4 ก.พ. 2021 เวลา 15:37 • บันเทิง
บทที่ 1 เรื่องทำงานในเมืองเชียงใหม่ (EP 2.)
หลังจากที่เผลอหลับไป นาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นเป็นเวลา 7:10 นาที ผมจึงเริ่มอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อให้ทันเวลาไปทำงาน (เวลาเริ่มทำงานใหม่ๆก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ) หลังจากนั้นผมก็เดินทางไปทำงานโดยรอรถสองแถวไปที่ไซต์งานก่อสร้าง
จะว่าไปห้องที่ผมนอนก็ยังไม่เห็นมีผีเลย เพราะก่อนเข้าป้าบอกว่าไม่มีใครเช้าเพราะเห็นผีกันเยอะ แต่สำหรับผมเมื่อคืนนี้ก็ปกติดี ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย
พอคิดได้หลังเลิกงานผมก็เลยไปวัดเพื่อทำบุญให้ผีตนนั้นซะหน่อย ซึ่งผมก็ไม่รู้ด้วยว่าผีชื่ออะไรหรือมีจริงหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แต่พอได้ทำบุญผมก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
พอทำบุญเสร็จก็กลับมาที่ห้องเพื่อกำลังจะเก็บข้าวของออกจากหอไป แต่พอมาคิดดูอีกที ผมจะต้องหาห้องใหม่ให้ได้ก่อน..
ผมจึงโทรหาพี่ที่ทำงานด้วยกันพาผมไปหาหอ แต่หอทุกทีดันเต็มหมดเลย ในวันนั้นป้าหอที่ผมอยู่ก็ถามด้วยว่าเจออะไรไหม555 ป้าเนี่ยพูดซะให้ผมกลัวเลย แต่สุดท้ายก็ไม่มีหอว่างเลย ก็เลยจำใจอยู่หอนี่ไปก่อน จนกว่าจะหาห้องได้...
คืนที่สองที่นอนผมก็ไหว้พระและแผ่เมตตาตามปกติ แต่แล้วกระเป๋าผมที่วางไว้บนโต๊ะก็ตกลงมา ตอนนั้นใจอยู่ที่ตาตุ่ม คนยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย สรุปคือก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไร กระเป๋าอาจจะหนักโน๊ตบุ๊คเพราะผมตั้งไว้มันเลยอาจจะเอนตกลงมา
วันรุ่งขึ้น (พอดีตื่นเช้า) เห็นพระเดินบิณฑบาต ก็เลยใส่บาตรเลยล่ะกัน ยังไงก็มีโอกาสล่ะ ด้วยความที่เรากลัวมาก เลยทำบุญให้เค้าไปเยอะๆเลย ซึ่งจริงๆแล้วห้องที่ผมอยู่อาจจะไม่มีผีก็ได้ แต่ผมก็ทำบุญไว้ก่อนล่ะกัน555
เวลาผ่านไป 1 เดือนก็ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร ป้าที่ดูแลหอแกถามผมว่าเป็นยังไงบ้าง เจอผีไหม..
ผมเลยตอบป้าไปว่าปกติมีคนเจอจริงๆเหรอครับ ทำไมผมไม่เจอเลย ป้าก็ตอบกลับมาว่า ป้าก็พึ่งมาดูแลที่นี่ เห็นเค้าเล่าๆกันว่าเจอผีในห้องนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ เค้าก็เล่าๆกัน ไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า?
อ๋อ ลืมบอกไปนะครับว่าผมมีสร้อยคอพระติดมากับผมด้วย สงสัยพระท่านคงไล่ผีออกไปแล้วน่ะ ผมว่า555
หลังจากจบสัญญา 1 ปี ผมก็อยู่ห้องดังกล่าวตลอด ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติและก็ไม่เจอผีด้วย ผมก็เลยคิดว่าคงเป็นเพราะคนอาจจะเล่าไปเรื่อยแหละ
หลังจากทำงานวันสุดท้าย บริษัทเค้าก็ให้ผมกลับออฟฟิศที่กรุงเทพ ผมเลยไปกินเลี้ยงฉลองกับพี่ที่ทำงานด้วย จนถึงเที่ยงคืน และจองตั๋วกลับกรุงเทพตอน 6 โมงเช้า หลังจากเที่ยงคืนผมก็กลับมากลับกระเป๋าและของเพื่อพร้อมที่จะกลับกรุงเทพ กว่าจะเก็บเสร็จก็ตี 1
ผมจึงรับอาบน้ำและเข้านอนตอนตี1 และตั้งปลุกตอนตี 5:00 เพราะผมต้องให้วินมอไซต์ไปสั่งที่ บขส
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นตอนตี 5 ผมจึงรีบอาบน้ำและรีบเก็บของออกจากห้อง ทันใดนั้นเอง
มีผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดคลุมสีขาว โผล่มาจากบนเพดานแล้วก็กระโดดใส่ตัวผม ทำให้ผมหมดสติไป...(พิมพ์ไปขนลุกไป)
มีเสียงเรียกเบาๆข้างหู เสียงดังกล่าวผมจำได้ขึ้นใจ ว่าเป็นเสียงป้าที่ดูแลหอพัก พร้อมคนมุงผมเต็มไปหมด ส่วนหลายคนก็ช่วยกันโทรเรียกรถพยาบาลให้
ป้าถามว่าทำไมถึงเปิดประตูหอไว้และมานอนที่พื้นหน้าห้อง
ผมตอบป้าอย่างไม่ลังเลว่าผมโดนผีหลอก...
ป้าบอกว่าไหนบอกว่าไม่มีผีไง
ผมจึงตอบป้าไปว่าผมเจอจริงๆผีผู้หญิง
จากนั้นผมกับป้าจึงรีบวิ่งออกจากห้องนั้นและไปคุยกับที่ชั้นล่างของหอ
สรุปคือเจอผีจังๆกับตา แถมยังกระโดดใส่ผมด้วย และผมก็ตกรถบัสที่จองไปกรุงเทพด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อนมาก
พอตั้งสติได้ก็ไปซื้อตั๋วใหม่อีกครั้ง ระหว่างที่ซื้อตั๋ว ผมก็ได้ยินทางคนขับรถพูดกับคนขายตั๋วว่า รถบัสรอบ 6 โมงเช้าที่ไปกรุงเทพคว่ำ!!!
ในใจผมคือสตั้นไปเลย ไม่รู้ว่าจะดีใจที่รอดตายจากรถคว่ำหรือเสียใจที่ผีกระโดดใส่จนหมดสติไป
ทำให้ผมได้รู้ว่าผีตนนั้นได้ช่วยชีวิตจากการที่ผมจะนั่งรถบัสคันนั้น ปัจจุบันผมก็ยังทำบุญให้เธอตลอด ไม่รู้ว่าเธอยังอยู่หรือไปเกิดแล้วก็ตาม
จบ
โฆษณา