6 ก.พ. 2021 เวลา 08:04 • สุขภาพ
✴️ สิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ✴️
Entities
เนื่องจาก "คริสตัลลาริมาร์" และ "ส้อมเสียง" สามารถขับไล่เจ้าสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ได้ ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักเจ้าสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดนี้อย่างเจาะลึกกันว่าพวกมันคืออะไรกันแน่?
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
🔸อะไรคือสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด?🔸
(และวิธีการตรวจเช็คว่าคุณมีสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เกาะอยู่หรือไม่)
ผู้เขียน : Verdell Jessup (เวอร์เดล เจสซับ)
เจ้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านระบบประสาท (อยู่ที่แคนาดา)
พวกคุณเชื่อว่ามันมีสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด (ที่มีร่างเป็นพลังงานและปราศจากกายเนื้อ) ที่อาศัยอยู่ได้ด้วยการดูดกินพลังงานชีวิตอยู่จริงหรือเปล่า? กองทัพแห่งด้านมืดหรือปีศาจที่ชั่วร้ายล่ะ? มันอาจจะฟังดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่จินตนาการในนวนิยายวิทยาศาสตร์ เช่น สตาร์วอร์ส เท่านั้น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในฐานะนักบำบัดและผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพทางเลือกซึ่งนั่นก็คือ "เพียงเพราะเราไม่สามารถทำความเข้าใจถึงความเป็นจริงอื่นๆได้เสมอไป ไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง" เพียงเพราะคุณไม่สามารถ "รู้สึก หรือ รับรู้" ถึงสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดที่อยู่รอบๆตัวคุณเหล่านี้ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่ได้อยู่ที่นั่น
เอาล่ะ - ฉันไม่ได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้คุณกลัว ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นเลยสักนิด ก็จริงที่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผู้คนจำนวนมาก ด้วยเหตุนั้น ฉันจึงแนะนำให้คุณรับข้อมูลนี้ด้วยความ 'สงสัยและอยากรู้อยากเห็น' มากกว่า แทนที่จะรับข้อมูลนี้ด้วยความหวาดกลัว★
ตกลงไหม?
★ความกลัวเกิดจากความไม่รู้ แต่หากได้รู้แล้ว ความกลัวก็จะลดลง หรือ หายไป
—แอดมิน—
ก่อนที่ฉันจะเข้าเรื่องของสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ และวีธีการกำจัดพวกมันออกไป ฉันอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ครั้งแรกในการพบปะกับคนผู้หนึ่งที่ถูกสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เข้าสิง
ในปี 2012 ฉันได้เดินทางไกลเพื่อไปเข้าร่วมงาน "ศิลปะด้านการบำบัด" ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ด้วยความช่วยเหลือของ Google ฉันได้พบกับนักบำบัดที่มีชื่อเสียงบางคนที่นั่น และหลังจากได้อธิบายงานบำบัดรักษาแบบส่วนตัว (private practice) ที่ฉันได้ทำ (งานบำบัดที่ใช้การสัมผัสร่างกายอย่างอ่อนโยน - gentle touch-based somatic work) หนึ่งในนั้นขอร้องว่า ขอให้ฉันไปช่วยลูกสาวของเพื่อนของเขาได้ไหม เธออายุ 21 ปี และเป็นโรคอะนอเร็กเซีย★ ฉันตอบตกลงอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วันต่อมาฉันก็ได้พบกับเธอเพื่อทานอาหารกลางวันร่วมกัน
