6 ก.พ. 2021 เวลา 03:50 • ประวัติศาสตร์
#ตอนที่๔▪️โก๋ หลังวัง▪️วัยรุ่นประลัยกัลป์
1
หน้าโรงภาพยนตร์คิงส์คับคั่ง โก๋, กี๋, ตี๋ และหมวย โดยไม่นับเพลย์บอยรุ่นเก๋า...ข่าวการฟาดฟันและยิงกันด้านหลังโรงภาพยนตร์ควีนส์ บัดนี้มีตำรวจทั้งใน-นอกเครื่องแบบคอยสังเกตการณ์อยู่ทั่วๆ บริเวณนั้นแล้ว เรื่องร้ายข้อหาพยายามฆ่าและกลุ้มรุมททำร้ายกันถูกลืมไปชั่วระยะทางที่เดินจากควีนส์มาคิงส์เท่านั้นเอง
#หมี_ท่าเรือ #ต้อง_คลองเตย กับ #สงห์_ไผ่ตัน สามวัยรุ่นอดีตสมุน #พัน_หลังวัง ผู้มาณัง บัดนี้ต่างเข้าสวามิภักดิ์กับดาวดังย่านเพชรบุรีตัดใหม่ #บัง_โบลิ่ง ด้วยจุดประสงค์ซึ่งต้องการอาศัยบารมีวัยรุ่น “โบลิ่ง” ชำระหนี้เก่าที่เจอ #เก๊า_ม้าเก็ง ตบด้วยปืนบนโต๊ะบิลเลียดบำเพ็ญบุญนั้นเอง
เพราะสามประลัยกัลป์รู้ว่า เก๊าตี๋ กับ บัง โบลิ่ง กำลังเชือดเฉือนกันในเรื่องผลประโยชน์ที่ #เก๊า_ม้าเก็ง ผู้พี่ได้ขยายอำนาจและอิทธิพลหวังฮุบย่านคาบาเร่ต์แถวเพชรบุรีตัดใหม่คุมเสียเอง
โดยให้ #สุมาอี้ น้องคนรองกับ #เก๊าตี๋ สั่งเด็กออกก่อกวน แต่ก็ยังไม่บังเกิดผลนักสำหรับการข้ามไปยังถิ่นของวัยรุ่น #บัง_โบลิ่ง ดังนั้นแผนงานถล่มเก๊าตี๋ที่กำหนดไว้ในวันนี้จึงเกิดพลาดเป็นหมันไปอย่างถนัดใจ เนื่องจากเกิด “เซอร์ไพรส์” ด้วยวัยรุ่นตาเสือเกิดบรรเลงศึกกับ #ซาตี๋ เสียก่อน
ข่างดังกล่าว #เอ็ด_หลังวัง รู้มาเช่นกันแต่เมื่อพลิกล็อกเปลี่ยนคู่ราวี เขาจึงไม่สนใจ ทว่าน้ำใจนักเลงของเขายังอดห่วงใย บัง โบลิ่ง ไม่ได้ ด้วยตลอดเวลามี่เขาไ้ด้ถูก #แหลมสิงห์ เพื่อนซี้ #แดง_ไบเล่ย์ กระซวกพุงจนต้องนอนเพียบอยู่ที่ศิริราชก็มีวัยรุ่นตัวแสบผู้นี้แหละคอยเยี่ยมเยียนเขาไม่ต่างกว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งห้า #เฟือง
ประตูโรงภาพยนตร์คิงส์เปิดรอบปฐมทัศน์ผู้คนทะลักกันเข้าประตูราวกับกรุงเทพฯ เจอการบอมบ์ของข้าศึกทางเวหา จนต้องมุดเข้ารูหลบภัย วัยรุ่นวังบูรพาเดินเบียดเสียดฝูงชนอย่างระมัดระวังตัวเป็นพิเศษร่างหนึ่งแทรกกลุ่มคอหนังเข้ามาหา
“ไอ้บัง” เขาอุทานเบาๆ
“ไอ้เหี้ยผิดฟอร์มหมด มึงรู้ไหมใครยิงไอ้ซาตี๋” ถามขณะเดินคลอกันไปหานัมเบอร์ที่นั่ง
“พี่ชายมันยิงขณะอยู่บนรถ” วัยรุ่นปาทานเสริม
“สุมาอี้หรือ?” ดาวดังวังบูรพาซัก
“ไอ้เก๊า ม้าเก็ง...”
