะมีอะไรแนะนำบ้าง 555
อย่างเช่น พฤหัสที่แล้วแนะนำเรื่อง life countdown app แล้วหลังจากนั้นผมก็คิดว่าภายในอาทิตย์นึงเราคงต้องเจออะไรที่แจ๋วๆบ้างล่ะน่า
จนล่วงเลยมาถึงเมื่อเช้านี้ ผมยังหาอะไรที่คิดว่าแจ๋วมากๆไม่เจอ เลยลองถาม ดีใจ, ลูกสาวคนโต, ว่ามีแอปอะไรที่มันดีๆแนะนำพ่อหน่อยได้ไหม
5
ดีใจวัยกำลังจะ22ปี
ดีใจก็เล่าให้ฟังถึงแอปอันนึงที่ชื่อว่า 5 minute journal เขาบอกว่าตอนเรียนที่ new york ซึ่งเป็นเมืองที่มีการแข่งขันในแทบทุกเรื่องสูงมาก (ในสายตาผม) ซึ่งแน่นอน จากอยู่เมืองไทยดีๆ พอไป new york ก็ต้องมี culture shok และเมื่อเป็นเมืองที่เป็นศูนย์รวมความแตกต่างของเผ่าพันธุ์และต่างวัฒนธรรม
2
ปัญหาที่ตามมาก็คือการปรับตัวให้เข้ากับที่ๆต้องอยู่ไปอีก 4ปี
เขามีเลยหลายเรื่องที่เครียด และเจอหลายปัญหาที่ทำให้จิตใจข้างในสะสมพลังลบไปเยอะอยู่
ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เกิด ดีใจเป็นเด็กที่มีพลังบวกเยอะมาก (ในสายตาผม) พอเขารู้ตัวว่าใจเขามันเริ่มจะลบๆแล้ว เขาก็เลยลอง search ดูว่ามีวิธีไหนช่วยแก้ แล้วเขาไปเจอ วิธีการ 5 minute journal นี้
ใน play store หน้าตาแบบนี้ฮะ
คือ พอตื่นขึ้นมา ให้เขียนสิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณอย่างซาบซึ้ง 3 เรื่อง (ของผมหรือลูกคือการขอบคุณพระเจ้า ของชาวพุทธหรือความเชื่ออื่นๆอื่นๆ อาจจะขอบคุณพระพุทธเจ้าหรือ ท่านอื่นๆได้ตามถนัด คหสต นะครับ)
3
เช่น 1)ขอบคุณที่ยังลืมตาและหายใจ และลุกขึ้นได้
2) ขอบคุณที่ครอบครัวเรายังอยู่
3) หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราโฟกัสหาจุดดีๆของชีวิตให้เจอ
13
ในรูปขออนุญาตไม่ให้เห็นสิ่งที่ผมขอบคุณนะครับ 555
แล้วพอตอนกลางคืนก็มาระลึกถึงวันนี้ว่ามีอะไรอีก 3 เรื่อง ที่ดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตของเราบ้าง ถ้ายังนึกไม่ออกก็หาทางนึกไปเรื่อยๆ จากใหญ่ไปเล็ก อย่างไรก็ต้องเจอบ้างล่ะน่า
1
แล้วสุดท้ายก็มาใคร่ครวญว่า อะไรบ้างในวันนี้ที่เราน่าจะสามารถทำให้ดีขึ้น?