★โรคเบื่ออาหารที่เกิดจากความผิดปกติทางจิต ผู้ป่วยจะมีความกลัวน้ำหนักขึ้นและมีความต้องการที่จะผอมเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยอะนอเร็กเซียมักมองว่าตัวเองมีน้ำหนักเกินทั้งที่ในความเป็นจริงมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ และมักปฏิเสธว่าตัวเองมีปัญหาด้านน้ำหนักลด พวกเขามักใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการทานน้อย ออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ตัวเองอาเจียนหรือใช้ยาระบาย ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้แต่คาดการณ์เท่านั้น
—แอดมิน—
ในชีวิตที่ผ่านมาของฉัน (ที่ได้ผ่านการบำบัดผู้คนมามากมาย) พูดจากใจจริงเลยว่า ฉันไม่เคยได้พูดคำว่า "ถูกสิง" หรือมีความคิดใดๆที่เกี่ยวกับคำๆนี้เลย แต่ทว่าเมื่อฉันได้พบกับเธอ ฉันรู้ได้ในทันทีเลยว่าเธอนั้น "ถูกสิง"
แม้ว่าฉันจะรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับความคิดแบบนั้น และมันก็ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด แต่มันมีบางสิ่งในดวงตาของเธอที่ทำให้ฉันเกิดความคิดแบบนั้น - อาจเป็นเพราะดวงตาที่ดูว่างเปล่าคู่นั้นกระมัง ดวงตาที่ดูเหมือนปราศจากชีวิตและจิตวิญญาณ และในทันทีที่เราได้เริ่มพูดคุยกันฉันก็มั่นใจได้ทันทีว่าเธอนั้นถูกสิงอย่างแน่นอน
ในแต่ละประโยคที่เธอพูดมันยิ่งทำให้ทฤษฎีของฉันหนักแน่นมากยิ่งขึ้นไปอีก และมันยังมีการตระหนักรู้อยู่ลึกๆของตัวเธอเองด้วยที่มีส่วนร่วมในการทำให้แน่ใจได้ว่าเธอนั้นถูกสิงจริงๆ (บางทีจิตใต้สำนึกของตัวเธอเองนั้นก็รู้ดีว่า ตัวเธอนั้นกำลังถูกอะไรบางอย่างสิงอยู่) :
“ฉันรู้สึกราวกับว่าใครบางคนกำลังควบคุมฉันอยู่...ฉันรู้สึกราวกับว่าไม่ใช่ฉันที่เลือกที่จะไม่กิน...ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกชักนำไปสู่เส้นทางที่ผิดในชีวิตอยู่เสมอ...ฉันรู้สึกเหมือนคนไร้ทิศทางไม่รู้จะมุ่งหน้าไปทางไหน...ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันไม่มีเพื่อนและมีบางอย่างกำลังบ่อนทำลายความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นอยู่เสมอ”
หลังจากอาหารกลางวันมื้อนั้น ฉันจากเธอมาด้วยความไม่แน่ใจ เพราะนี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของฉันในการพบเจอกับอะไรแบบนี้ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาฉันได้รู้ว่าอาจารย์ใหญ่ประจำกลุ่ม (ที่พบปะกันในงานครั้งนั้น) ยืนยันว่าเธอนั้นถูกสิงจริงๆ และเขากำลังทำงานร่วมกับเธอในการกำจัดเจ้าสิ่งมีชีวิตดังกล่าว ขนลุก!
Spirit
🔸 ความแตกต่างระหว่างวิญญาณและสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด 🔸
ฉันต้องการที่จะทำลายความเชื่อผิดๆที่คุณกำลังเชื่ออยู่ ในการบำบัดรักษาแบบส่วนตัวของฉัน  ฉันได้ทำงานร่วมกับเด็กหลายคนที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ บ่อยครั้งที่เด็กเหล่านี้มีประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อน★ และการเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณ (ระนาบที่อยู่เหนือโลกวัตถุทางกายภาพ) ที่ชัดเจนมากกว่าคนส่วนใหญ่ และในบางครั้งฉันยังได้ทำงานร่วมกับพวกผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ และ ออร่า
★เนื่องจากเด็กเพิ่งจากโลกวิญญาณมายังไม่นานนัก การเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณจึงยังคงชัดเจนอยู่ และจิตของพวกเขายังคงบริสุทธิ์อยู่มาก เพราะยังไม่ได้ถูกแปดเปื้อนไปด้วยเรื่องทางโลกและถูกตีกรอบการรับรู้มากนัก
