หนังสือเพราะแบบนี้ลูกค้าถึงอยากกลับมาอีกครั้ง
.
หนังสือที่แนะนำวิธีการเปลี่ยนลูกค้าที่ซื้อครั้งเดียวให้กลับมาเป็นลูกค้าประจำของเรา
.
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณทาคาตะ ยาสุฮิสะ ที่เป็นนักบริหารลูกค้า ทำงานด้านการขาย วางแผนประเภทซอฟต์แวร์บริหารจัดการลูกค้า โดยเน้นดูแลลูกค้ากลุ่มร้านอาหารและร้านเสริมสวยเป็นหลัก
.
ทำให้ในหนังสือเล่มนี้กลยุทธ์หรือวิธีการที่ใช้ส่วนใหญ่ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาจะเกี่ยวกับเรื่องของร้านอาหารหรือว่าร้านเสริมสวย ในการเปลี่ยนลูกค้าที่ซื้อครั้งเดียวหรือขาจรให้เป็นลูกค้าประจำของร้าน
.
หนังสือจะบอกความลับง่ายๆหรือเคล็ดลับที่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีหลังจากอ่านเล่มนี้จบหรืออ่านบางบทจบด้วยซ้ำที่ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถประสบความสำเร็จได้
.
หนังสือเล่มนี้ได้บอกให้เรารู้ถึงสาเหตุต้นตอจริงๆที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ ไม่ใช่เพราะตัวสินค้า วิธีต้อนรับลูกค้า หรือเพราะราคา แต่ปัจจัยชี้ขาดหรือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ เอาจริงๆนะลูกค้าแค่ลืมร้านของเราเท่านั้นเอง
.
ด้วยกฎ 3 ข้อที่หนังสือเล่มนี้คิดค้นขึ้นมา จากการรวบรวมข้อมูลจากการทำงานโดยตรง จริงๆหนังสือเล่มนี้ให้นิยามว่าเป็นกดเลข 3 คือ
3 วัน
3 สัปดาห์
3 เดือน
ด้วยหนังสือได้บอกว่าคนเรามักจะลืมถ้าเกิดว่าเราไม่ได้ทบทวนสิ่งๆนั้น เช่น บทเรียนส่วนใหญ่เราจะลืมภายใน 80 ชั่วโมงหรือโดยเฉลี่ยประมาณ 3 วัน
และหากเราไม่ได้นึกถึงหรือกลับไปร้านอีกครั้งภายใน 3 สัปดาห์ สมองของมนุษย์เราจะย้ายข้อมูลส่วนนั้นไปเก็บไว้ในส่วนที่ดึงออกมาใช้งานได้ยาก
แล้วก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ถ้า 3 เดือนแล้วเรายังไม่ได้นึกถึงมันอีกครั้งที่เราจะจำมันได้
.
ตัวอย่างที่ผมค่อนข้างชอบและสามารถนำไปใช้ได้เลย คือ 3 เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มลูกค้าประจำได้มากขึ้น 7 เท่า
โดย 3 เครื่องมือที่ว่านี้ก็คือการส่ง direct Mail 3 ฉบับไปให้ลูกค้า ซึ่งจะสอดคล้องกับกฎ 3 ข้อ ที่พูดมาเมื่อสักครู่ โดยหนังสือได้แบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้
direct Mail ที่ส่ง 3 วันให้หลัง อันนี้คือ Thank You Mail
direct Mail ที่ส่ง 3 สัปดาห์ให้หลัง อันนี้คือ Like Mail
direct Mail ที่ส่ง 3 เดือนให้หลัง อันนี้คือ Love Mail
ตามกฎ 3 ข้อ
การส่ง Thank You Mail เป็นการสื่อความรู้สึกขอบคุณที่มาอุดหนุนร้านหรือว่ามาอุดหนุนธุรกิจของเรา
.
การส่ง Like Mail เป็นการมอบความประหลาดใจที่คาดไม่ถึงหรือการโชว์หลักฐานเช่นรีวิวจากลูกค้า โดยรีวิวนี้อาจจะไม่ได้เน้นคุณภาพแต่ขอให้เน้นปริมาณ ยิ่งมีรีวิวเยอะยิ่งมีความน่าเชื่อถือ
.
และส่วนสุดท้ายคือ Love Mail มันคือยาแรง และห้ามส่งอีเมลแบบนี้ถึงลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำหลังได้รับ Thank You Mail กับ Like Mail เป็นอันขาด อันที่จริง Love Mail คืออีเมลที่ส่งในลักษณะโปรโมชั่นส่วนลด หรือล่อด้วยเงิน ไม่ควรส่งให้ลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำด้วยความเต็มใจ เพราะไม่งั้นลูกค้าจะคิดได้ว่าทำไมเขาไม่ได้ส่วนลดเหมือนกับคนอื่น จริงๆหนังสือจะบอกเหมือนกันว่า ถ้าเราส่งกลับไปให้ลูกค้าคนเดิมพี่เคยกลับมาแล้วเราจะแก้ไขได้ยังไงบ้าง อันนี้แนะนำลองให้ไปหามาอ่านดูนะครับ
.
ในหนังสือถึงแม้จะเล็กแต่เนื้อหาค่อนข้างละเอียด ผมขอยกตัวอย่างเนื้อหาในหนังสือที่พาเราไปทำความรู้จัก อย่างเช่นเรื่องของ 4 ขั้นตอนของการใช้ฐานข้อมูล เมื่อเรามีข้อมูลลูกค้าส่วนหนึ่ง เราจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ยังไงบ้าง โดยการส่ง direct Mail ก็เป็นหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เราได้
.
พร้อมทั้งพาเราไปหาเหตุผลว่าทำไมลูกค้าไม่เลือกร้านเรา เพราะจริงๆแล้วสิ่งที่ลูกค้าไม่ได้เลือกร้านเราไม่ใช่เพราะสินค้าเราไม่ดี ราคาไม่ดึงดูดใจ หรือต้อนรับไม่น่าประทับใจ แต่มันอยู่ที่การสื่อสารว่าเราสื่อสารเหตุผลและหลักฐานออกไปให้ลูกค้าได้รับรู้และสร้างความประทับใจได้มากน้อยแค่ไหน
.
ในส่วนของท้ายเล่มหนังสือได้บอกเคล็ดลับสุดยอดเครื่องมืออย่างเรื่อง เมนูแจก พร้อมทั้งยกตัวอย่างที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วว่าเขาทำเมนูแจกยังไง ซึ่งผมว่ามันน่าจะเหมาะกับคนที่ทำร้านเสริมสวยและร้านอาหาร น่าจะมีประโยชน์อย่างมาก หากนำ"เมนูแจก"นี้ ไปปรับใช้ให้เหมาะกับร้านของตัวเอง ลองหามาอ่านดูนะครับ
.
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่ทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านเสริมสวย เพราะผมรู้สึกว่าเนื้อหามันค่อนข้างอิงไปกับคนเหล่านั้น อาจจะด้วยประสบการณ์ของนักเขียนที่เป็นที่ปรึกษาในด้านนี้ของธุรกิจด้านนี้ด้วย
แต่ถ้าใครอยากอ่านแล้วเอาเทคนิคไปปรับใช้ในธุรกิจของตัวเองที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่ก็สามารถหาซื้อมาอ่านได้นะครับ เพราะราคาไม่แพงมาก จำนวนหน้าก็ไม่ได้เยอะ สามารถอ่านจบได้ภายในวันเดียวหรือสองวันด้วยซ้ำ
.
แนะนำครับ
.
จำนวนหน้า 195 หน้า
ราคา 220 บาท