ดีใจบอกว่า พอทำไปติดต่อกัน สัก 3 เดือน ดีใจรู้สึกว่าเขาสามารถที่จะโฟกัสเรื่อง positive ได้มากขึ้น แม้มีปัญหาที่ negative เข้ามา
12
เขาบอกจิตใจเขาสงบมากขึ้นเวลาที่เจอกับอะไรที่ไม่เข้าใจ เช่นนิสัยของคนที่แตกต่างและทำในสิ่งที่เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น
แล้วพอทำไปได้สามเดือน การลุกขึ้นมาเขียนขอบคุณ 3 เรื่อง และก่อนเข้านอนก็เขียนอีก สามเรื่องว่าวันนี้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตเราบ้าง? ก็กลายมาเป็น อุปนิสัย
1
ดีใจบอกบางวันก็นึกไม่ออกจนขุดในใจไปเรื่อยๆก็พบว่า อย่างน้อยเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นคือ พ่อ,แม่,ตัวเขา,และน้อง ยังไม่มีใครตายเลย
เขาเริ่มฝึกfocus เรื่องดีๆในชีวิตมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อความคิดในด้านบวกค่อยๆ กลับมาแข็งแรงขึ้นทีละนิด (คงเหมือนกับหากเราออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราก็จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น อดทนต่อความเหนื่อยล้าได้มากขึ้น)
2
ฟังแล้วก็ "เอ้อดีนะเนี่ยลูก แล้วเค้ามีทำเป็นแอปไหม" ดีใจบอก "ไม่รู้ เพราะที่ผ่านมาใช้จดเอาในสมุด" แต่เขาก็ลองหาใน app store แล้วก็พบว่า"มันมีแอปนี้ด้วยอะพ่อ"
ผมเลยรีบเข้าไปดูแอปนี้ ปรากฏว่าต้องจ่าย 4.99 usd ทีแรกผมบอกให้เขาลองหา แอปเลียนแบบซิลูกเผื่อมีให้ใช้ฟรี เขาก็หาเจอหลายยี่ห้อ เป็นลักษณะเดียวกัน ซึ่งผมก็รีบload เข้ามาเลยเหมือนกับว่าเดี๋ยวแอปนั้นเกิดเปลี่ยนใจคิดเงินขึ้นมา 555
แต่สุดท้ายเขาบอกว่า "พ่อจ่ายให้เค้าเหอะ เค้าคิด concept นี้แล้วหนูเอามาใช้แล้วมันได้ผล หนูก็ไม่ได้จ่ายอะไรช่วยเขาเลย พ่อก็จ่ายไปเถอะ ถือว่าสนับสนุนเขา"
2
ผมก็ค่อนข้างอายลูกเหมือนกันที่พ่อดันไปสอนให้เขาเป็นคนไม่สนับสนุนในผลงานความคิดของคนอื่น
(ทั้งที่ตัวเองชอบบ่นว่าคนเดี๋ยวนี้เขาฟังเพลงฟรีกันหมดแล้ว ซิกซิก)
12
ผมเลยจ่ายเพื่อสนับสนุนความคิดที่ดีของเขาอย่างภูมิใจกึ่งละอายใจทันที
วันนี้ผมเลยเริ่มใช้แอปนี้อย่างเป็นทางการ และตั้งใจว่าจะพยายามทำติดกันให้เป็นนิสัย
จึงขอมาแนะนำแอปนี้ทั้งๆที่เพิ่งลองใช้มาแค่วันเดียว แต่ได้รับการยืนยันจากลูกสาวคนโตของผมว่า concept นี้ work
4
หากท่านใดอยากรอให้ผมเป็นหนูทดลองก่อนก็ได้นะฮะ หรือจะทำไปพร้อมๆกันก็ตามอัธยาสัยเลยครับ
แล้วอีก 3 เดือนมาดูซิว่าผมจะทำได้ไหมหนอ?
มีคนบอกว่า "มีวิธีการมากมายที่จะทำให้เราไปถึงจุดหมายดังตั้งใจได้ แต่ส่วนใหญ่ที่จะไปไม่ถึงจุดหมายนั้น ก็เพราะเราดันไม่มีพลัง(ที่เรียกว่าวินัย)เพียงพอ"
ต้องมีวินัยให้ได้! (ผมพูดกับตัวเองนะครับ เหมือนในหนังญี่ปุ่น)
4
จบการแนะนำของดีประจำสัปดาห์แล้วฮะ ถือว่ารอดได้อย่างหวุดหวิดวันนี้ เกือบทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้เสียแล้ว ต้องขอบคุณดีใจผู้ชี้เบาะแสให้พ่อ
1
* ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับแอปนี้นะครับ แค่เห็นว่าน่าสนใจเลยมาเล่าให้อ่านกันครับ :)
1
แล้วพบกันใหม่ครับ
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา