🐕Oogy หมาหน้าเบี้ยวกับโลกที่ไม่เบี้ยวของ Oogy
เรื่องของ Oogy เริ่มต้นขึ้นในวันนึง เมื่อ Larry Levin พาลูกชายฝาแฝดสองคน Noah และ Dan ไปที่โรงพยาบาลสัตว์ในรัฐ Pennsylvania สหรัฐอเมริกา เพื่อทำการการุณยฆาตแมวอายุ 17 ปี สัตว์เลี้ยงของครอบครัว ที่โรงพยาบาลสัตว์ Larry ได้เจอเข้ากับ Oogy (ในคอนนั้นยังไม่มีชื่อ) Oogy เป็นสุนัข PitBull สีขาว แต่ใบหน้าข้างหนึงของ Oogy กลับแหว่งและเป็นแผลเหวอะหวะ หูของ Oogy ข้างนั้นหายไป Larry นึกว่า Oogy โดนไฟไหม้มา แต่สัตว์แพทย์อธิบายว่า จริงๆแล้ว Oogy เป็นหมาที่ตำรวจช่วยมาจากการเข้าจับกุมแหล่งค้ายาเสพติด หน้าของ Oogy ไม่ได้โดนไฟไหม้ แต่ Oogy เคยเป็น “หมาเหยื่อ” หรือ Bait Dog มาก่อน
**ในสังคมของพวกค้ายา หรือทำงานผิดกฎหมาย มีไม่น้อยที่ยังชอบทำเรื่อง Dog Fight Ring หรือเอาหมามาสู้กันโดยเฉพาะหมา PitBull โดยจะมีการเทรนหมาให้ก้าวร้าวและดุ ที่แย่ที่สุดคือจะหาหมาอื่นจับโยนเข้าไปในกรง เพื่อให้หมาเหล่านั้นฝึกกัด ฝึกสู้และฝึกฆ่า 😢😢😢 Oogy ก็เป็นหนึ่งในหมาเหยื่อเช่นกัน ใบหน้าของ Oogy ถูกกัดและกระชากออก เส้นเลือด หู ผิวหนัง หลุดหายไปจำนวนมาก ในกระโหลกของ Oogy มีรูกว้างเท่าลูก Soft Ball และ Oogy ถูกทิ้งให้นอนซมอยู่อย่างนั้น ไม่มีการรักษา ไม่มีน้ำไม่มีอาหารอย่างน้อยๆสองสามวันด้วยกัน ก่อนตำรวจจะเจอ
Larry และครอบครัว ตัดสินใจรับ Oogy มาเลี้ยง นอกจากจะไม่มีนิสัยดุร้ายแล้ว Oogy ยังเป็นสุนัขที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่สุดสำหรับลูกชายฝาแฝดของ Larry หลังจากถูกรับมาเลี้ยง Oogy ต้องเข้ารับการผ่าตัดใบหน้าสามครั้งด้วยกัน ครั้งสุดท้าย Oogy ติดเชื้อหนัก เพราะมีขนกับเศษหนังเข้าไปติดอยู่ข้างในแผล แต่ Oogy ก็รอดมาได้ และในภายหลัง ทุกคนพึ่งรู้ว่า Oogy น่าจะเป็นพันธ์ Dogo Argentino แต่นั้นไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนไปเลย
ครอบครัวมนุษย์ของ Oogy รัก Oogy มาก และพา Oogy ไป เดินสายทำงาน เพื่อพลักดันให้มนุษย์รับรู้ความโหดร้ายของการสู้หมา Oogy ได้ไปออกทีวีกับ Oprah Winfrey พิธีกรชื่อดัง ในปี 2008 เรื่องของ Oogy โด่งดังเป็นอย่างมาก จนมีคนมาติดต่อให้ Larry เขียนหนังสือ และในที่สุด Larry ก็เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “Oogy : The Dog only a family could love” ในปี 2011. โดยตัวเรื่องจะเน้นไปถึงเรื่องการ adoption (เพราะลูกชายฝาแฝดของ Larry ก็ถูก adopt มาเหมือน Oogy) และเรื่องการต่อสู้ การใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักของ Oogy
ช่วงชีวิตของ Oogy นอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆทั่วอเมริกาหันมาเก็บหอมรอมริบและเข้าร่วมกิจกรรม fund raising เพื่อบริจาคเงินให้กับ shelter ต่างๆ
สิ่งที่ Oogy มีบทบาทเป็นอย่างมาก โดย Oogy กับ Larry มักจะเป็นอาสาสมัครไปเยี่ยมเยียนที่คุกใกล้ๆบ้าน เพื่อเข้าพูดคุยกับนักโทษที่เข้าร่วมโครงการฝึกสุนัขจากในคุก เพื่อให้สุนัขนั้นมีโอกาสได้รับการ adopt มากขึ้น แต่นอกจากนั้น Larry ยังชอบพูดคุยกับนักโทษเกี่ยวกับเรื่องการสู้หมา เพราะคนพวกนี้ละ มักจะมาจากสถานที่แหล่งชุมชนที่เห็นการสู้หมาอยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้ง บางคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาด้วยซ้ำ “They go back into the communities where dog fighting is endemic, and they’ve got this changed view,” Larry กล่าว
12 ปี หลังจากที่รับ Oogy มาเลี้ยง ทั้ง Larry และครอบครัวต้องบอกลากับ Oogy ซึ่งในขณะนี้มีสุขภาพชรามากและไม่สามารถเดินเหินเหมือนเก่า Larry รู้ว่า ถึงแม้ทุกวันใน 12 ปีที่ผ่านมา Oogy จะเข้ามาเติมเต็มและให้ความสุขกับผู้คนมากมายซักเพียงไหน แต่สุดท้ายแล้ว Oogy ก็ต้องเผชิญกับสิ่งที่ทุกคนเลี่ยงไม่ได้ นั้นก็คือความตายนั้นเอง
🐶🐶>>> เราเคยอ่านหนังสือเรื่องของ Oogy ตอนเราอยู่ที่ไทย ฉบับภาษาไทยด้วย ตอนนี้นึกขึ้นได้เลยอยากเอาเรื่องของ Oogy มาเล่าให้ฟัง Oogy ผู้ซึ่งถูกมนุษย์ใจบาปทำร้ายจนปางตาย กลับยังมีแต่ความรัก ความซื่อสัตย์ให้กับมนุษย์ และใช้ชีวิตทุกวันเหมือนกับว่า Oogy ได้เกิดใหม่ แม้ว่าใบหน้าของ Oogy จะเบี้ยวแค่ไหน แต่ใจของ Oogy นั้นไม่เบี้ยวเลยจริงๆ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
