5 ก.พ. 2021 เวลา 21:38 • การ์ตูน
How to ดูการ์ตูนยังไงให้ได้ความรู้เรื่องศาสนา!! By TT.Anime
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมดูเรื่อง Fire Force อยู่ใช่มะ เป็นเรื่องแนวต่อสู้กับพวก 'คนไฟลุก' โดยการกำจัดพวกเนี้ยเค้าจะเรียกว่า การ 'ปลดปล่อย' ซึ่งก่อนที่เราจะปิดฉากก็จะมีการสวดโดยให้ 'ซิสเตอร์' เป็นผู้กล่าวและในคำสุดท้ายจะกล่าวว่า Látom ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับ
Látom (ลาทัม) ถ้าแปลตรงตัวจะแปลว่า 'I see it' ประมาณว่า ฉันเห็นมันแล้ว รับรู้แล้ว อะไรทำนองนี้ ถ้าเปรียบเหมือนบ้านเราก็ สาธุ ในศาสนาพุทธ ผมเชื่อว่าทุกคนที่นับถือศาสนาอย่างเวลาเราสวดมนต์เนี่ยต้องเคยพูดใช่ไหมครับ แล้วทุกคนรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของคำเหล่านี้รึเปล่า มาฟังคำตอบกัน
ความเป็นมาของคำว่า "สาธุ"
มีเรื่องเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลว่า ชายคนหนึ่ง อยู่ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ได้ฟังพระแสดงธรรมเทศนาแล้วเห็นโทษในการครองเรือนมีความปรารถนาจะขอบวชเพื่อ แสวงหาความสงบในสมณธรรม จึงลาจากภรรยาไปบวช ได้ตั้งใจพากเพียรในสมณธรรมตามที่ปรารถนาไว้ตลอดมา
ต่อมาพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงพบหญิงผู้เป็นภรรยาของชายคนนั้น และเมื่อทรงได้ทราบเหตุความเป็นมาทั้งหมดจึงเกิดสมเพชในนางผู้เป็นภรรยา รับสั่งให้นำหญิงนั้นมาเลี้ยงไว้ในพระราชวัง ตั้งเป็นท้าวนางกำนัล
อยู่มาวันหนึ่ง ราชบุรุษนำดอกนิลุบลบัวเขียวมาถวายพระเจ้าปเสนทิโกศลกำมือหนึ่ง พระองค์จึงประทานแก่ท้าวนางคนละดอก
ฝ่ายสตรีที่เป็นภรรยาของชายที่ไปบวชนั้น เมื่อไปรับพระราชทานก็ยิ้มแสดงความยินดีดุจนางอื่นๆ แต่พอดมกลิ่น​นิลุบลแล้ว นางกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงร้องไห้
พระเจ้าปเสนทิโกศลสงสัยพระทัย จึงตรัสถามว่า เหตุใดนางจึงยิ้ม​ แล้วร้องไห้
นางจึงกราบทูลว่า ที่นางยิ้มเพราะดีใจที่ทรงพระกรุณาประทานดอกบัวให้ แต่พอดมดอกบัวแล้วหอมเหมือนกลิ่นปากของสามีที่ไปบวช นางคิดถึงความหลังจึงร้องไห้
พระเจ้าปเสนทิโกศลต้องการ พิสูจน์วาจาของนาง จึงโปรดให้ประดับวังด้วยของหอมทั้งปวง​ เว้นแต่บัวนิลุบล แล้วอาราธนาสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า และเหล่าภิกษุสงฆ์ให้มาฉันภัตตาหารในพระราชวัง แล้วมีพระราชดำรัสถามหญิงนั้นว่า พระมหาเถระองค์ไหนที่นางอ้างว่าเป็นอดีตสามี หญิงนั้นก็ชี้ไปที่พระมหาเถระ
