5 ก.พ. 2021 เวลา 16:38 • ครอบครัว & เด็ก
#ถ้าอยากประหยัด...#จงซื้อของแพง
“ซื้อของแพงเพื่อจะได้ประหยัดเนี่ยนะ?”
ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรเลย...
ความย้อนแย้งในประเด็นที่คุณคาเมดะ จุนอิชิโร ได้เขียนไว้ในหนังสือ “ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว” กระทบใจจนต้องรีบมาแบ่งปัน
คุณคาเมดะเป็นที่ปรึกษาให้กับประธานบริษัทจำนวนมากในญี่ปุ่น ทำให้มีโอกาสสังเกตและศึกษาแนวคิดของผู้บริหารมากมาย วันหนึ่งเขาเห็นประธานบริษัทคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าเขา ถือร่มในวันฝนตก ร่มคันนั้นดูหรูมาก ถามดูจึงรู้ว่า ซื้อมาในราคา 5 หมื่นกว่าเยน คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 16,xxx บาท
คุณคาเมดะสงสัยว่า ลูกค้าเขาซื้อร่มราคาแพงขนาดนั้นด้วยเหตุผลอะไร?
เขาบอกว่า “ถ้าไม่เจอร่มคันนี้ เขาคงจะซื้อร่มถูกๆในลักษณะเดียวกันไปอีกหลายคัน และสุดท้ายก็จะกลายเป็นความฟุ่มเฟือย เขากัดฟันซื้อร่มราคาแพงคันนี้ด้วย 2 เหตุผล ข้อแรกเพราะเขาอยากได้ร่มคันนี้จริงๆ ตั้งใจจะใช้มันอย่างทนุถนอมไปจนตลอดชีวิต และอีกเหตุผลคือเพื่อป้องกันการใช้เงินฟุ่มเฟือยของตัวเขาเอง”
…..
กลับมามองดูสิ่งของที่อยู่รายล้อมตัวเอง
เห็นแต่ของราคาครึ่งๆ กลางๆ เต็มไปหมด
แม้จะจัดบ้านหลายต่อหลายครั้ง
โละแจกไปก็หลายถุง แต่ของก็ยังคงเยอะเหมือนเดิม
ความที่ต้องการประหยัด
จึงพยายามซื้อของราคาถูก
โดยเฉพาะงานป้าย sale
และมากกว่า 90% พบว่า
ของที่ซื้อมาเหล่านั้นไม่ได้ใช้เลย
มุมมองที่ซื้อของถูก เพราะคิดว่าจะประหยัดได้นั้น ไม่เคยจบกับการสนอง need ของตัวเองเลย
เพราะความที่สิ่งของไม่ตอบโจทย์ในใจอย่างแท้จริง จึงทำให้มักจะไปแสวงหาของในลักษณะเดียวกันอีก และหลายครั้งที่ยอมจ่ายแพงกว่าเดิมขึ้นอีกนิดนึง
เพียงแค่เพราะคิดว่า
“มันน่าจะดีกว่าอันเดิมนะ...ลองดู”
จึงกลายเป็นว่า...
มีของแบบเดียวกันนี้หลายชิ้น และไม่ได้ใช้
#เราได้เพาะนิสัยสุรุ่ยสุร่ายขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อใจไม่ได้ถูกเติมเต็ม...แน่นอนว่า...
ย่อมต้องแสวงหาเรื่อยไปจนกว่าจะได้
เสื้อผ้าที่ค้างตู้ไม่เคยใส่จนมัน out เทรนด์
รองเท้าที่ซื้อเพราะ sale ใส่แค่ครั้งเดียว
แล้วมันก็วางอยู่ในตู้จนหนังเปื่อย...