“ยังงั้นแสดงว่า มันเตรียมรอเก็บอยู่ก่อนแล้ว”
“เออ..เมื่อพลาดโอกาส กูจะตามเล่นพวกมันตอนหนังเลิก”
“เฮ้ย! สก๊อตเป็นร้อย มึงหนีไม่พ้นหรอก”
“กูจะยิงมันตอนขากลับ ขับรถตามมันไปพอได้จังหวะกูเป่าเอง เพราะกูให้เด็กไปเอารถมาคอยไว้แล้ว”
บริกรโรงหนังเดินฉายไฟมาหา การสนทนาของสองดาวดังจึงยุติ
“เดี๋ยวให้รู้ที่นั่งก่อนค่อยสับที่คุยกันโว้ย”
หลังการพูดจากันแล้ว เอ็ด หลังวัง กลับมานั่งรวมเก้าอี้หมู่เดียวกับพรรคพวกโดยไม่พูดจาอะไร คงทุ่มใจและสายตาให้กับ “ร็อคในตะราง” อย่างใส่ใจสนใจเต็มที่ ส่วนภายในโรงภาพยนตร์มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงปรบมือกระทืบตีนให้จังหวะไม่ต่างกับโลกบันเทิงคือชีวิตจริงของพวกเขา
ออกจากโรงภาพยนตร์คิงส์ เอ็ด หลังวัง ยังคงจับกลุ่มอยู่กับห้าเฟืองเพื่อนซี้ จนกระทั่งเห็นกลุ่มของเก๊าตี๋ก้าวขึ้นแท็กซี่ โดยมีแท็กซี่ป้ายดำของ บัง โบลิ่ง ติดตามไปเรื่อยๆ ตะวันเลยหัวไปเล็กน้อยวันรุ่นวังบูรพายังคงยืนครุ่นคิดอยู่ข้างนครถ้ำจน #เวียน_วังแดง สงสัย
“มึงจะรอใคร? หรือจะไปไหน?”
“กลับบ้านก่อนดีกว่า กูมีเรื่องต้องคิด” เขากล่าวพร้อมกับโบกมือเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งยังเคหาซอยวัฒนา
ทางด้าน บัง โบลิ่ง ให้สมุนขับรถตามแท็กซี่ของนักเลงตาเสือจนมาติดไฟแดงตรงสี่แยกสะพานดำเขาพยายามให้โชเฟอร์เบียดรถเข้าไปให้ใกล้แต่ก็ไม่อาจหลุดออกมาได้ ดาวดดังย่านเพชรบุรีตัดใหม่ดึงปืน .38 ออกสำรวจพร้อมกับออกคำสั่งแก่อดีตสามมือดีของ พัน หลังวัง
“มึงไม่ต้องติดรถไปเพราะจะยุ่งยากในการหลบหนี หากถูกรถวิทยุติดตาม”
ทั้งสามต่างลงจากรถขณะติดไฟแดง โดยไม่มีการซักถาม ไฟเขียวเปิดทางผ่าน แท็กซี่ของวายร้ายชื่อกระฉ่อนกำลังหักเลี้ยวเข้าสวนมะลิ
“ขับแซงขึ้นเลย พอกูยิงเสร็จ มึงบึ่งรถตรงไปทางวัดสระเกศ เร็ว!!”
โชเฟอร์แซงหลบรถคันหน้า เขาประทับปืนพาดหน้าต่างรถและเหนี่ยวไก เสียงระเบิดของกระสุนเหล็กในมือ บัง โบลิ่ง กระหน่ำถี่ยิบไปยังรถแท็กซี่ราวประทัดแตก!!!