เมื่อเสร็จภัตตกิจแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลอารธนาให้พระพุทธเจ้า และภิกษุองค์อื่นๆ กลับวัดไปก่อน เว้นพระมหาเถระขอให้อยู่เพื่อกล่าวอนุโมทนากถา​ เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จกลับไปแล้ว
พระมหาเถระจึงกล่าวสัมโมทนียกถา​ อนุโมทนาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะและมีกลิ่นดอกบัวหอมฟุ้งออกจากปากพระเถระรูปนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ กลบเสียซึ่งกลิ่นดอกไม้ของหอมทั้งปวง กลิ่นปากของพระมหาเถระหอมฟุ้งไปทั่วพระราชวัง ดังกลิ่นการบูรและพิมเสนผสมกฤษณา หอมยิ่งกว่าดอกบัวนิลุบล
ปรากฏการณ์นี้ปรากฏแก่ชนทั้งหลายในพระราชวัง ส่วนองค์มหากษัตริย์เมื่อเห็นจริงดังหญิงนั้นกราบทูล ก็ทรงโสมนัสน้อมนมัสการ ฝ่ายพระมหาเถระเสร็จสิ้นการอนุโมทนาแล้ว ก็กลับไปสู่วิหาร
ครั้นพอรุ่งเช้าพระเจ้าปเสนทิโกศลจึงเสด็จไปสู่พระ วิหาร ถวายนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลถามว่า
"เหตุใดปากของพระมหาเถระ
จึงหอมดังดอกอุบลเช่นนั้น
ท่านได้สร้างกุศลใดมา"
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า "เพราะบุพชาติปางก่อน ภิกษุรูปนี้ได้ไปฟังพระสัทธรรมไพเราะจับใจ เต็มตื้นด้วยปีติยินดี จึงได้เปล่งวาจาว่า "สาธุ สาธุ สาธุ" เท่านั้น
อานิสงส์แห่งการฟังพระสัทธรรมได้ส่งผลให้ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และด้วยอานิสงส์แห่งการเปล่งวาจาสาธุการว่า สาธุ สาธุ สาธุ เพียงเท่านี้ จึงได้ส่งผลให้ท่านมีกลิ่นปากหอมดังดอกอุบล เป็น​ดังนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วนทีเดียว"
น่าอัศจรรย์จริงหนอ..เห็นไหมละ การเปล่งสาธุการ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยจิตเลื่อมใส ด้วยจิตอนุโมทนาในกุศลผลบุญทั้งหลาย ย่อมมีอานิสงส์ดั่งในบุญกริยาวัตถุ10 ที่ได้บัญญัติไว้...
และผลดีอีกประการหนึ่ง ของการกล่าวสาธุการนี้ ย่อมทำให้ปิดกั้นกระแสบาปเสียได้ คืออกุศลจิต ที่คิดริษยาในการทำความดีของผู้อื่นย่อมไม่ปรากฏ ไม่เกิดขึ้นแก่ผู้ที่กล่าวสาธุการอยู่เป็นนิตย์ จิตของเขาย่อมผ่องใส เป็นทางมาแห่งบุญกุศล และย่อมเข้าถึงกระแสแห่งธรรมด้วยจิตอันทรงไว้ซึ่งความยินดีในบุญต่างๆ
แต่ก็มิควรที่จะกระทำการสาธุโดยมัวเมาเปรยประโยชน์ให้เกิดเป็นโมหะจริต ด้วยหลงไปกับการเห็น พบ เจอ อะไรๆก็ กล่าวสาธุ สาธุ หรือสักแต่ว่าสาธุ โดยมิได้วางซึ่งจิตและใจของตนให้ยินดีจริงๆซึ่งบุญกาละกิริยานั้นๆที่เกิด
ก็ยังมีอีกหลายเรื่องเลยนะครับที่มีการสอดแทรกเรื่องของศาสนาเข้าไปเพื่อให้เกิดความน่าสนใจในเรื่อง หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ บายๆ😊
โฆษณา