5 ก.พ. 2021 เวลา 10:00 • ความคิดเห็น
มีแต่นักวิจารณ์ ก็มีแต่พัง
ความคิดหรือการกระทำของคุณเป็น Down force (แรงดึงลง) หรือ Up force (แรงดึงขึ้น) กันแน่
นี่คือคำถามที่หายคนตอบได้ไม่เต็มปาก และไม่มั่นใจว่า ตัวเองเป็น Up force (แรงดึงขึ้น) เพราะปกติคิดว่าตนเองก็ทำงานอย่างเต็มที่ และตั้งใจทำงานอยู่แล้ว แต่พอหันกลับไปทบทวนก็พบว่าหลายครั้งการกระทำหรือความคิดของเราก็ฉุดทีมหรือเพื่อนร่วมงานไว้เหมือนกัน
เมื่อมองเข้าไปในองค์กรตั้งแต่ผู้บริหารถึงเจ้าหน้าที่ระดับล่างสุด จะพบว่าทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวองค์กรก็เช่นกัน ก็แบ่งออกเป็น องค์กรที่กำลังจะเติบโต และองค์กรที่กำลังหดตัวแบบชะงักงัน ขึ้นอยู่กับคนในองค์กรส่วนใหญ่เป็นเช่นไร
คนในองค์กรแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ
1. แบบนักวิจารณ์ : ลองมองไปรอบตัวจะพบบุคคลที่ใช้ปากทำงานอย่างเดียว (ฮั่นแน่กำลังนึกถึงใครอยู่ครับ) กลุ่มคนเหล่านี้มักจะเก่ง ในเรื่องพิพากษ์วิจารณ์ ทฤษฎีแน่นมาก แต่อย่าคาดหวังเรื่องลงมือทำนะ จะมึนทันที ในสถานการณ์ที่ต้องค้นหาวิธีแก้ปัญหา สิ่งที่พวกเขาจะทำและพูดคือ "มันยังไม่ใช่นะ" ทั่งๆที่ยังไม่มีคำตอบด้วยเช่นกัน
คนที่วิจารณ์ไม่ได้วิจารณ์เพื่อพัฒนา แต่จะวิจารณ์เพื่อโจมตี มองในเชิงลบ และภายหลังจะกลายเป็นคนที่ดูถูกคนอื่นโดยไม่รู้ตัว จะมีความมุ่งมั่นในการต่อต้าน แต่จะรู้สึกหมดไฟเมื่อให้เสนอทางแก้ไขปัญหา แม้จะปรารถนาดีกับองค์กร แต่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด กิจกรรมสร้างสรรค์ และท้าทายในองค์กรก็จะค่อยๆหายไปในที่สุด
2. แบบเฉื่อยชา : มองผิวเผินจะคล้ายนักวิจารณ์ เพราะมองในแง่ลบ แต่ที่แตกต่างคือ ทำอะไรจะเชื่องช้า ต้องสั่งจึงขยับ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมองตัวเองในแง่ร้ายไม่เอาไหน ขณะนักวิจารณ์จะมองว่าตัวเองเก่ง คนแบบเฉื่อยชาจะมองตัวเองว่าไม่สามารถทำอะไรให้ดีขึ้นไปกว่านี้ได้ ทำไปถ้าเกิดผิดพลาดหรือไม่สำเร็จ ก็มีแต่ขายหน้า จึงพอใจที่จะอยู่เพียงแค่นี้ ทำให้ไม่ปรารถนาที่จะเรียนรู้และต้องการที่จะท้าทายอะไร จึงไม่มีศักยภาพที่จะแสดงไอเดียออกมา จากนั้นไม่นานเพื่อนก็จะมองว่า คนไม่มีความคิด ก็จะเข้าสู้วงจรชั่วร้ายที่มีแต่การนินทา
3. แบบหัวดื้อ : จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ 2 ประเภทแรก เป็นคนมีไอเดีย แต่รีบร้อน รีบเร่ง คิดจะไปข้างหน้าอย่างเดียว ซึ่งโดยปกติถ้ามีไอเดีย จะต้องวางแผน และฟังความเห็นจากคนรอบข้าง แม้จะมีความตั้งใจ แต่มักจะหมดลงกลางทาง ถ้าเจอกับปัญหาที่น่าปวดหัว เขาจะก้าวถอยหลังทันที คนใจกล้าแต่ไม่มีการเตรียมพร้อมกับความเสี่ยง ความล้มเหลว ก็ไม่ต่างกับการโอ้อวด
4. แบบนักแก้ปัญหา : จะหาคำตอบมาจนได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม "จิตวิญญาณสุดพลัง" กลุ่มนี้จะชอบเรียนรู้ พยายามหาคำตอบ เสียสละตนเองที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย และประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง มองว่างานที่คนอื่น มองว่ายาก เป็นงานที่มีเสน่ห์ การแก้ปัญหา คือ การถ้าทายความสามารถตัวเอง
แล้วคนแบบนี้ทำงานอย่างไร?
1. เมื่อได้งาน เขาจะจัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วน และระยะเวลาในการทำงาน
2. นักแก้ปัญหาเก่ง จะคิดว่า ต้องทำเสร็จเมื่อไหร่ และใช้มาตรฐานอะไรในการวัดผลงาน หากเกิดความล้มเหลวหรือผลงานต่ำเขาจะรู้สึกผิดราวกับ CEO เลยทีเดียว แต่สิ่งสำคัญเขาจะไม่ท้อแท้ เพราะเขาคิดว่าหากล้มเลิกก็เท่ากับจบ
นี่คือส่วนหนึ่งในหนังสือ : มองแต่ปัญหา คนชนะมองหาทางออก
เขียนโดย : คิมซองโฮ
แปลโดย : ภัททิรา จิตต์เกษม
Learn to goal BY จตุพร ศิริสวัสดิ์
โฆษณา