พาหนะของวัยรุ่นตาเสือแฉลบเข้าชนรถเก๋งทางด้านแถบขวามือ บังเกิดเสียงดังโตรมติดต่อกันจนรถหยุดนิ่ง ส่วนรถมหาภัยบรรทุกมือปืนตะบึงลิ่วหายไปตามแผน ผู้คนบนรถเก๋งที่ถูกแท็กซี่ชนเละถึงสามสี่คันลงมาดูเหตุการณ์พร้อมกับประชาชนทั้งสองฝั่งบนถนนก็ลงมาสร้างความวุ่นวายให้การจราจรติดขัดจนตำรวจต้องมาดำเนินการ
บัง โบลิ่ง กำหนดซะตาชีวิตของ เก๊าตี๋ พลาดเพราะเป้าการยิงเคลื่อนที่กระสุนปืนจึงไพล่ไปโดนบริวารของเขา ที่ถึงอาการสาหัสเพียงคนเดียว นอกนั้นกระสุนเจาะตัวถังรถจนพรุน เรื่องทั้งหมดมอบให้เจ้าหน้าที่ควานหาตัวมือปืนต่อไป #เอ็ด_หลังวัง วางหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าลง เขาเอ่ยกับกลุ่มนักเรียนนักเลงทั้งห้า ซึ่งกำลังแต่งตัวไปโรงเรียน
1
“ไอ้บังทำงานพลาดจนได้ และต่อไปกูอาจจับหลักทำงานที่ก็ไม่ชอบเสียแล้ว”
“มึงหมายความถึงเรื่องที่พูดกับไอ้บังในโรงหนังใช่ไหม?” #ขวัญ_ศรีเมือง กังขาเพราะคิดได้ว่าวายร้านวังบูรพาลุกไปนั่งคุยกับ #บัง_โบลิ่ง ก่อนหนังฉาย
“นั่นล่ะ....” เขารับคำ “ก็ไม่เคยคุมบาร์ คุมบ่อน หรือโรงแรม แต่ไอ้บังเสนองานเพราะมีเสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการนั่นแหละต้องการตัวกู”
“ใครกันวะ?” #เข้_วังแดง ร้อนองค์เพราะอยากรู้
“เสี่ยสุวิทย์ เจ้าของภัตตาคาร อยู่แถวโคลี่เซี่ยม”
คำตอบของ #เอ็ด_หลังวัง พาให้ทุกคนปิดปากตัวเอง เจ้าของเรื่องระบายลมหายใจยาวเขามองดูชุดสีน้ำเงินของเพื่อนอย่างปิติภาคภูมิอยู่เพียงลำพัง
“กูอาจรับงาน เพราะเป็นทางเลือกที่กูจะอยู่ได้ อันที่จริงพวกมึงก็รู้ว่าคนอย่างกูไม่ชอบเป็นมือ-ตีนใคร แต่การไม่มี “ปลอกคอ” เสียเลยถนนไม่มีกว้าง ชีวิตอาจสั้น!?” เขาเน้นเสียงหนักแน่น
“มึงจะต้องจับปืน แล้วอาจฆ่าคน?” #เวียน_วังแดง ติงด้วยความเป็นห่วง
“กูชักไม่อยากเรียนแล้วโว้ย! ดูเหมือนยิ่งเรียนยิ่งโง่” วัยรุ่นอินทรีขาว #ดำ_ม้าเหล็ก โพล่งออกมาขณะคาถุงเท้าไว้แค่ปลายตีน
“มึงอย่าเสือกบ้า คนที่ตั้งใจเรียนจริงให้โง่แค่ไหน สักวันต้องฉลาด อีกทั้งมึงก็ไม่ใช่คนโง่” ดาวดังหลังวังแหวใส่เพื่อน
เด็กดังเมืองเหนือกระแทกถุงเท้าพรวดเข้าอุ้มตีนอย่างหัวเสียขณะลุกขึ้นยืนหยิบสมุดหนังสือสองสามเล่มติดมือ มันเอ่ยทิ้งท้ายอย่างเอาจริงเอาจัง....
“ถ้ากูจำไม่ผิด...ไอ้เอ็ด! มึงเคยพูดว่า “เมื่อไม่มีครู มึงนั่นแหละจะเป็นครูให้กับชีวิตมึง คนเป็นผู้สร้างโรงเรียน สร้างวิทยาลัย ตลอดจนมหาวิทยาลัย...แล้วก็คนอีกนั่นแหละมอบวุฒิบัตรและรับวุฒิบัตร...” มึงเป็นครูแก่ชีวิตมึงได้ แล้วกูล่ะ?”
