5 ก.พ. 2021 เวลา 05:07 • ประวัติศาสตร์
“Skoptsy” นิกายสุดโต่งแห่งรัสเซีย
2
ในอดีต ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายต่างๆ ล้วนแต่เชื่อในเรื่องของพระเจ้า นรกและสวรรค์ รวมทั้งเรื่องที่พระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
แต่มีเพียงนิกาย “Skoptsy” ในรัสเซียที่เชื่อว่าพระเยซูถูกตัดอัณฑะด้วย
1
ผู้ก่อตั้งนิกาย Skoptsy คือ “Kondraty Selivanov” และเผยแพร่นิกายของตนจนมีสาวกนับพัน บางข้อมูลก็บอกว่านิกายนี้มีสาวกกว่าหนึ่งล้านคน
นิกายนี้มีการบังคับให้นักโทษและเด็กๆ เข้าร่วมเพื่อที่จะได้มีจำนวนสาวกขึ้นไปถึง 144,000 คน และด้วยตัวเลขนี้ บางคนก็เชื่อว่าจะทำให้พระเยซูกลับมายังโลก
Kondraty Selivanov
พิธีกรรมหนึ่งของนิกาย ผู้ชายและผู้หญิงจะมีการตัดอวัยวะเพศของตนเองออกเพื่อแสดงความศรัทธาในพระเจ้า และเป็นการสื่อถึงพระเยซูที่ถูกตรึงบนกางเขน
สาวกในนิกายนี้บางคนก็ตัดถุงอัณฑะ บางคนก็ตัดอวัยวะเพศทั้งหมด ส่วนผู้หญิงก็ตัดเต้านมออก
1
จริงๆ แล้วการตัดอวัยวะต่างๆ ออกจากร่างกายไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้เป็นเวลานาน ก็ได้มีบันทึกเกี่ยวกับพิธีกรรมในศาสนาคริสต์ที่มีการตัดอวัยวะบางส่วนออกเช่นกัน
หากแต่นิกาย Skoptsy นั้นเคร่งกว่านั้นมาก และมีความมุ่งหมายที่จะเข้าใกล้พระเจ้าและความบริสุทธิ์ให้ได้มากที่สุด
1
นิกาย Skoptsy ปรากฎขึ้นครั้งแรกในกลางศตวรรษที่ 18 ในบริเวณที่ห่างไกลของรัสเซีย โดยผู้ก่อตั้งเชื่อว่าหากสามารถหลุดพ้นจากบาปแห่งตัณหาได้ พวกเขาจะมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์ พวกเขาจึงทำการตัดอวัยวะเพศของตน
2
แต่แล้วในปีค.ศ.1772 (พ.ศ.2315) นิกายนี้ก็ถูกเนรเทศไปไซบีเรีย ก่อนจะกลับมาในอีก 20 ปี พร้อมกับสาวกที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ค.ศ.1817 (พ.ศ.2360) Selivanov ได้ถูกทางการจับกุม ก่อนจะส่งไปคุมขังในอาราม ซึ่งในเวลานั้น Selivanov ก็มีสาวกเป็นจำนวนมากแล้ว
Selivanov เสียชีวิตในปีค.ศ.1832 (พ.ศ.2375) หากแต่การตายของเขาก็ไม่ได้ทำให้นิกายนี้สูญสิ้นไปด้วย และภายในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 นิกายนี้ก็ได้แพร่หลายในหมู่ชาวรัสเซียทั่วๆ ไปแล้ว
นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าที่นิกายนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ก็เนื่องจากแนวคิดที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน นอกจากนั้นสาวกยังเชื่อมั่นในเรื่องของชีวิตที่เป็นนิรันดร์ การมีเซ็กส์คือบาป การตัดอวัยวะเพศคือหนทางเดียวที่จะได้ไปสวรรค์
แต่ความรุ่งเรืองของ Skoptsy ก็มาถึงจุดจบในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) เมื่อรัฐบาลทำการปราบปรามอย่างหนัก โดยการตัดอวัยวะเพศของสาวกในนิกายครั้งสุดท้ายคือในปีค.ศ.1927 (พ.ศ.2470) และภายในปีค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สาวกของนิกายก็เหลือเพียงแค่ 1,000-2,000 คน
ในทุกวันนี้ คาดว่านิกายนี้น่าจะไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว
โฆษณา