ยิ่งซื้อของถูกเท่าไร
ยิ่งสร้างนิสัยสุรุ่ยสุร่ายมากเท่านั้น
มีเสื้อตัวหนึ่งที่ยอมควักเงินจ่ายในราคาที่แพงกว่าเพื่อน แต่มันกลับให้ประสบการณ์กับเราว่า “คุ้มค่า”
เพราะเมื่อไรที่เห็นแขวนอยู่ในตู้
เป็นต้องหยิบมันขึ้นมาใส่
ใส่แล้วซักเสร็จก็อยากใส่ต่อทันที
ดูแล้วน่าจะเป็นเสื้อที่ใส่บ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้
สีและแบบก็ไม่เอ้าท์ ด้วยเพราะดีไซเนอร์
เขาทำการบ้านมาแล้วเป็นอย่างดีนั่นเอง
เครื่องดูดฝุ่นเครื่องแรกในชีวิต
ที่แลกมาด้วยราคา 2 หมื่นกว่า ที่ซื้อไว้เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตั้งแต่วันแรกที่ซื้อจนถึงวันนี้
พี่เจนไม่เคยกังวลกับเรื่องความสะอาดของห้องอีกเลย กลับจากทำงานได้เจอห้องสะอาด รู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุข
พี่เจนตั้งชื่อเค้าว่า “บุญหลาย”
ตั้งแต่ได้รับมา ถึงเวลา 7 โมงเช้า
บุญหลายก็ออกมาทำความสะอาด
ตรงเวลาเป๊ะ ไม่เคยบิดพลิ้ว
ทำเสร็จก็กลับเข้าบ้านเอง
ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนแม่บ้านอีก
และไม่ต้องคอยบ่นเรื่องห้องฝุ่นเยอะอีกเลย
นอกจากเปลี่ยนให้เค้าอะไหล่เมื่อถึงวาระ
เป็นสินทรัพย์ที่รู้สึกคุ้มค่ามากสุดๆๆเลย
พี่เจนได้หลักคิดเกี่ยวกับเรื่องการซื้อของว่า
1. อย่าซื้อเพราะราคาถูก แต่ให้ซื้อเพราะต้องการจริงๆ หลุดจากกรอบกลไกราคาได้ จะเป็นอิสระ
2. ซื้อสิ่งที่เพิ่มมูลค่าได้ มูลค่าในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่ มูลค่าสิ่งของเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือ สิ่งของนั้นสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเราได้
ยิ่งถ้าของที่เราซื้อมา สามารถส่งต่อเป็นมือ 2 ได้ และสิ่งนั้นยังมีมูลค่าอยู่อย่างน้อย 70% ของราคาซื้อ จะยิ่งเป็นการลงทุนที่ภาษาจีนเรียกว่า 一举两得 yì jú liǎng dé ยิงปืนนัดเดียวได้สองประโยชน์
เรื่องถูกแพง เป็นเรื่องของมุมมองที่ต่างกัน
ของราคา 10 บาท ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้
ของนั้นแพงมากที่สุด
ตรงกันข้าม ของราคา 1 หมื่น
หากซื้อมาแล้วได้ใช้ประโยชน์ทุกวัน
ของนั้นถูกที่สุด
เพราะมันได้สร้างประโยชน์ให้กับเราตลอดเวลา
ความตั้งใจของการเขียนบทความนี้
มาจากส่วนตัวพี่เจนเองได้เห็นนิสัยการใช้เงินของตัวเอง และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คิดว่าอุปนิสัยนี้ของตัวเอง
อาจจะสะท้อนและเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
ส่วนการจะซื้อของราคาเท่าไร
อยู่ที่ความพร้อมของแต่ละคน
ซึ่งไม่เหมือนกัน
ไม่ว่าตอนนี้เราจะซื้อของได้แบบไหนก็ตาม
แต่ถ้าใจเราไม่ดูถูกตัวเองว่าไม่คู่ควรกับสิ่งนั้น สักวันเราจะมีอย่างที่เราคิดไว้
และสิ่งของที่ซื้อในปัจจุบันก็เหมือนเพื่อนร่วมทาง เราได้ใช้สอย ได้ทำประโยชน์อะไรต่ออะไรมากมาย เรารู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณสิ่งนั้นๆจริงๆ
 
เราทุกคนมีสิทธิ์ฝันได้
หากฝันนั้นเป็นพลังงานที่ทำให้เรามีแรงสู้ต่อ
จงฝันต่อไป...แล้วทำให้มันเกิด
#เล่าจากประสบการณ์
#ฝึกวันละนิด
#ก้าวหน้าวันละ1%ก็เยี่ยมยอดแล้ว
โฆษณา