-แอดมิน-
โดยปกติผู้คนมักจะกลัวพวกเขา แต่โดยทั่วไปแล้ววิญญาณเหล่านี้ไม่เป็นอันตราย พวกเขาเพียงต้องการกล่าวว่า "สวัสดี", "ลาก่อน" หรือกำลังบอกกับเราว่าพวกเขากำลังจะจากไปและต้องการความช่วยเหลือ และ/หรือ เรียกร้องความสนใจจากเรา พวกเขาไม่ได้กำลังพยายามทำร้ายคุณ ดังนั้นได้โปรดทำใจยอมรับและจงพยายามช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นออกไปจากอาณาเขต (โลกวัตถุทางกายภาพ) ที่พวกเขารู้สึกยึดติดอยู่ หากคุณเคยรู้สึกเป็นนัยๆด้วย "สัมผัสที่หก" ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง นั่นก็อาจเป็นสัญญาณว่ามีวิญญาณวนเวียนอยู่รอบๆ
🔹เคล็ดลับในการขับไล่วิญญาณ🔹
นำก้อนเสจแบบแห้ง (พืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง) มาจุดไฟแล้วเป่าให้ดับจนเกิดเป็นควันขึ้นมา (เหมือนกับธูป) จากนั้นก็ให้วางมันลงไปในชามเซรามิกหรือแก้วเพื่อเก็บเศษขี้เถ้าของมันเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ให้เดินไปรอบๆห้องในทิศทางตามเข็มนาฬิกา (เวียนขวา) และจงใส่ใจมุมต่างๆของห้องเป็นพิเศษโดยให้มั่นใจว่าได้หยุดปล่อยควัน (ยกชามบรรจุเสจขึ้นลงๆ วนๆหลายๆครั้ง) ไว้ตรงนั้นสักระยะหนึ่ง
ในขณะที่เดินไปรอบห้องหากท่องมนตรา★ ไปด้วยตลอดเวลาก็จะเป็นการดีมาก มนตราดังกล่าวก็อาจเป็นคำพูดแบบง่ายๆเช่น "อะไรก็ตามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่ของฉันได้โปรดออกไปเดี๋ยวนี้ และขอให้พระผู้เป็นเจ้า (หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือ) ได้โปรดนำทางพวกเขากลับคืนสู่แสงสว่างด้วยเถิด" แต่ในบางครั้งวิธีการนี้ก็อาจไม่เพียงพอที่จะขับไล่วิญญาณให้ออกไปจากพื้นที่ได้ หากเป็นเช่นนั้นก็ให้ติดต่อนักบำบัดที่คุณรู้จัก (ที่มีความสามารถที่เชื่อถือได้) ให้มาจัดการเรื่องนี้แทน
★การท่องมนต์เป็นการรวมรวบเจตจำนงโดยใช้คำพูดชักนำจิต  (และคำพูดบางคำที่บ่งชี้ถึงบางสิ่ง เช่นพระเจ้า หรือพระพุทธเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ นั้นมีพลังมาก) เพื่อให้จิตมีความจดจ่อมากขึ้น ยิ่งจิตจดจ่อและรวมตัวมากเท่าไหร่ จิตก็ยิ่งมีพลังมากเท่านั้น
-แอดมิน-
แต่น่าเสียดายที่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดนั้นเป็นอะไรที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง และไม่สามารถขับไล่ได้ด้วยเพียงแค่ควันจากเสจหรือมนตรา เพราะสิ่งมีชีวิตดังกล่าวจะดำรงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อต้องเกาะกินพลังงานชีวิตของสิ่งมีชีวิตอื่น (โดยเกาะติดอยู่ที่สนามพลังออร่าของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ) และหากพวกมันไม่ถูกกำจัดหรือถูกขับไล่ออกไปพวกมันก็จะอยู่กับเราไปจนวันตาย
ธรรมชาติของพวกมันคือการรุกราน (คล้ายกับเชื้อโรค) และสามารถเกาะติดอยู่กับเราโดยที่เราไม่อาจรู้ตัวได้ พวกมันสามารถสำแดงตัวได้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่ดูเหมือนกับมนุษย์ (มีโครงสร้างคล้ายมนุษย์ เช่น มีแขน ขา มีหัว และหน้า เป็นต้น), ภูติผี, ปีศาจ, อสุรกาย, หนอน, แมลง, งูยักษ์, สัตว์เลื้อยคลาน และ ฯลฯ อะไรก็ตามที่คุณนึกภาพออก ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
〰️〰️〰️
🔸 สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดทั้ง 3 ประเภท 🔸
1️⃣ ผู้ติดตาม