เพื่อนๆจากไปแล้ว บ้านทั้งหลังเหลือเขากับความคิดอันว้าวุ่น เพราะน้ำคำวัยรุ่น “อินทรีขาว” โดยมีเพื่อนแห่งความว้าเหว่เวียนอยู่รอบกายในที่สุดก็ลุกขึ้นยืนเกาะราวระเบียงทัศนาแสงเรืองรองของอาทิตย์อุทัย ส่วนสำนึกนั้นพร่ำภาวนา
“เพื่อนเอย...อย่าคิดผิดอย่างกู หรือระยำระห่ำเพราะลำพองอย่างเพื่อนมึงคนนี้เลย หัวใจกูมันร้าวเหมือนแก้ว พวกมึงคงไม่รู้ ฉะนั้นยามที่กูถูกกระทบมันจึงแตก!...จนต้องร่อนเร่ซุกหัวนอนไม่เป็นที่ รอบๆตัวก็เหมือนมีอาวุธพร้อมที่จะทิ่มแทงกู...แม้กระนั้น กูถอยหลังไม่ได้เสียแล้ว และเมื่อต้องเดินหน้า ไอ้เอ็ดจะต้ององอาจ ส่วนเพื่อนจงสะอาดบนวิถีของเพื่อนเถิดวะ...”ความเหว่ว้าพาให้ถวิลถึงทุกเรื่องที่สุดก็ตัดใจแต่งตัวปิดประตูหน้าต่างมุ่งไปหา บัง โบลิ่ง ทันที
บ้านพักรถไฟย่านเพชรบุรีตัดใหม่ คือรังรวงของนักเลงโบลิ่ง ยุคก่อนถนนสายนั้นรถวิ่งได้สะดวกโยธินไมม่ต้องคลานกิโลละค่อนชั่วโมงดั่งปัจจุบันนี้ แท็กซี่ยังไม่รู้จักการใช้แก๊ส ซึ่งถังแก๊สอาจจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ อีกทั้งคลองแสนแสบสายน้ำยังใสสะอาด มีนักค้าหัวใสลอยเรือค้าประเวณีกลาดเกลื่อน และบ้านริมคลองแสนแสบนั่นแหละที่จอมประลัยกัลป์วังบูรพาข้ามถิ่นไปหา บัง โบลิ่ง
บ้านเช่าสองชั้น เรือนไม้ไม่ใหญ่โตนักต้อนรับเขาโดยมีเจ้าของถิ่นคอยต้อนรับ พวกบริวารนับสิบที่นั่งมั่วล่อกัญชากันอยู่ชั่นล่างต่างทักทายเขาเกียวกราว บัง โบลิ่ง พาเขาขึ้นชั้นบนซึ่งจัดเตรียมสุราอาหารไว้เพียบ การสนทนาของสองดาวร้ายยังไม่พูดถึงงาน พอหน้าตึงเจ้าของถิ่นเปิดฉากทันที
“เสี่ยให้กูหาคนมีฝีมือมาลุ้นงาน กูมองไม่เห็นใครและก็ไม่มั่นใจเท่ามึง จึงบอกกับเสี่ยไว้ว่าหากมึงตกลง ทุนมีพร้อม หน้าที่แค่คุมบ่อนกับคุมเด็กตามโรงแรมเท่านั้น เพราะระยะนี้มึงก็รู้ว่า ไอ้เก๊า ม้าเก็ง กินข้ามถิ่นเลยธงมากไป”
เขากระดกเหล้า ตามติดด้วยบุหรี่พ่นควันกรุ่น ครู่หนึ่งจึงลองย้ำราคาของตนเองเป็นการทดสอบ
“แต่ค่าการตอบแทนเป็นเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงหรือหักเปอร์เซ็นต์จากเด็ก จากบ่อน”
“ไอ้บ้า!” นักเลงโบลิ่งโผงออกมา “นั่นมันแมงดากับมือตีนสำหรับใช้ในบ่อน มึงมีหน้าที่ดำเนินงานบริหารทั้งหมด วางงาน วางคน จัดการ อะไรบ้างเห็นดีเห็นควรอะไรเสี่ยเขาจะออกทุนให้เพราะสถานที่มีแล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนผู้นำ บ่อนกำลังเซ็ง แขกเที่ยวก็น้อย เพราะคนเก่าไม่ยอมหมุนเวียนเด็ก”
“อย่างนั้นมึงทำไมไม่รับงานนี้อเองล่ะ?” คู่สนทนาย้อน
“ก็ไม่ใช่ทศกัณฑ์นี่หว่า จะได้ดูแลทุกอย่างทั่วถึง นี่ขนาดกูเทียวไปเทียวมาในกิจการที่กูดูแลอยู่ยังไม่พ้นเจอน้องชายไอ้เก็าก่อกวนเลย”
วายร้ายวังบูรพารับฟังและอ่านเกมได้ทะลุยิ่งกว่าเปิดถ้วยแทงเสียอีก งานที่เสี่ยสุวิทย์มอบหมายให้ครั้งนี้ ข่าวเคยมีเข้าหูเขาแล้วสมัย #พัน_หลังวัง ยังไม่ดับ โดยเขาจะให้อดีตดาวร่วงคุมเกมมเป็น “กันชน” ไม่ให้อิทธิพลของนักเลงม้าเก็งเอ๋าลุกลามมาดึงแขกไปยังบ่อนคู่แข่ง
#เก๊า_ม้าเก็ง เองเขาก็หาใช่นายทุน...งานที่ทำมันก็คล้ายกับ #เอ็ด_หลังวัง กำลังได้รับมอบหมายนี่แหละ
สุริยัน ศักดิ์ไธสง
1
เก๊าม้าเก็ง เกียย้ง เก๊าตี๋
โฆษณา