ประเภท "ผู้ติดตาม" นี้ จะเกาะอยู่บนตัวเราเหมือนผู้โดยสารฟรี โดยที่พวกมันจะเกาะอยู่กับเราแค่ชั่วคราวเหมือนกับเงาที่จะติดตามหลังเราไปทุกที่โดยมีเวลาที่ไม่แน่นอนว่าจะเกาะอยู่กับเรานานเท่าไหร่ ซึ่งในบางครั้งเราอาจเห็นมันได้แว๊บๆ (หรือรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง) ทางหางตา
2️⃣ ปรสิต
ประเภท "ปรสิต" นี้ จะคอยดูดกินพลังชีวิตของตัวเราเหมือนกับกาฝาก ประเภทปรสิตนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกหมดพลัง ไร้เรี่ยวแรง และเหนื่อยง่ายอยู่เสมอ และเป็นไปได้ที่มันอาจทำให้เรารู้สึกขี้หงุดหงิดและขี้โมโหได้ง่าย (ขี้เหวี่ยง) หากเวลาผ่านไปนานเข้าพวกมันสามารถก่อให้เกิดความเจ็บป่วยทางกายซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถหาสาเหตุของความเจ็บป่วยนั้นได้อีกด้วย
3️⃣ ผู้ควบคุม (สิงสู่)
ประเภทผู้ควบคุมหรือสิงสู่นี้ คือประเภทที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้มากที่สุด★ เหมือนกับเด็กสาวชาวฝรั่งเศสที่ฉันได้กล่าวถึงไว้ข้างบน ในกรณีนี้บุคคลผู้นั้นจะถูกควบคุมโดยสิ่งมีชีวิตอื่นที่สิงสู่อยู่ภายในพวกเขา
★เพราะมันจะคอยควบคุมผู้ถูกสิง (ทั้งความคิดและจิตใจ) ให้หลงเดินทางผิดอยู่เสมอ ไม่อยากที่จะคบค้ากับใคร (เพราะสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดไม่อยากให้ใครมารบกวนมัน มันอยากจะกินพลังงานไปเงียบๆเรื่อยๆ เพราะหากไปติดต่อกับผู้อื่น คลื่นความถี่ของผู้ถูกสิงอาจถูกยกระดับขึ้นได้ ทำให้ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้) และมักจะถูกชักนำให้ทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่เสมอ อะไรที่ไม่ดีกับชีวิตก็ทำหมด (เพื่อคงไว้ซึ่งคลื่นความถี่ต่ำ) ซึ่งเป็นหนทางที่จะทำลายทั้งชีวิตของผู้ถูกสิงให้วอดวายได้อย่างรวดเร็ว (และเมื่อร่างต้นตายมันก็ย้ายไปหาเกาะร่างต้นใหม่)
-แอดมิน-
🔸 ทำไมสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ถึงต้องยึดเกาะผู้คนและทำไมบางคนจึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดพวกมันเข้ามา 🔸
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้คือสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดที่จะคอยกัดกินพลังงานของสิ่งมีชีวิตอื่น (เพราะนี่คือธรรมชาติในการดำรงอยู่ของพวกมัน ก็เหมือนกับยุงที่ต้องกินเลือด -แอดมิน-) พวกมันสั่นพ้องเข้ากันได้ดีกับคลื่นความถี่ต่ำ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่มีคลื่นความถี่ต่ำก็มักจะดึงดูดพวกมันให้เข้ามาหา (เพราะพวกมันชอบอาศัยอยู่กับคลื่นความถี่ต่ำๆแบบนี้) ซึ่งก็หมายความว่าคนที่มีคลื่นความถี่ต่ำก็แทบจะแน่ใจได้เลยว่าจะดึงดูดสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ให้เข้ามาหาอย่างแน่นอน★
★แต่ก็สบายใจกันได้แล้วนะครับ เพราะลาริมาร์และส้อมเสียงสามารถขับไล่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดพวกนี้ได้
-แอดมิน-
สร้อยข้อมือคริสตัลลาริมาร์ & ส้อมเสียง
🔸 จากประสบการณ์ของฉัน คนที่น่าจะมี หรือ ดึงดูดสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ให้เข้ามาหาได้มากที่สุดก็คือคนที่ 🔸
▪️ อ่อนแอหรือเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง
▪️ มีประสบการณ์การถูกล่วงละเมิด (ทางอารมณ์, ทางเพศ, หรือทางกาย) และได้รับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างรุนแรงและยาวนานตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก
▪️ เคยได้รับการผ่าตัด (ที่ต้องสลบ) หรือผ่านประสบการณ์ตายแล้วฟื้น (วิญญาณออกจากร่างไปชั่วคราว)
▪️ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
▪️ เสพติดบางอย่างอย่างรุนแรง หรือติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์
🔅ข้อตักเตือน🔅 ; เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าสำหรับเด็กคนใดก็ตามที่เกิดก่อนครบกำหนดคลอดจะมีความเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณที่มากกว่าคนทั่วๆไปมาก (เพราะยังไม่พร้อมลงมายังโลกทางกายภาพแต่ด้วยเหตุปัจจัยบางอย่างทำให้ต้องลงมาก่อนกำหนด) จึงมีโอกาสสูงมากที่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้จะถูกดึงดูดให้เข้ามาหา ซึ่งการอยู่เพียงลำพังคนเดียวและการขาดการติดต่อกับมนุษย์คนอื่นๆทำให้การเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณ (หรือระนาบอื่นๆ) ยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นไปอีก เมื่อต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังในตู้อบ ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว (เพราะยังรู้สึกไม่คุ้นเคยกับที่นี่ กับโลกทางกายภาพนี้) และขาดการเชื่อมต่อและการสัมผัสทางกายภาพกับมนุษย์คนอื่นๆ (จึงส่งคลื่นความถี่ลบออกมา) จึงสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดในการล่าเหยื่อและเข้ามายึดเกาะ
🔸 สัญญาณบ่งชี้บางอย่างที่อาจบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดกำลังเกาะติดคุณอยู่ 🔸
▪️ ตอนเด็กเคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่ปะทุออกมาแบบไม่มีเค้าลางมาก่อนล่วงหน้า
▪️ มองโลกในแง่ลบอยู่เสมอ, มักมีพฤติกรรมไปในทางลบอยู่เสมอ (ทำบาปหรือทำไม่ดีอยู่เป็นนิจ)
▪️ มีปัญหาในการนอนหลับ, ในบางครั้งก็ตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วรู้สึกว่าถูกตรึงเอาไว้กับเตียงไม่สามารถขยับตัวได้★
★ตอนเด็กๆผมเป็นบ่อยมากข้อนี้ทั้งในขณะที่หลับตอนกลางวันและตอนกลางคืน... (เพิ่งรู้สาเหตุหลังจากแปลบทความนี้นี่ล่ะ ถึงว่าสวดมนต์ก็แล้ว อะไรก็แล้วก็ไม่ไป 😅)
-แอดมิน-
▪️ เหนื่อยล้า รู้สึกไม่มีแรงอยู่เสมอ
▪️ ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด
▪️ กลัวความมืด
▪️ ชอบเช็คบ่อยๆว่ามีอะไรอยู่บนไหล่หรือเปล่า, ได้ยินเสียงคล้ายเสียงกระซิบ (เหมือนใครมากระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู)
▪️ มีสภาวะสุขภาพร่างกายที่มักจะทำให้แพทย์ที่ตรวจสุขภาพของคุณงงงวยอยู่เสมอว่าคุณเป็นอะไรกันแน่
▪️ มีพฤติกรรมในการกินที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
▪️ รู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังควบคุมคุณอยู่
✴️ ปิดท้าย ✴️
สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดนั้นมีความสามารถในการซ่อนตัวที่สูงมาก และมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปหรือสามารถหายตัวไปจากสายตาได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งอาจกล่าวอีกอย่างได้ว่า : 🌸 หากพวกมันถูกพบตัวเมื่อไหร่พวกมันก็จะถูกขับไล่ออกไปได้อย่างง่ายดาย 🌸
และน่าแปลกที่มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสามารถในการขับไล่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านี้ได้ พวกเขาไม่ได้หายากอย่างที่คุณคิด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา